19 ธ.ค. 2019 เวลา 11:39 • ธุรกิจ
โอกาสธุรกิจอาหารอาเซียน (ไทย) ในจีน
อย่างที่เราพอทราบกันดีคือ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ออกไปเที่ยวต่างแดนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี โดยล่าสุดในปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวจีนที่ไปเที่ยวต่างประเทศ ถึง 150 ล้านราย! เติบโตกว่า 14.7%
โดยในจำนวนนี้ มีนักท่องเที่ยวจีนที่มาเมืองไทยของเรา มากกว่า 11 ล้านราย
จึงไม่น่าแปลกใจ ที่พอชาวจีนที่ได้เดินทางไปต่างประเทศพอกลับไปจีนแล้ว ก็จะมีบางส่วนที่อยากทานอาหารต่างชาติ โดยเฉพาะอาหารไทยกันเพิ่มขึ้น
วันนี้แอดมินเลยเอาข้อมูลโอกาสของธุรกิจอาหารอาเซียนในจีนมาเล่าสู่กันฟัง ในซีรีส์ “ข้อมูลเชิงลึกตลาดต่างประเทศ”
ซึ่งรอบนี้ แอดมินลองทำสรุปประเด็นสำคัญ มาให้อ่านกันข้างบนเลย ส่วนใครอยากลงรายละเอียดก็อ่านเพิ่มได้
👉 โดยสรุปประเด็นสำคัญ ได้แก่
1) อาหารอาเซียนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดย “อาหารไทย” ยังอยู่ลำดับหนึ่ง
2) เทรนด์อาหารที่กำลังมาแรงคือ “อาหารเพื่อสุขภาพ” โดยมีดาวรุ่งคือ อาหารเวียดนาม (จริงๆ อาหารไทยเราก็ทานแล้วสุขภาพดีนะ น้ำพริก ผักลวก อะไรประมาณนี้)
3) กลุ่มลูกค้าที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญ คือ ลูกค้าอายุ 20-40 ปี คือ คนรุ่นใหม่ ที่สนใจมาเที่ยวในแถบอาเซียนมากขึ้น โดยอย่าลืมว่า เราขายอาหารให้เค้า ก็ต้องปรับรสชาติให้ถูกปากเค้า
เรามาลงรายละเอียดกัน
1) อาหารอาเซียนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยอาหารไทย ยังอยู่ลำดับหนึ่ง
อาหารไทย เป็นอาหารที่เข้าสู่ประเทศจีน ก่อนประเทศอื่นๆ ในอาเซียน โดยคนที่อยู่กวางโจวก็จะรู้จักร้านอาหารไทยที่ชื่อ Banana Leaf กันดี โดยมีเจ้าของเป็นคนจีนที่มาทำร้านอาหารไทย และมีสาขากว่า 30 แห่ง  แต่ก็ยังเป็นร้านอาหารไทย สไตล์จีนๆ
Cr.Mango Tree
อีกร้านหนึ่งก็คือ Simply Thai โดยมีสาขากว่า 10 สาขาในนครเซี่ยงไฮ้ โดยมีเจ้าของเป็นชาวสิงค์โปร์ เปิดมาได้กว่า 20 ปี แล้ว ทั้งนี้แบรนด์ร้านอาหารไทย อย่าง S&P ก็เริ่มไปบุกในจีนเหมือนกัน ตั้งชื่อว่าร้าน Vanilla อยู่ในเซี่ยงไฮ้
โดยข้อมูลเพิ่มเติมจาก globthailand  พบว่าเมื่อต้นปี 2019 มีร้ายอาหารไทยในจีน 361 ร้าน เป็นร้านอาหารไทยในกว่างซีมี 44 ร้าน (33 ร้านอยู่ในนครหนานหนิง) ซึ่งอยู่ตอนตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม ติดกับกวางโจว อยู่ไม่ไกลจากกรุงฮานอยของเวียดนาม
Cr. ThaiBizChina
พบว่าอัตราการเจริญเติบโตของร้านอาหารไทยในบริเวณดังกล่าว เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุจาก พฤติกรรมผู้บริโภคชอบทานอาหารรสจัดคล้ายคนไทย การเดินทางได้สะดวก ใช้เวลาบินเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง หาวัตถุดิบต่างๆได้ง่าย และต้นทุนการทำธุรกิจไม่แพงเหมือน กวางโจว และเซี่ยงไฮ้
แต่หากผู้ประกอบการจะไปเปิดร้านอาหารที่จีนก็ต้องพิจารณาให้ดี เพราะ SMEs ในจีนจะมีวัฎจักรประกอบการที่ประมาณ 3 ปี โดยร้านอาหารไทยทำได้มากกว่าเฉลี่ยเล็กน้อย
ในบทความเขาบอกว่ากลยุทธ์คือ เปิดสาขาให้มากๆ หรือไม่ก็ขายกิจการทิ้งช่วงรุ่งๆให้ชาวจีน!
