19 ธ.ค. 2019 เวลา 09:12 • ไลฟ์สไตล์
#ชีวิต101 ภาค 2 ตอนที่ 17
วันที่ 18 ธันวาคม 2561
วันนี้ออกจากที่พักแต่เช้าเพื่อไปเช่ารถมอเตอร์ไซ ขับจากตัวเมืองภูเก็ตไปที่ท่าเรือบางโรงเพื่อขึ้นเรือข้ามไปเกาะ วันนี้เป็นการเดินทางไปด้วยตัวเองจะไม่เหมือนกับเมื่อวานที่ไปกับทัวร์ซึ่งเป็นการเสี่ยงดวงไปมากกว่า เพราะผมไม่มีข้อมูลในเกาะที่จะไปมากเท่าไหร่ หรือจะบอกอีกอย่างก็คือแทบไม่รู้จักเลย พึ่งค้นข้อมูลจาก Google เมื่อวานว่ามีท่าเรือตรงนี้ จุดประสงค์หลักเป็นท่าเรือกับการนั่งเรือมากกว่า
ผมดูข้อมูลมาว่าเกาะที่จะข้ามไปได้คือเกาะยาวใหญ่ ซึ่งชื่อเกาะนี้ไม่ได้อยู่ในสารระบบสมองผมเลย เป็นเกาะอะไรยังไง ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน และก็ไม่เคยคิดที่จะไปด้วย
แผนที่เกาะ
ผมมาถึงท่าเรือบางโรง และหาที่จอดมอเตอร์ไซไว้ ซึ่งเค้ามีจุดรับฝากอยู่
ผมก็เดินไปหาซื้อตั๊วเรือเห็นมีติดป้ายไว้ ผมเลยถามหาเรือช้าไปเกาะยาวใหญ่ เค้าตอบว่าไม่มี ไปเกาะยาวใหญ่จะมีแต่เรือเร็ว ทำไงละทีนี้เพราะผมอยากนั่งเรือช้า จะได้ถ่ายรูประหว่างทางได้ง่าย เพราะนั่งเรือเร็วจะถ่ายรูปยากมากเพราะโต้คลื่นตลอดทาง ผมอยากไปแบบชิวๆมากกว่า เค้าก็บอกว่าถ้าจะไปเรือช้าต้องไปอีกเกาะ ก็คือเกาะยาวน้อย จะมีเรือช้าไป ผมก็ตัดสินใจเปลี่ยนแผนเดี๋ยวนั้นเลย
หาซื้อตั๊วเรือ
ผมเดินไปอีกตู้หนึ่งซึ่งมีป้ายเขียนว่าไปเกาะยาวน้อย
มีบริการเรือช้าอยู่ผมก็ไปซื้อตั๊ว ซึ่งผมก็ยังไม่ได้ถามเลยว่าจะกลับยังไง เอาไว้ค่อยว่ากันอีกที พอซื้อตั๊วเค้าก็ให้เขียนชื่อเราลงไว้ด้วยในใบรายชื่อของผู้โดยสาร ก่อนหน้านี้ที่ผมเดินทางอยู่แถวโซนระยองชลบุรี การเดินทางจะไม่มีการลงชื่อเลย แต่ที่ภูเก็ตจากที่ผมได้มาเจอเอง การนั่งเรือออกจากท่าเรือหลักเค้าต้องให้ลงชื่อไว้ด้วย (ซึ่งผมมาทราบข้อมูลอีกทีว่าเผื่อเกิดเหตุอะไรขึ้น จะได้รู้ว่าใครนั่งไปกับเรือด้วย เพราะก่อนหน้านี้พอมีเหตุต้องใช้เวลาระบุตัวตนกันพอสมควร)
ซื้อตั๊ว
ราคาตั๊วประมาณสองร้อยบาท ซึ่งดูจากระยะทางแล้วก็ถือว่าโอเครอยู่
จากนั้นผมก็เตรียมตัวขึ้นเรือ เรือที่ผมนั่งไปนั้นเป็นเรือไม้ชั้นเดียว ด้านบนหลังคาจะเป็นที่เก็บของและสัมภาระที่จะข้ามไปเกาะ ซึ่งผมก็เห็นมีคนเอาจักรยานไปด้วย น่าจะไปปั่นเล่นบนเกาะ
ขึ้นเรือ
เรือที่นั่งทราบว่าเป็นเรือประมงของชาวบ้านและมีการดัดแปลงมาให้เป็นเรือโดยสาร เพราะทำประมงต่อไม่ไหว
จากนั้นพอได้เวลาออกเรือ เค้าก็ให้ทุกคนสวมเสื้อชูชีพ แล้วให้เข้าไปนั่งในเรือ กันหมด ซึ่งผมก็เลือกหาที่นั่งใกล้ๆประตูด้านหน้า เพราะคิดไว้ในใจว่าจะออกไปด้านหน้าเรือ
ภายในเรือ
พอออกเรือมาได้สักพักผมก็ค่อยๆกระเทิบมานอกห้องโดยสารด้านหน้าเรือ
และผมก็หันไปทางทีมงานที่ดูแลเรือ ที่อยู่บนหลังคาโดยสาร และก็ส่งสัญญาณขออนุญาตว่าผมจะขอมานั่งถ่ายรูปอยู่หน้าเรือหน่อยนะครับ เค้าก็รับทราบและยิ้มพยักหน้าให้
ทีมงานดูแลเรือ
ผมก็นั่งถ่ายรูปของผมไปเรื่อยๆซักพักก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ออกมาถ่ายรูปที่หน้าเรือเหมือนกัน ซึ่งด้วยระยะทางที่ไกลและใช้เวลาเดินทางพอสมควร ทำให้นักท่องเที่ยวที่จะมาถ่ายรูปหน้าเรือสามารถสลับสับเปลี่ยนกันเข้าออกได้
