14 ธ.ค. 2019 เวลา 02:00 • บันเทิง
รีวิวหนัง ฮาร์ทบีท
หนังรักพล็อตเดาง่าย
แต่รอดตายได้ เพราะคู่พระเอก-นางเอก
..เรื่องย่อ..
ชัย (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) หนุ่มใหญ่วัย 40 ปี เดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ และได้เข้าพักในโฮมสเตย์ของ น้ำหวาน (มนสภรณ์ ชาญเฉลิม) นักศึกษาลูกสาวของเจ้าของโฮมสเตย์ที่มีปัญหาโรคหัวใจ เขามาเชียงใหม่ครั้งนี้พร้อมรูบิกของแฟนเก่าที่ตายไป
เพื่อหาคำตอบให้กับความรู้สึกที่ยังติดค้างคาใจของเขาอยู่ โดยระหว่างนั้นน้ำหวานก็พยายามจะทำลายกำแพงเพื่อเข้าหาเขาไปทีละน้อย แต่ติดปัญหาเดียวคือ ความต่างของวัยที่ทำให้ไลฟ์สไตล์คนรุ่นลุงของเขาต่างจากสไตล์เด็กสาววัยรุ่นอย่างเธออย่างสิ้นเชิง
--รีวิว--
คะแนน : 6/10
ตัวหนังเปิดมาด้วยพล็อตที่เด็กอายุ 10 ขวบยังเดาได้ ทำให้ความสนุกของตัวหนังลดลงไปกว่าครึ่ง บวกกับความไม่มีที่มาที่ไปของบทหนัง การเรียงลำดับเนื้อหนังไม่ดี และบทพูดที่ไม่สอดคล้องกับเหตุการณ์ ที่เหมือนจับยัดเพื่อให้เนื้อเรื่องมันเดินไปข้างหน้าอย่างไม่สนเหตุผลอะไรทั้งนั้น
หนังเสียเวลามากไปกับการนำเที่ยวเชียงใหม่ในโลเคชั่นเดิมๆ ที่คุณสามารถเห็นได้ตามหนังหรือละครเรื่องก่อนๆ ทั้งๆ ที่ควรเน้นให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ของพระเอกและนางเอกมากกว่า ทำให้ตอนท้ายเราไม่ค่อยอินกับการจากลาของทั้งสองคนมากนักเท่าไหร่
นางเอกดูเหมือนจะรักพระเอกตั้งแต่แรกพบ จุดนี้ไม่ติดอะไรเพราะด้วยพล็อตหนัง (ที่บอกว่าทุกคนต้องเดาได้แน่นอน) ช่วยทำให้เรารู้สึกว่า “เพราะงี้แกถึงรักเขาไงยัยน้ำหวาน” ข้อดีที่ช่วยให้หนังเรื่องนี้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป คือการแสดงของลุงเคนที่ตอนดูในโรงจะมีเสียงกรี๊ดจากคนดูสาวๆ มาเป็นระยะ รวมถึงความน่ารักของน้องพลอยมน ที่เคยเกือบตกผมไปแล้วในบทน้องฝึกงาน จากเรื่อง “น้อง พี่..ที่รัก”
แต่เรื่องนี้เรียกได้ว่าเอาใจพี่ไปเลยเต็มๆ ยิ่งฉากที่พระเอกถูกปิดตาเพราะกลัวความสูงและเปิดตามาเห็นนางเอก บ๊ะเจ้า!!! ช็อตนี้เหล่าบุรุษในโรงต้องมีโดนตกกันบ้างแหละ พระเอกนางเอกเข้ากันได้มากกว่าที่คิด แม้กระทั่งมุกเสี่ยวที่ไม่รอด (แป้ก) แต่เมื่อสองคนนี้เล่นด้วยน้ำเสียง และหน้าตาก็ทำให้ไปรอดได้ในส่วนใหญ่นะ และด้วยความน่ารักนี้ทำให้เราอยู่กับหนังไปได้จนจบเรื่อง
สรุป
หนังขาดความแปลกใหม่ ทั้งพล็อต โลเคชั่น และบท เล่าถึงประเด็นเรื่องรักต่างวัยน้อยเกินไป ทั้งๆ ที่น่าจะเประเด็นหลักของหนัง แต่การแสดงของพระเอกนางเอกทำให้เพลินๆ สามารถดูไปยิ้มไปได้ตลอดทั้งเรื่อง จึงอาจเหมาะกับคนที่ไม่คิดอะไรมาก เพราะหนังก็ไม่ได้แย่อะไร แค่ขาดสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ “จุดไคล์แม็กซ์” หรือต่อให้มีก็ขยี้ออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร
**เราจะไม่เอาเรื่องการ Tie in ที่ไม่เนียนมากๆ มาพูด ด้วยเหตุผลที่ว่า “เข้าใจว่าหนังต้องใช้เงินในการสร้าง...เราเข้าใจนาย”
หากชอบสามารถกดถูกใจ และกดติดตามเพจ "ชีวิตโคตรหนัง" เพื่อจะได้ไม่พลาดรีวิวหนัง และบทความเกี่ยวกับบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่คุณอ่านแล้วต้องอุทานออกมาว่า "ชีวิตเขาแมร่งโคตรหนังเลย"
โฆษณา