กองทุนรวมตลาดเงินคืออะไร ดีกว่าการฝากเงินประจำของธนาคารจริงรึป่าว
หลังจากที่เรารู้จักประเภทกองทุนคร่าวๆ ในตอนก่อนหน้านี้ไปแล้ว เราเลยจะหยิบประเภทของกองทุนที่แบ่งตามระดับความเสี่ยงมาอธิบายแบบเจาะลึกให้ทุกคนได้เข้าใจกัน
เริ่มต้นกันที่ความเสี่ยงระดับต่ำ ได้แก่ กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ กองทุนรวมตลาดเงินต่างประเทศ
กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ เป็นกองทุนรวมในประเภทที่มีความเสี่ยงต่ำมาก โดยจะลงทุนอยู่ในเงินฝากหรือตราสารหนี้ระยะสั้นของสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น เงินฝากธนาคาร ตราสารหนี้ภาครัฐ ตั๋วเงินคลัง ตั๋วแลกเงิน มักจะมีอายุไม่เกิน 1 ปี
ส่วนกองทุนรวมตลาดเงินต่างประเทศ จะต่างตรงที่เป็นกองทุนของคนไทยไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศได้ จะมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่กองทุนได้มีการป้องกันเต็มจำนวน (Fully hedged) เพื่อลดความเสี่ยงไว้เรียบร้อยแล้ว
ถ้าเป็นกองทุนตลาดเงินจริงๆ มักจะมีอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ในพอร์ตไม่เกิน 3 เดือน ดังนั้นกองทุนนี้ถือตราสารหนี้แปบเดียวก็หมดอายุแล้ว จึงจะไม่ได้รับผลกระทบเรื่องการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย เมื่อครบกำหนดอายุก็ได้รับเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยเพื่อนำไปลงทุนต่อได้เร็ว
โดยส่วนใหญ่แล้วกองทุนรวมตลาดเงินจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีประมาณ 1-2% ซึ่งก็แล้วแต่นโยบายการลงทุนของแต่ละกอง
จุดเด่นของกองทุนรวมตลาดเงิน
1. มีความเสี่ยงต่ำมาก และมีความผันผวนด้านราคาต่ำ เนื่องจากกองทุนนี้จะลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี
2. มีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ ซึ่งคล้ายกับบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป โดยเมื่อเราขายก็จะได้รับเงินในวันทำการถัดไป หรือที่เราเรียกว่า T+1
3. ได้รับผลตอบแทนทุกวัน ต่างจากบัญชีของธนาคารที่จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน และให้ผลตอบแทนสูงว่าบัญชีออมทรัพย์ แต่ในบางกองทุนอาจจะให้ผลตอบแทนเท่ากับบัญชีเงินฝากก็ได้
4. กำไรจากการขายหน่วยลงทุน ไม่ต้องนำไปเสียภาษีเงินได้ ซึ่งต่างจากบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีเงินฝากที่จะโดนหักภาษี ณ ที่จ่าย 15%
ข้อเสียก็มี แต่ไม่เยอะ ก็คือ กองทุนรวมตลาดเงินจะไม่มีรับประกันเงินต้น ซึ่งต่างจากบัญชีธนาคารที่มีการรับประกันเงินฝาก
ส่วนความเสี่ยงของกองทุนตลาดเงินก็มีเหมือนกัน คือ
1.ความเสี่ยงเรื่องความสามารถในการชำระหนี้
2.ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย
3.ความเสี่ยงทางธุรกิจ/บริษัท ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการหากำไร อาจทำให้เราไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดไว้
เหมาะกับใครบ้าง?
1. เหมาะกับมือใหม่เพิ่งเริ่มต้นลงทุน และรับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ
2. เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการหาแหล่งพักเงินระยะสั้น
3. เหมาะกับคนที่ต้องการออมเงินระยะสั้น
ถ้าอยากลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน จะเลือกซื้อกองทุนไหนดี?
เนื่องจากในกองทุนรวมนี้มีการลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่ต่างกัน และอัตราดอกเบี้ยจากตราสารหนี้ระยะสั้นก็ให้ไม่ต่างกันมาก ผลตอบแทนที่แต่ละกองทุนได้รับจึงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่
แต่สิ่งที่ทำให้แต่ละกองทุนให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนต่างกัน คือ ค่าธรรมเนียมบริหารและค่าใช้จ่ายของกองทุน เพราะเมื่อกองทุนได้รับกำไรจะต้องหักค่าธรรมเนียมทั้งหมดก่อน จากนั้นจะเหลือเป็นผลตอบแทนสุทธิให้แก่นักลงทุน
ยกตัวอย่างเช่น
กองทุน A มีค่าธรรมเนียม 0.3% และกองทุน B มีค่าธรรมเนียม 0.7%
ถ้าทั้ง2กองนี้ลงทุนในตราสารเดียวกันและได้กำไรเท่ากัน คือ 2%
ผลตอบแทนสุทธิของกองทุน A จะเท่ากับ 1.7% และผลตอบแทนสุทธิกองทุน B เท่ากับ 1.3%
ดังนั้น หากจะเลือกกองทุนรวมตลาดเงิน เราจึงควรเลือกลงทุนในกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมน้อยๆ จะดีกว่าค่ะ
งั้นเราลองมาเปรียบเทียบดูอัตราค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมตลาดเงินกันดีกว่า โดยเราจะเรียงจากกองทุนที่มีค่าใช้จ่ายถูกที่สุด
จะเห็นได้ว่าค่าใช้จ่ายที่น้อยสุดจะอยู่ที่ประมาณ 0.15-0.3% แต่ก็มีบางกองทุนที่ค่าใช้จ่ายสูงถึง 0.7-0.8% เลยทีเดียว ซึ่งสามารถค้นหาเปรียบเทียบกองทุนอื่นเพิ่มเติมได้ที่เว็บ Morningstar Thailand
ข้อมูลจาก Morningstar Thailand ณ วันที่ 18/12/19
สุดท้ายนี้ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ มีความคิดเห็นกับกองทุนรวมตลาดเงินกันอย่างไรบ้าง สามารถคอมเม้นแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ
ที่มา:
เรียบเรียงโดย Secret FUN(d)
ฝากติดตาม กด Like กด Share และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จะคอยอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมและการลงทุน
#SecretFund
- 83
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