นักท่องเที่ยวออกมาถ่ายรูป
จากนั้นผมก็เลยวานให้เค้าช่วยถ่ายรูปให้ผมหน่อย วิวแถวนี้มันสวยดี
ผมค้นพบอีกอย่างก็คือ การสื่อสารกับชาวต่างชาติที่ง่ายที่สุดคือการขอให้เค้าถ่ายรูปให้ เป็นอะไรที่เข้าใจกันง่ายมากสำหรับนักท่องเที่ยว
ขอซักภาพ
ท้องฟ้าวันนี้ค่อนข้างเป็นใจ ไม่มีเค้าพายุฝนเท่าไหร่ แต่บรรยากาศแบบนี้ผมก็รู้สึกคุ้นๆอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อนก็เคยมาเที่ยวกับที่ทำงาน นั่งเรือไกลๆแบบนี้ แต่ก็จำไม่ได้ว่าเค้าพาไปไหนบ้าง เพราะผมตามเค้าไปเรื่อยๆไม่ได้ใส่ใจจำสถานที่เท่าไหร่ แต่บรรยากาศความรู้สึกธรรมชาติก็คล้ายๆกันอยู่
วิวภาพที่เห็นเป็นภูเขาที่โผล่ทะเลขึ้นมาเป็นจุดๆ ดูสวยงามมากๆ และผมคิดถูกจริงๆที่เลือกนั่งเรือช้า เพราะมีเวลาให้ชื่นชมบรรยากาศระหว่างทางได้
บางการเดินทางเราก็ไม่จำเป็นต้องรีบให้ถึงจุดหมายเสมอไป มีเวลาก็ชมสิ่งรอบตัวระหว่างทางไปได้ ทำให้ชีวิตเรามีเรื่องราวเยอะดี
ภูเขาทะเล
และแล้วผมก็มาถึงเกาะยาวน้อย ซึ่งผมต้องตั้งหลักให้กับตัวเองก่อนเพราะไม่มีข้อมูล มันแตกต่างจากการเดินทางแบบที่วางแผนหรือศึกษามาอย่างดีไว้ก่อน หลายอย่างต้องตัดสินใจเลือกเฉพาะหน้าเอาเองเลย อาจจะดีบ้างที่เราผ่านประสบการณ์ก่อนหน้านี้มาในการขี่มอเตอร์ไซตะลอนกางเต๊นท์นอนไปมั่ว ก็เลยเริ่มชินกับแบบนี้
ลงจากเรือ
ผมสังเกตและสอบถามข้อมูลทราบว่าท่าเรือแห่งนี้ ชื่อท่าเรือมะเนาะเกาะยาวน้อย ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดพังงา ผมก็ตกใจอ้าวเหรอ...ผมนึกว่าอยู่ภูเก็ตซะอีก เพราะผมตั้งใจว่าจะสำรวจในส่วนพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แต่ไหนๆก็ได้มาแล้ว ก็สำรวจตรงนี้ไปด้วยเลยละกัน อยู่ในอ่าวเดียวกันนั้นละ
พื้นที่ตรงนี้เค้าเรียกสามเหลี่ยมอันดามัน อยู่ในพื้นที่จังหวัด ภูเก็ต พังงา กระบี่ ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยว เกาะน้อยใหญ่อยู่มากมายในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งสามารถพัฒนาการเชื่อมโยงในพื้นที่สามจังหวัดเพื่อพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกได้
เจ้าหน้าที่เกาะยาวน้อย
ผมสอบถามเจ้าหน้าที่สำหรับข้อมูลเกาะนี้ เค้าบอกสถานที่ท่องเที่ยวและท่าเรือต่างๆส่วนใหญ่อยู่เกาะยาวใหญ่ แต่ถ้าชอบท่องเที่ยวแบบสงบๆสัมผัสวิถีชีวิตก็เที่ยวที่เกาะยาวน้อยนี้ได้
เรือรับจ้าง
จากนั้นผมก็สอบถามจนได้ความถึงจุดขึ้นเรือข้ามไปเกาะยาวใหญ่ ซึ่งเค้าจะมีเรือรับส่งข้ามเกาะวิ่งไปกลับเรือยๆระหว่างสองเกาะนี้ และมีเรือให้บริการอยู่หลายลำ
ผมขึ้นเรือลำหนึ่ง กับผู้หญิงอีกคนเพื่อข้ามไปเกาะยาวใหญ่ ก็ต้องไปสำรวจว่าบนเกาะนั้นจะมีอะไรบ้าง เรือข้ามเกาะนั้นค่าข้ามเรือคนละห้าสิบบาท ซึ่งก็ทำผมตกใจเหมือนกัน กับสถานที่แบบนี้ แต่ราคานั่งเรือไม่ได้แพงอย่างที่เราคิดไว้เลย พอผมได้รู้แบบนี้ ถ้ามาอีกผมไปได้สบายๆเลย สามารถไปเที่ยวแบบประหยัดๆแบบไปเองได้ไม่ยาก
ข้ามเกาะยาวน้อย-เกาะยาวใหญ่
เอาละไปลุ้นกันว่าจะมีอะไรบนเกาะซึ่งเราไม่เคยรู้จักเลย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา