20 ธ.ค. 2019 เวลา 04:40 • ประวัติศาสตร์
การแก้แค้นของ Marvin Heemeyer
เมื่อปีค.ศ.2004 (พ.ศ.2547) ได้เกิดข่าวที่เป็นที่ฮือฮาข่าวหนึ่งในโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เมื่อเจ้าของร้านเชื่อมเหล็กวัยกลางคนผู้หนึ่งได้ขับรถแทรกเตอร์บุกตะลุยกลางเมือง ทำลายร้านค้าและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ได้รับความเสียหายมหาศาล
เรื่องนี้เริ่มต้นจาก Marvin Heemeyer เจ้าของร้านเชื่อมเหล็กในโคโลราโด
Heemeyer เป็นเจ้าของร้านเชื่อมเหล็ก ซึ่งพื้นที่ร้านของเขานั้น เขาได้ซื้อและสร้างร้านของตนมาตั้งแต่ปีค.ศ.1992 (พ.ศ.2535) แต่ต่อมา เขาก็ได้ตกลงจะขายที่ให้กับบริษัทคอนกรีตเพื่อสร้างโรงงานเพิ่ม แต่การเจรจาซื้อขายที่ไม่สามารถตกลงเรื่องราคาได้
Marvin Heemeyer
แต่ถึงจะตกลงราคาไม่ได้และบริษัทคอนกรีตก็ไม่สามารถจะบังคับให้เขาขายที่ได้ เนื่องจากที่ดินนั้นเป็นของเขา แต่ทางการก็ได้อนุญาตให้บริษัทคอนกรีตใช้พื้นที่ข้างๆ ร้านของ Heemeyer ได้ อนุญาตให้ใช้เป็นพื้นที่สร้างโรงงาน
Heemeyer นั้นโมโหมาก เนื่องจากพื้นที่ข้างๆ นั้นเป็นที่ๆ เขาใช้เป็นทางลัดในการเข้าออกร้านของเขามาเป็นเวลานานแล้ว เขาจึงได้ร้องเรียนไปยังทางการ ขอให้ระงับการอนุญาต แต่ทางการก็ไม่สนใจ และ Heemeyer ก็ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากพื้นที่ข้างๆ นั้นไม่ใช่ของเขา ถึงบริษัทคอนกรีตจะไม่สามารถซื้อที่ของเขาได้ แต่สามารถก่อสร้างในพื้นที่ข้างๆ ได้
ภายหลังความพยายามร้องเรียนต่อภาครัฐล้มเหลว Heemeyer ก็หมดความอดทน เขาได้นำรถแทรกเตอร์ซึ่งซื้อมาก่อนหน้านี้มาดัดแปลง ทั้งติดเกราะกันกระสุน พร้อมทั้งอาวุธครบมือ และลองทดสอบดูแล้วว่ารถแทรกเตอร์ที่ดัดแปลงของเขานั้นสามารถกันได้ทั้งปืนและระเบิด
เมื่อรถแทรกเตอร์ของเขาพร้อมแล้ว เขาก็ขับรถแทรกเตอร์คันนี้ออกทำลายเมือง ตะลุยไปทั้งโรงงานคอนกรีต ศาลากลางเมือง สำนักงานหนังสือพิมพ์ที่เขียนข่าวว่าเขา บ้านของอดีตผู้พิพากษาและสิ่งก่อสร้างอีกหลายแห่ง
ภายในเวลาสองชั่วโมง รถแทรกเตอร์ของเขาก็ได้ทำลายอาคารไปแล้วกว่า 13 หลัง จนตำรวจและหน่วยจู่โจม ทั้งเฮลิคอปเตอร์และรถถังติดมิสไซล์ต้องออกมาโจมตี แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากรถแทรกเตอร์ของ Heemeyer นั้นกันทั้งกระสุนและระเบิด
แต่เมื่อขับไปเรื่อยๆ ปรากฎว่ารถของเขาเกิดติดในหลุมและไม่สามารถขับออกมาได้
Heemeyer รู้ตัวว่าจนมุมแล้ว เขาจึงใช้ปืนลูกซองที่เตรียมมาด้วยยิงตัวตายในห้องควบคุม
ภายในห้องควบคุมของรถแทรกเตอร์
ภายหลังจาก Heemeyer เสียชีวิตและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ก็ได้มีการประเมินมูลค่าความเสียหาย มีความเสียหายกว่าเจ็ดล้านดอลลาร์ (ประมาณ 210 ล้านบาท) แต่โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต
ส่วนรถแทรกเตอร์ของ Heemeyer นั้นก็ได้ถูกขายเป็นเศษเหล็ก ไร้ค่า ไร้ราคา และปิดฉากคดีรถแทรกเตอร์นี้ลง
โฆษณา