17 ธ.ค. 2019 เวลา 02:00 • บันเทิง
รีวิว “Knives Out”
ฆาตรกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่
เรื่องย่อ
ฮาร์ลาน ธรอมบีย์ นักเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนชื่อดัง เจ้าของผลงานตีพิมพ์มากกว่า 80 ล้านเล่มทั่วโลก เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ในคืนงานฉลองวันเกิดครบ 85 ปี โดยวันนั้นทุกคนในครอบครัว ‘ตระกูลธรอมบีย์’ ได้มารวมตัวกัน และตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตรกรรมคุณปู่ งานนี้จึงต้องถึงมือของเบอนัวต์ บลองก์ (แดเนียล เคร็ก) นักสืบชื่อดังชาวอังกฤษ ที่ถูกว่าจ้างโดยบุคคลลึกลับ ให้เขาช่วยไขปมปริศนาและหาให้ได้ว่าใครกันแน่ที่เป็นฆาตกร และนำความจริงที่ซ่อนอยู่ของครอบครัวธรอมบีย์มาเปิดเผย
1
--รีวิว--
คะแนน : 9/10
หนังเล่าด้วยพล๊อตแนวสืบสวนที่เรียบง่าย มีคนถูกฆาตกรในคืนที่ทุกคนมารวมตัวกัน และสุดท้ายก็มีนักสืบมาสืบหาตัวฆาตรกร และก็จับตัวคนร้าย แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างกับหนังสืบสวนเรื่องอื่นๆ ก็คือ ลีลาการเล่นเรื่อง เลือกช่วงเวลาที่ค่อยๆ เฉลยปมของคดีได้อย่างถูกจังหวะ
และการที่หนังเน้นเล่าที่ผู้ต้องสงสัยอย่าง มาร์ธา คาเบร่า (อนา เดอ อาร์มาส) พยาบาลคนสนิทของคุณปู่ ที่ตัวละครของเธอมีความพิเศษตรงที่ เธอไม่สามารถพูดโกหกได้ เพราะเมื่อเธอโกหกร่างกายจะคลื่นไส้จนอ๊วกออกมาในทันที ทำให้หนังมีมุมมองที่แปลกใหม่ ช่วยให้ลุ้นไปกับตัวละครได้มากขึ้น มากกว่าที่เล่าผ่านนักสืบที่หนังสืบสวนส่วนใหญ่มักจะทำ
Knives Out เป็นหนังสืบสวนที่กราฟความสนุกของหนังจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้ช่วงต้นเรื่องอาจจะมีเนือยๆ อยู่บ้าง แต่หลังจากปูเรื่องราวของคดีและพื้นฐานของตัวะครทั้งหมดเสร็จ
การละสายตาจากหนังก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เพราะทุกเหตุการณ์ของหนัง การกระทำ บทพูดของตัวละครนั้นเป็นข้อมูลที่สำคัญ เมื่อถึงช่วงท้ายในตอนคลี่คลายคดี รายละเอียดเหล่านั้นจะกลับมาขยี้ความรู้สึกของคนดูอีกครั้ง (สำหรับคนที่คิดไม่ออกแหละนะ)
รวมทั้งบางคำพูดที่ฟังเหมือนเป็นคำพูดไม่ได้สำคัญอะไร แต่พอมานึกดูดีๆ แล้วมันมีความหมายนะ ยกตัวอย่างเช่น คำพูดของเบอนัวต์ บลองก์ ที่บอกว่า “โบราณเขาว่า หมามันดูคนออก”