แต่แอดมินว่าฟังดูแล้วไม่น่าทำแบบนั้นเลย บางทีไอเดียการทำของที่สามารถป้อนร้านอาหารไทยต่างๆ ได้ ก็อาจน่าสนใจกว่าการที่จะไปเปิดร้านอาหารเอง
2) เทรนด์อาหารที่กำลังมาแรงคือ อาหารเพื่อสุขภาพ โดยมีดาวรุ่งคือ อาหารเวียดนาม
อาหารเวียดนาม โดยพื้นฐานก็เน้นผัก คือเวลาทานแล้วดูเป็นคนรักสุขภาพมากๆ ถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียได้  ซึ่งเทรนด์ของผู้บริโภคชาวจีน ก็ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทำให้อาหารเวียดนามก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทีเดียว
Cr.Roughguide
จริงๆ แล้วอาหารเวียดนามสำหรับคนไทยเอง ก็มีเทรนด์ที่น่าสนใจคือ อาหารแนวสุขภาพนี้ ลูกค้ากลุ่มหนึ่งก็คือ "Wanna be healthy"
ก็คือ อยากดูสุขภาพดี แบบว่าทานชาบูมาแล้ว 4 วันติด เลยขอทานผัก โพสรูปลงอินสตาแกรมซะหน่อย แต่อาหารที่ขายดีในร้านอาหารเวียดนาม (ในไทย) กลับเป็นไก่ทอด! 😆
ทั้งนี้เทรนด์เรื่องอาหารการกินที่สำคัญ มีด้วยกัน 5 เทรนด์ได้แก่
หนึ่ง อาหารหรือขนมที่ปลอดเนื้อ เช่น พวกขนมที่ทำจากเห็ด หรือเบอร์เกอร์ที่ทำจากโปรตีนจากพืช
Cr.Alibaba.com
สอง อาหารน้ำตาลต่ำ ก็เป็น เทรนด์สำหรับคนรุ่นใหม่ในจีน ที่มีการศึกษาดี พวกคนทำงานออฟฟิส ที่เกิดหลังปี ค.ศ. 1990
สาม ไวน์ต่างประเทศ แน่นอนว่าเรื่องของกิน คนเราก็มองหาอะไรที่มันคุณภาพเหนือกว่าที่เคยกินกันมาก่อนหน้านี้ทั้งนั้น คงมีไม่มากที่อยากลองของที่คุณภาพแย่ลง
สี่ สินค้าทดแทนน้ำและนม มีหลายอย่าง เช่น น้ำมะพร้าว หรือน้ำว่านหางจระเข้ แล้วก็นมที่ไม่ได้ทำจากนมวัว
ห้า อาหารหมักดอง อันนี้น่าแปลกใจนิดนึง เช่นพวกกิมจิ แต่จริงๆคือ คนจีนเค้าเริ่มฮิต พวก Probiotics ที่ช่วยบำรุงและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
3) กลุ่มลูกค้าที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญ คือ ลูกค้าอายุ 20-40 ปี คือ คนรุ่นใหม่ ที่สนใจมาเที่ยวในแถบอาเซียนมากขึ้น
ถึงแม้ในปัจจุบันก็ยังเห็นทัวร์จีนมาเที่ยวเมืองไทยเป็นกลุ่มใหญ่ๆ มีเหล่าอากง อาม่า มาเที่ยวด้วย แต่อีกเทรนด์หนึ่งที่กำลังเปลี่ยนไปก็คือ การที่คนหนุ่มสาวชาวจีน มาเที่ยวเมืองไทยด้วยตัวเองมากขึ้น แล้วก็สนใจไปเที่ยวรอบๆ อาเซียนด้วย
Cr. Thaiger
แอดมินพึ่งเจอเพื่อนคนจีน มาเที่ยวไทยกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง โดยมาอยู่ไทยกัน 15 วัน แต่ 2 คนนั้นเป็นผู้หญิงที่มาลงคอร์สเรียนมวยไทย! สนนราคาไม่แพงเลย รวมที่พักแล้วตกคนละ 10,000 บาท เท่านั้น ก็ถือว่าน่าสนใจมากๆ เลยสำหรับลูกค้านักท่องเที่ยว อายุ 20-40 ปี
ก็เป็นเรื่องราวข้อมูลการตลาดต่างประเทศ ที่แอดมินเอามาฝากกัน หากชอบบทความอย่าลืม like และ share ให้เพื่อนๆ ร่วมงานฟังกันได้ด้วยนะครับ เผื่อได้ไอเดียไปเปิดตลาดใหม่ๆ
💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ และกลยุทธ์ทางธุรกิจ
กดติดตาม "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า"
และสำหรับผู้นำเข้าส่งออก อยากหาช่องทางนำเข้า-ส่งออก หรืออยากให้ลูกค้าต่างชาติทดสอบสินค้า แอดไลน์ @zupports ได้เลย
#นำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า
#zupports
โฆษณา