[ ‘กองทุน LTF’ ปีสุดท้าย ควรเลือกกองไหนดี ? ]
ปีสุดท้ายแล้วสำหรับการลงทุนในกองทุน LTF (Long Term Equity Fund หรือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว) และยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยปีหน้า (2563) จะมีกองทุนน้องใหม่ที่กระทรวงการคลังเคาะออกมาคือ กองทุน SSF มาทำหน้าที่นี้แทน
แต่หากใครที่อยากประหยัดภาษีในปี 2562 ก็ยังสามารถใช้สิทธิได้เต็มที่ แม้จะเป็นปีสุดท้ายก็ตาม แต่หากซื้อกองทุน LTF ในปีนี้ ก็จะสามารถขายคืนได้ในปี 2568 ตามเกณฑ์ 7 ปีปฏิทิน
“ชญานี จึงมานนท์” นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา มียอดซื้อสุทธิกองทุน LTF มากกว่า 4 พันล้านบาท ถือว่ามีแรงซื้อสุทธิเข้ามามากขึ้น เมื่อเทียบกับ 4 วันทำการแรกของเดือน ธ.ค. 2561 ที่มีแรงซื้อสุทธิเกือบ 1.4 พันล้านบาทเท่านั้น
ส่วนใครที่กำลังมองหากองทุน LTF ในช่วงโค้งสุดท้าย และปีสุดท้ายของการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี “มอร์นิ่งสตาร์ฯ” ได้รวบรวมจัดลำดับ 5 กองทุน LTF ที่มีผลตอบแทนโดดเด่น เพื่อเป็นข้อมูลการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุน แบ่งตามช่วงเวลา ดังนี้
กองทุน LTF ที่มีผลตอบแทนโดดเด่นย้อนหลัง 1 ปี ได้แก่
1. กองทุนเปิดแอสเซทพลัส สมอล แอนด์ มิด แคป อิควิตี้ หุ้นระยะยาว (ASP-SMELTF) 7.07%
2. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (SCBLT1) 5.72%
3. กองทุนเปิดไทยพาณิชยหุ้นระยะยาว พลัส (SCBLT2) 5.33%
4. กองทุนเปิดแอสเซทพลัส หุ้นระยะยาวทวีกำไร (ASP-GLTF) 4.49%
5. กองทุนเปิดธนชาต Low Beta หุ้นระยะยาวปันผล (T-LowBetaLTFD) 4.42%
กองทุน LTF ที่มีผลตอบแทนโดดเด่นย้อนหลัง 3 ปี ได้แก่
1. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นระยะยาว พลัส (SCBLT2) 7.05%
2. กองทุนเปิดทิสโก้ หุ้นระยะยาว ชนิดหน่วยลงทุน B (TISCOLTF-B) 6.61%
3. กองทุนเปิดกรุงศรี หุ้นระยะยาว SET50 (KFLTF50) 6.57%
4. กองทุนเปิดเค เซ็ท 50 หุ้นระยะยาว (KS50LTF) 6.29%
5. กองทุนเปิด JUMBO 25 ปันผล หุ้นระยะยาว (JB25 LTF) 6.28%
กองทุน LTF ที่มีผลตอบแทนโดดเด่นย้อนหลัง 5 ปี ได้แก่
1. กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์ หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) 4.40% ต่อปี
2. กองทุนเปิดภัทร หุ้นระยะยาวปันผล (PHATRA LTFD) 3.55%
3. กองทุนเปิดยูโอบี หุ้นระยะยาว (UOBLTF) 3.53%
4. กองทุนเปิดพรินซิเพิล หุ้นระยะยาว (PRINCIPAL LTF) 3.40%
5. กองทุนเปิดแมนูไลฟ์ สเตร็งค์ คอร์ หุ้นระยะยาว (MS-CORE LTF) 3.31%
การเข้าซื้อกองทุน LTF ในช่วง ธ.ค. 62 ดูเหมือนจะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ จากทั้งเหตุผลที่เป็นปีสุดท้ายของการสิทธิทางภาษี และเป็นช่วงจังหวะของราคาหุ้นที่ปรับลงมาอยู่ในระดับที่ไม่แพงมากนัก
แต่สิ่งสำคัญที่อยากให้นักลงทุนทุกท่านได้พิจารณาก็คือ แม้จะเป็นปีสุดท้าย แต่หากซื้อเพื่อใช้ลดหย่อนภาษี คุณต้องถือจนครบเกณฑ์ 7 ปีปฏิทิน ดังนั้นจะขายคืนได้ก็ปี 2568 เป็นต้นไป และที่สำคัญควรอ่านรายละเอียดนโยบายลงทุนของแต่ละกองทุนให้ละเอียด ก่อนลงทุนทุกครั้ง ไม่ควรมองที่ผลตอบแทนย้อนหลังเพียงอย่างเดียว
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
