22 ธ.ค. 2019 เวลา 16:03 • กีฬา
[เรเน่ ฮิกิต้า]
[ภาพแทนยุคสมัยที่บ้าคลั่งของฟุตบอลโคลอมเบีย]
ความมั่นใจในตนเองที่สูงลิบลิ่ว กลายเป็นความบ้าบิ่นที่ไม่มีใครเหมือน นี่คือนิยามของ เรเน่ ฮิกิต้า อดีตผู้รักษาประตู ทีมชาติโคลอมเบีย ในยุครุ่งเรือง
-
ที่บอกว่ากล้าและบ้าบิ่น มันเกิดจากสไตล์การเฝ้าเสาของเขา ที่วันดีคืนดี ก็ชอบจะเลี้ยงบอลออกมานอกกรอบเขตโทษประหนึ่งเป็นผู้เล่นเอาท์ฟิลด์
หรือบางทีก็นึกสนุก ด้วยการลองเซฟประตูในแบบที่คนดีๆเขาไม่ทำกัน เช่นการให้กำเนิดท่า "สกอร์เปี้ยนส์ เซฟ" หยุดลูกยิงของ เจมี่ เร้ดแน็ปป์
ในสนามว่ามีสีสันมากแล้ว แต่ยิ่งเรื่องราวนอกสนามของเขานั้นใช้คำว่าสีสัน มันคงน้อยไป
-
ด้วยความที่ลืมตาดูโลกในย่านสลัมกาสติย่า ในเมืองเมเดยิน ช่วงเวลาที่เขาเติบโตนั้นอยู่คาบเกี่ยวในยุค 80'
ซึ่งมันเป็นยุคที่ประเทศโคลอมเบีย เฟื่องฟูไปด้วยธุรกิจยาเสพติด โดยมี ปาโบล เอสโกบาร์ เป็นหัวหอกและเป็นเจ้าพ่อค้ายา ซึ่งใช้ชีวิตปักหลักอยู่ในเมืองเมเดยิน
ทำให้ชีวิตคนจนๆอย่าง เรเน่ ฮิกิต้า มีเพียงสองทางให้เลือกเดิน ถ้าไม่กลืนเข้าไปอยู่ในระบบแก๊งค้ายา
ก็ต้องหันมาเล่นฟุตบอล ซึ่งเขาเลือกอย่างหลัง
และด้วยการโชว์ลีลาการเล่นที่ยอดเยี่ยมในการแข่งขัน
ฟุตบอล 5 คน ทำให้เขาถูกแมวมองจากสโมสรแอตเลติโก นาซิอองนาล ดึงตัวไปร่วมทีม
แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่เพียงความสามารถเพียงอย่างเดียวที่ทำให้เขาได้เข้ามาร่วมทีม เพราะสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะ นาซิอองนาล มีเจ้าของทีมชื่อ ปาโบล เอสโกบาร์ เจ้าพ่อค้ายาเสพติดเป็นเจ้าของสโมสร
ปี 1973 ปาโบล เอสโกบาร์ ผู้มีเงินทองเหลือกินเหลือใช้จากธุรกิจสีดำ มีความต้องการจะฟอกเงินสีดำของตนเอง
ให้เปลี่ยนมาเป็นสีขาว และเป็นที่มาของการที่เขาจัดการเทคโอเวอร์สโมสรฟุตบอลถึงสองแห่ง นั่นคือ แอตเลติโก นาซิอองนาล และ เดปอร์ติโบ เมเดยิน
ด้วยพลังเงิน ทำให้ทั้งสองทีมกลายสถานะมาเป็นมหาอำนาจวงการลูกหนังระดับประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นาซิอองนาล ที่เดินหน้ากวาดแชมป์มาครองเป็นว่าเล่น
จนกลายเป็นแหล่งฟอกเงินหลักที่ ปาโบล เอสโกบาร์ เลือกใช้
เขาทุ่มเงินซื้อนักเตะเข้ามา และผลักดันนักเตะจากท้องถิ่นให้มีศักยภาพ เช่นที่ ฟรานซิสโก้ มาตูราน่า ซึ่งเคยเป็นกุนซือให้ นาซิอองนาล และเป็นโค้ชให้ เรเน่ ฮิกิต้า
กล่าวถึงช่วงเวลาตอนนั้นว่า
"นักเตะต่างชาติฝีเท้าดี ทยอยกันเข้ามาสู่ทีมอย่างมากมาย นั่นก็เพราะเงินที่มาจากธุรกิจยาเสพติด
ได้ถูกนำมาใช้ฟอกขาวในกีฬาฟุตบอล"
และในบรรดาเด็กท้องถิ่นที่ได้รับโอกาสจากวิสัยทัศน์ของ ปาโบล เอสโกบาร์ ก็คือ เรเน่ ฮิกิต้า (นอกนั้นก็จะมีพวกแข้งทองในยุครุ่งเรืองของทีมชาติ อย่าง อันเดรส เอสโกบาร์ , คาร์ลอส วัลเดอร์ราม่า)
จริงๆแล้วไม่ใช่แค่วงการฟุตบอลที่ได้รับประโยชน์จากเงินสีดำจากธุรกิจยาเสพติดของ ปาโบล เอสโกบาร์
เพราะเมืองทั้งเมือง ทุกมุมทุกซอก ได้รับการพัฒนาขึ้นก็เพราะเจ้าพ่อค้ายารายนี้ แถมยังเป็นแรงบันดาลใจ
ให้เจ้าพ่อค้ายาแก๊งอื่นๆ หันมาใช้วิธีฟอกเงินจากวงการฟุตบอล