เรื่องมุกตลกของหนัง ดูเป็นตลกร้ายที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว แม้เนื้อหนังจะเป็นคดีฆาตกรรมแฝงกับการเสียดสีสังคมที่ผู้อพยพเข้ามาทำงานในสหรัฐอเมริกาฟังดูน่าจะซีเรียส แต่ตลอดทั้งเรื่องจะมีเสียงหัวเราะของคนดูเป็นระยะ เพราะหนังมีจังหวะการใส่มุกตลกที่ดีมาก
และส่วนใหญ่สามาถทำให้คนดูในโรงขำแรงได้ จนเกิดเป็นคำถามขึ้นในใจลึกๆ ว่า “นี่เรากำลังดูหนังตลกอยู่รึเปล่า” (แต่ก็ไม่ได้เป็นข้อเสียนะ)
เรื่องการแสดงไม่ต้องพูดถึง ด้วยบทที่ทุกตัวละครมีมิติ บวกกับฝีมือการแสดงของนักแสดงชื่อดัง แม้ตัวละครจะมีจำนวนมาก แต่ก็ถือว่าใช้งานทุกตัวได้คุ้ม ทุกคนมีไทม์ไลน์ที่เหมาะสมและแสดงลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกมาได้อย่างชัดเจน
แต่ที่ต้องชมเป็นพิเศษคือ เดเนียล เคร็ก และ คริส อีแวนส์ ที่สลัดภาพ สายลับสุดคลูจากเกาะอังกฤษ มาเป็นนักสืบที่มีความตลก และเดาทางยากว่า นี่เอ็งเก่งจริงๆ หรือ แค่จะมาเอาฮากันแน่
ส่วนอดีตกัปตันอเมริกา ก็กลายเป็นหนุ่มเศรษฐี กวนๆ ตัวปัญหา แกะดำของตระกูล ไม่เห็นภาพของสตีฟ โรเจอร์ สะท้อนออกมาเลย ที่จะมีเหมือนกันก็คือรอยยิ้มที่บอกเลยว่า พี่หล่อมากกกครับ
ข้อเสียก็มีนะ คือความไม่เมคเซ้นส์ของบางเหตุการณ์ที่หนังสืบสวนส่วนใหณ่มักเป็น ยกตัวอย่าง การที่นัดตัวคนร้ายออกมาเจอเพื่อจะแบล็คเมล์เขา ทำไมต้องนัดคนที่คุณก็รู้ว่าเพิ่งฆ่าคนมาไม่นาน ให้มาเจอกันในที่เปลี่ยวตัวต่อตัว (ไม่มีเพื่อนหรือคนสนิทบ้างเลยเหรอ..ถามจริงๆ) และสุดท้ายก็…
ยังมีอีกหลายๆ จุดที่ดูไม่สมเหตสมผล แต่ก็ไม่ใช่แผลใหญ่ มองข้ามได้ แค่สำหรับเราอาจจะรู้สึกขัดใจนิดๆ อีกจุดที่ทำให้คะแนนต้องเสียไปก็คือ ตอนฉลาดตัวคนร้ายที่ดูง่ายเกินไปหน่อย อยากให้ขยี้อารมณ์ของตัวละครตัวอื่นๆ มากกว่านี้ เมื่อทุกคนได้ทราบว่าคนร้ายคือใคร
สรุป “ฆาตรกรรมหรรษา ใครฆ่าลุงตู่ เอ้ย!! คุณปู่” (ชอบชื่อไทย) เป็นหนังสืบสวนที่มีเสน่ห์ด้านการเล่าเรื่อง ด้วยบทที่ฉลาดมีชั้นเชิง การแสดงที่ดี ความใส่ใจในรายละเอียดระหว่างที่หนังดำเนินเรื่องไปจนถึงจุดหักมุม รวมทั้งมุกตลกที่มีตลอดทั้งเรื่อง ทำให้หนังมีความลงตัวที่ดูง่าย คนที่คิดตามก็สนุก คนที่ปล่อยให้หนังเล่าและรู้ความจริงไปพร้อมกับตัวละครก็ยิ่งสนุก
ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้คุ้มมั้ย ตอบเลยว่าคุ้ม เพราะแค่ได้ดูเจมส์ บอนด์ กับ กัปตันอเมริกา มาประชันฝีมือกันบนจอภาพยนตร์เท่านี้ก็สุดคำจะพูดแล้ว
สุดท้ายหากรายได้ดี เราอาจจะได้เห็นนักสืบ “เบอนัวต์ บลองก์” กลับมาโชว์คลี่คลายคดีอีกครั้งก็เป็นได้
โฆษณา