21 ธ.ค. 2019 เวลา 16:28 • กีฬา
ผมตั้งใจนั่งดูคู่เอฟเวอร์ตั้นกับอาร์เซนอลเพราะอยากเห็นอะไรหลายๆอย่างในเกมนี้
นัดนี้จะเป็นนัดสุดท้ายของการทำหน้าที่กุนซือชั่วคราวของทั้ง 2 ทีม ทั้ง บิ๊กดังก์และลุงเบิร์ก ก่อนส่งไม้ต่อให้กุนซือตัวจริงคือ อัลเชลอตติและอาร์เตต้า มาทำหน้าที่ต่อไป
เกมจบ90นาทีด้วยผลเสมอ เข้าใจว่าน่าจะเป็นที่พอใจของทั้ง 2 ฝ่าย แต่ถ้าดูรูปเกมแล้วกลับเป็นทีมปืนใหญ่ที่มีโอกาสดีกว่าแต่ขาดความเด็ดขาดทำให้ได้แค่คำว่าเกือบ..
วันนี้ปืนใหญ่จัดตัวโดยใช้เด็กใหม่ลงสนามแทนตัวเก๋าหลายคน ขณะที่เอฟเวอร์ตั้น ขนผู้เล่นที่หายจากอาการบาดเจ็บลงสนามพร้อมหน้าพร้อมตา
แค่10นาที ต้องมีการเปลี่ยนตัวเนื่องจากอาการบาดเจ็บ โตชุนที่ถูกส่งมาแทนอิโวบี้ที่เจ็บ โดนจับให้ไปยืนตำแหน่งทางด้านขวา ในขณะที่ริชาร์ริสันสลับอยู่ด้านซ้าย
ครึ่งแรกกลายเป็นอาร์เซนอลที่ชัดเจนในรูปเกมมากกว่า เพียงแต่ขาดความเด็ดขาดในโอกาส ขณะที่ทีมทอฟฟี่เพิ่งผ่านนัดกลางสัปดาห์ในบอลถ้วยคาราบาวคัพมา 120 นาทีเต็ม เกมนี้จึงได้เห็นนักเตะเริ่มมีเริ่มมีอาการ อ่อนล้าให้เห็น เพียงแต่ทีมยังนักเตะแบบ มีน่ากับโฮลเกต 2 คู่เซนเตอร์ ที่ยืนปักหลักป้องกันการโจมตีจากทางอาร์เซนอล
ครึ่งหลังเอฟเวอร์ตั้นเริ่มกดดัน เพรสซิ่งมากขึ้น ทำให้รูปเกมกับมาสูสี เพียงแต่ยังไม่มีประตูให้เห็น
เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ความอ่อนล้าเริ่มมีมาเรื่อยๆ หลังจากนั้นมีการขยับเปลี่ยนตัวนักเตะจากที่ ม้านั่งสำรองทั้ง 2ฝั่ง แต่ที่น่าแปลกกว่า การเปลี่ยนโตชุนตัวสำรองที่ลงไปแทนอีโวบี้ตั้งแต่ต้นเกมออกอีกครั้ง เข้าใจว่าเป็นเรื่องแทคติก แต่กลายเป็นรูปเกมเริ่มเสียเปรียบ
ซึ่งไม่เข้าใจแต่แรกว่าทำไมตอนอีโวบี้เจ็บ น่าจะส่งเบอร์นาดลงมาดีกว่าการส่งโตชุนลงไป เพราะว่าโตชุนไม่ใช่ปีกโดยธรรมชาติจึงไม่สามารถกดดันเกมทางด้านขวาได้
แต่หลังจากนั้นไม่นาน มีการเปลี่ยนไมเคิล คีนลงมาแทนเดลฟ์ที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ กลับลงมาเป็นตัวจริงในวันนี้ แล้วดันโฮลเกตขึ้นเป็นมิดฟิลด์แทน
และกลายเป็นคีนเองที่ส่งบอลผิดพลาดบ่อยทำให้เสียจังหวะไปค่อนข้างเยอะ
จบเกม เสมอกันแบบพอใจผลที่ออกมา สำหรับอาร์เซนอลเอง ผมเชื่อว่าอาร์เตต้าน่าจะโอเคกับขุมพลชุดนี้เนื่องจากมีหลายคนโชว์ฝีเท้าให้เห็นในสนามอย่างโดดเด่น และเล่นตามเกมที่ลุงเบิร์กสั่งนักเตะในทีมหลายคนดูดีมีแววที่จะเป็นกำลังสำคัญต่อไปได้ในอนาคต
สิ่งที่อาร์เตต้าต้องลงมือทำ คงมีหลายอย่างอาทิเช่น โอมาบียอง ที่คิดจะออกจากสโมสรไปหาความท้าทายใหม่, ซาก้าที่เพิ่งมีปัญหากับแฟนบอล, รึล่าสุดโอเซิล ที่ผลงานดรอปลงเรื่อยๆแถมมีเรื่องนอกสนามมารบกวนจิตใจ ปัญหาเหล่านี้คงรอให้กุนซือคนใหม่รีบเข้ามาสะสางโดยเร็ว
มาที่อัลเชลอตติ เห็นนั่งดูแบบหน้าตาเคร่งเครียดเข้าใจแหละ ว่ามีปัญหารอการแก้ไขอีกหลายจุด คงต้องดูว่าช่วงการซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม อัลเช่จะได้มีการเสริมทัพนักเตะเพิ่มรึไม่
รวมถึง คีน กองหน้าชาวอิตาเลี่ยนที่มีปัญหาเรื่องการปรับตัวนั้น จะได้อัลเช่เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว คงต้องรอว่าคีน จะกลับมาเล่นได้ดีเหมือนที่เคยเล่นอีกหรือไม่
สุดท้ายคงต้องชื่นชมการทำหน้าที่ของบิ๊กดังก์ กับ4เกมที่ผ่านมา ชนะ 1 เสมอ 3 ผลการแข่งขันไม่สำคัญเท่าการได้เห็นทีมทอฟฟี่กลับมาเป็นทีมแข่งแกร่งเหมือนเดิม เชื่อว่าในแง่ของ passion ถือว่าบิ๊กดังก์สอบผ่าน แต่ถ้าเป็นเรื่อง Tactics ถือว่าจะต้องแก้ไขและเรียนรู้อีกเยอะ
แต่ลึกๆผมเชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นกับทั้ง 2 ทีมแน่นอน อัลเช่ มีประสบการณ์การคุมทีมอย่างโชกโชน น่าจะทำทีมทอฟฟี่กลับมาติด Top 6ได้ไม่ยาก เพียงแต่เค้าต้องได้รับการสนับสนุนเรื่องงบประมาณในการทำทีม การหานักเตะที่มีDNA ของเอฟเวอร์ตั้น ที่พร้อมจะลุยไปกับทีมได้
ขณะที่อาร์เตต้าไม่มีประสบการณ์การคุมทีมใหญ่มาก่อน แต่ก็มีโอกาสได้ร่วมงานกับโค้ชเก่งๆแบบแป๊ป น่าจะปรุงแต่งให้ทีมปืนใหญ่กลับมาอยู่บนหัวตารางได้อีกครั้งแน่นอน
คงต้องรอดูกันนานๆและดูกันแบบยาวๆ สำหรับสาวกของทั้ง2 ทีม คงต้องได้แต่ส่งกำลังใจให้ทีมกลับมาเล่นได้ดีตามมาตรฐานที่เคยเป็น ใครไม่เชื่อแต่ผมเชื่อครับ 55
Cr. ขอขอบคุณ รูปภาพจาก อินสตาแกรม
1.Everton.
2.Arsenal Official
โฆษณา