จนที่สุดแล้วประเทศโคลอมเบีย กลายเป็นประเทศที่มีสนามฟุตบอลดีๆ มีระบบสาธารณูปโภคที่ยอดเยี่ยม มีทีมเก่งๆ นักเตะได้รับการพัฒนามากขึ้น
ขณะที่ เรเน่ ฮิกิต้า เคยออกมาใช้ชีวิตค้าแข้งในทวีปยุโรปช่วงสั้นๆกับ เรอัล บายาโดลิด เมื่อปี 1992
แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะมีข่าวว่าพัวพันธ์กับแก๊งค้ายาและคดีลักพาตัวจนโดนจำคุก (ถูกปล่อยตัวในอีก 7 เดือนต่อมา เพราะศาลไม่มีหลักฐานเอาผิดมากพอ นั่นหมายความว่า ติดคุกฟรี)
"ผมเป็นแค่นักฟุตบอล จะไปรู้ห่าอะไรกับเรื่องพวกนั้นกันล่ะวะไอ้แม่ยิ้ม"
แต่ในปี 2004 เรเน่ ฮิกิต้า เกมส์เนื่องจากไม่ผ่านการตรวจสารกระตุ้นและมีการพบโคเคนในปัสสาวะ ก่อนจะโดนสมาคมลูกหนังโคลอมเบีย แบนเป็นเวลา 6 เดือน
ฟรานซิสโก้ มาตูราน่า โค้ชผู้ปลุกปั้นเขาจนก้าวขึ้นไปติดทีมชาติได้สำเร็จ นิยามความเป็น เรเน่ ฮิกิต้า ที่เขาเห็นมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นเอาไว้ว่า
"มันเป็นคนบ้า แต่นั่นแหละคือจุดเด่นที่ทำให้ผมชอบ เพราะความกล้าและบ้าของมัน ทำให้เวลาลงสนาม
แนวรับของเราเหมือนมีคนเพิ่มมาคนหนึ่ง เป็นตัวที่คอยพุ่งออกมาเก็บกวาดบอลที่กองหลังพลาด เป็นเหมือนกองหลังตัวสุดท้ายให้กับทีมดีๆนี่เอง"
จุดสูงสุดของ เรเน่ ฮิกิต้า นอกจากจะเป็นการเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติโคลอมเบียลุยฟุตบอลโลก ในปี 1990
เขายังเป็นผู้รักษาประตูคนสำคัญที่พาทีม แอตเลติโก นาซิอองนาล ผงาดไปคว้าแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส คัพ ในปี 1989 ได้อีกด้วย
ซึ่งจริงๆแล้วถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องเขาไปอยู่ในคุกฟรี 7 เดือน เขาก็น่าจะเป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติโคลอมเบีย ลุยศึกฟุตบอลโลกในปี 1994 อย่างแน่นอน
อิทธิพลของ ปาโบล เอสโกบาร์ นอกจากจะเสกให้ทีมมีนักฟุตบอลดีๆ จนก้าวไปคว้าแชมป์ระดับทวีปในปี 1989
ยังส่งผลมาถึงทีมชาติที่ตอนนั้น โคลอมเบีย เป็นเต้ยเบอร์หนึ่งของทวีป และเคยไล่ถล่มอาร์เจนติน่า ที่มียอดดาวเตะ
อย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า ที่กรุงบัวโนส ไอเรส 5-0
แต่น่าเสียดายที่หลังจาก ปาโบล เอสโกบาร์ เสียชีวิตลง ก็เกิดความวุ่นวายโกลาหลขึ้นทั่วทุกย่อมหญ้าที่เขามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งวงการฟุตบอลก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ก่อนฟุตบอลโลกปี 1994 จะเริ่มขึ้น มีการยิงโค้ชของทีม นักเตะในทีมถูกขู่ฆ่า มีนักเตะบางคนประกาศเลิกเล่นก่อนเวลาที่ควรจะเป็น โคลอมเบีย ที่เคยอุดมด้วยนักฟุตบอลฝีเท้าดี จึงประสบปัญหาและตกรอบแรกฟุตบอลโลกที่ประเทศอเมริกา
ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้น เพราะผู้มีอิทธิพลในวงการยาเสพติดต้องการตั้งตนเป็นใหญ่หลังหมดยุค ปาโบล เอสโกบาร์ นั่นเอง
-
คงไม่ผิดนัก หากจะพูดว่าวงการฟุตบอลโคลอมเบีย เฟื่องฟูในยุคที่ ปาโบล เอสโกบาร์ เรืองอำนาจ ก่อนจะหรี่แสงลงไปพร้อมๆกับที่ลมหายใจของเขาสิ้นสุดลง
และหากจะหานักฟุตบอลสักคน มาเป็นหนึ่งในภาพแทนยุคสมัยที่บ้าคลั่งมากที่สุดในวงการฟุตบอลโคลอมเบียยุคนั้น
คงไม่มีใครดีไปกว่าเจ้าของฉายา "ไอ้คนบ้า" เรเน่ ฮิกิต้า อย่างแน่นอน
โฆษณา