Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ปุถุชน
•
ติดตาม
16 ธ.ค. 2019 เวลา 15:33 • การเมือง
อนาคตใหม่: ทาง 2 แพร่งที่ต้องเลือก
การเปิดตัวของพรรคอนาคตใหม่ เมื่อช่วงก่อนหน้านี้ราวกับเป็นความหวังใหม่ของคนเจน Y ที่ต้องการเรือธงที่พาประเทศออกจากวังวนการเมืองแบบเดิมๆ
การเปิดตัวด้วยกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่แตกต่างทั้งฐานะทางเศรษฐกิจ การศึกษา ชาติพันธุ์ และวิธีการเข้าถึงประชาชน ทำให้ฐานเสียงของพรรคซึ่งจากเดิมเป็นเพียงแค่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ถูกขยายไปในคนเกือบทุกกลุ่มของสังคม ยิ่งมั่นใจขึ้นว่าพรรคจะนำพาอนาคตประเทศไปในแนวทางใหม่ๆ ได้จริงๆ
แม้จะดูเป็นพรรคที่ก้าวหน้า แต่ขณะเดียวกันอีกขาของพรรคก็ยังพูดได้ไม่เต็มปากว่ายืนหยัดบนลำแข้งของตนเอง เมื่อพรรคไทยรักษาชาติโดนยุบ และพรรคเพื่อไทยประกาศสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ทันที ทำให้เกิดคำถามต่อหลักการของพรรคว่าการยืนหยัดนี้จะเป็นไปเหมือนที่ไทยรักไทยในอดีตเคยทำมาหรือไม่
แม้ว่าข้อกังขาจะเกิดขึ้นท่ามกลางคะแนนนิยมที่พุ่งสูงในช่วงเลือกตั้ง ก็ยังทำให้พรรคอนาคตใหม่กวาดที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรไปได้มากกว่า 80 ที่นั่ง เป็นการประกาศชัยชนะของพรรคใหม่ที่สำเร็จได้ดีรองจากพรรคไทยรักไทยเลยทีเดียว
ในขณะที่พรรคอนาคตใหม่กำลังเป็นดาวจรัสแสง ย่อมมีเมฆหมอกบัง นั่นคือการถูกจองกฐินจากทุกภาคส่วน จนทำให้มีคดีความและการฟ้องร้องมากกว่า 20 คดี และทำให้หัวหน้าพรรคอย่างธนาธรต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ลง และพินสภาพความเป็น ส.ส. จากการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาด้วยโอกาสสูงที่จะถูกยุบพรรคจากคดีเงินกู้ยืม
สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความคุกรุ่นทางการเมืองระลอกใหม่ จากผลที่พรรคอนาคตใหม่โดน เปรียบเทียบกับการดำเนินคดีกับ ส.ส. ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลที่ต่างออกไป รวมถึงกติกาในเกมการเมืองที่นักชกน้องใหม่อย่างพรรคอนาคตใหม่ยังไม่ชิน ทำให้หัวหน้าพรรคประกาศลงถนน เพื่อประกาศถึงการไม่ยอมรับสิ่งที่พรรคมองว่าเป็นความอยุติธรรมทั้งปวงที่ได้รับ
ผลของการนัดชุมนุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นการประเมินกำลังของคนที่เห็นด้วยว่ามีมากน้อยเพียงใด และสามารถต่อสู่กับรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ได้หรือไม่ และจะมีโอกาสชนะมากน้อยเพียงไร
แต่สิ่งที่น่าจะต้องระวังสำหรับธนาธรและพรรคอนาคตใหม่คือ การประกาศการชุมนุมเช่นนี้สุ่มเสี่ยงที่จะดูเป็นการปกป้องตนเองมากกว่าการปกป้องประชาธิปไตย เพราะธนาธรเองยังไม่มีผลงานที่เด่นชัดเหมือนทักษิณ หรือการปกป้องประชาธิปไตยจนต้องลี้ภัยอย่างปรีดี ซึ่งอาจเป็นข้อกังขาได้ในอนาคตของการจัดชุมนุมต่อจากนี้
และยิ่งเพื่อไทยประกาศหนุนการชุมนุมดังกล่าวด้วยแล้ว จะยิ่งเป็นการผลักให้พรรคอนาคตใหม่เข้าสู่มุมแดงอย่างเป็นทางการหรือไม่ เพราะหากอนาคตใหม่ไม่จัดการเรื่องนี้ให้ชัดเจน ผู้ที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดก็คงไม่เกินพรรคเพื่อไทย ที่ได้ทั้งฐานเสียงที่เคยเสียไปครั้งพรรคไทยรักษาชาติกลับคืนมา และการได้รับการยอมรับในฐานะผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งนั่นจะทำให้พรรคอนาคตใหม่สูญเสียความเป็น “ความหวังใหม่” ในทางการเมืองไปเรื่อยๆ
ในขณะเดียวกัน หากพรรคอนาคตใหม่ยึดถือวิถีทางประชาธิปไตย ดำเนินการทุกอย่างภายใต้กติกาประชาธิปไตย แม้จะเจออุปสรรคขวากหนามที่ไม่ยุติธรรม แบบที่อองซานซูจิทำ รวมถึงปฏิเสธการลงถนน แบบที่ตนเองเคยวิพากษ์กลุ่มต่างๆ ก่อนหน้านี้ รวมถึงผู้สนับสนุนที่พูดว่าการชุมนุมคือการทำลายระบบ เศรษฐกิจ และเรื่องอื่นๆ จนทำให้เราต้องวนลูกเดิมๆ ซ้ำๆ
พรรคอนาคตใหม่ ก็อาจจะกลายเป็นพระโพธิสัตว์ผู้สั่งสมบุญบารมี และเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปในการเลือกเข้ามาทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ทาง 2 แพร่งนี้จะส่งผลให้พรรคอนาคตใหม่จะเป็นเหล้าขวดใหม่ให้กับการเมืองไทย ที่อาจจะต้องรอวันบ่มให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม หรือเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ ที่สุดท้ายก็ไม่ต่างจากเหล้าที่เคยมีมา ไม่ได้มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ซึ่งที่สุดแล้วประชาชนก็เบื่อหน่ายและรอเหล้าใหม่ๆ มาแทน
ยังไม่รวมถึงประเทศชาติ ที่อาจจะต้องเจอกับการเมืองเรื่องเดิมๆ อีกหลายๆ ครั้งในอนาคตอันใกล้
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย