จินตภาพ เคล็ดลับความสำเร็จของนักกีฬา
จริงๆ ผมเคยเขียนถึงเรื่องนี้ไปแล้ว แต่มาสะดุดใจ และอยากเขียนเรื่องนี้อีก ก็เพราะว่า ได้อ่านบทความของ วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น ที่เล่าถึงบรรยากาศก่อนขึ้นชกกับ ริคาร์โด บาราฮาส บทความนั้น วีระพลได้กล่าวถึง สิ่งทีเขาทำก่อนขึ้นชกคือ "การจำลองภาพในหัว จำลองสถานการณ์ในหัวก่อนขึ้นชกจริง"
พูดง่ายๆ หลังจากการดูเทปการชกของบาราฮาส วีระพลได้จินตนาการว่าได้ชก กับบาราฮาส ก่อนขึ้นชกจริง ซึ่งวิธีการแบบนี้ จะโดยที่ตัวนักกีฬา ตั้งใจ หรือ ไม่ตั้งใจ รู้หรือไม่รู้ แต่มันคือวิธีการที่นักกีฬาระดับโลกหลายคนใช้ ก่อนที่จะแข่งจริง ยกตัวอย่าง เช่น
ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตสุดยอดนักกอล์ฟของโลก บอกว่า ลูกกอล์ฟน่ะมันลงหลุมไปก่อนที่เขาจะพัตต์ลูกเสียอีก ความหมายของไทเกอร์คือ ก่อนจะพัตต์ลูกออกไป เขาจินตนาการว่าเขากำลังตีลูกอยู่จริงๆ และเห็นลูกกอล์ฟลงหลุมไปก่อนที่จะตี
ชาบี เฮอนันเดส อดีตสุดยอดนักฟุตบอลของโลก บอกว่า วิธีการเล่นของเขา จะมองภาพล่วงหน้าไว้ก่อน 4-5 ช็อตก่อนที่บอลจะมาถึงตัว
กระทั่งสุดยอดมวยโลกรุ่นยักษ์ ไมค์ ไทสัน ก็บอกว่า เขาจะจินตนาการว่า เวลาที่เขาต่อยคู่ชกแต่ละหมัด เขาจะต่อยให้หัวคู่ชกระเบิดหายไปเลย
คำถามก็คือ การทำแบบนี้มีประโยชน์อย่างไร ก่อนอื่นก็ต้องอธิบายว่า สมองของคนเรานั้นมี 2 ซีก นั่นคือ ซีกซ้ายและซีกขวา ซีกซ้ายนั้นจะจดจำข้อมูล ทฤษฏี ตรรกะ เหตุผล อะไรก็แล้วแต่ที่อยู่ในกรอบ ส่วนซีกขวาจะจดจำอะไรในรูปแบบของภาพ ดังนั้น วิธีการที่นักกีฬาจินตนาการภาพก่อนแข่งจริง คือการเอาพลังของสมองซีกขวามาใช้ให้เกิดประโยชน์นั่นเอง
ยกตัวอย่างอีกสักข้อก็คือ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศ สหรัฐอเมริกา ได้ทดลองให้ นักกีฬาสองกลุ่ม ทดลองชู้ตลูกบอลจากจุดต่างๆ ต่างกันตรงที่ กลุ่มแรก ให้ฝึกโดยการปฏิบัติ ส่วนอีกกลุ่ม ให้ชู้ตในจินตนาการ โดยให้นั่งหลับตาแล้วนึกภาพอยู่ในหัว หลังจากนั้นให้ทั้งสองฝ่ายมาชู้ตแข่งกัน ผลปรากฏว่า ความแม่นยำแทบไม่ต่างกันเลย แต่ถามว่าหากไปลงแข่งจริงๆ ฝ่ายที่ซ้อมจริงก็จะแซงชนะไปได้ครับ เพราะร่างกายพร้อมกว่า แต่กระนั้นการทดลองนี้ก็แสดงให้เห็นถึงพลังของสมองซีกขวา
ดังนั้นสิ่งที่วีระพลนำมาใช้คือการนำเอาพลังของสมองซีกขวา ที่มีพลังในการจดจำสิ่งต่างๆในรูปแบบของภาพ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ก่อนการชกจริง นั่นหมายความว่า วีระพลได้ชกกับบาราฮาสก่อนขึ้นเวที มานับร้อยนับพันยก ดังนั้นการจ้างคู่ซ้อมที่มีสไตล์ใกล้เคียงกับ คู่ชกจริง มาลงนวมจึงมีประโยชน์ในแง่ของการดึงพลังของสมองซีกขวามาใช้ในการจดจำสไตล์การชกของคู่ชก รวมถึงการชกลมในรูปแบบ Shadow Boxing ซึ่งในระหว่างที่นักมวยกำลังชกลม เพื่อให้จดจำเทคนิคและสไตล์การชก นักมวยก็จะจินตนาการภาพในหัวไปด้วยว่ากำลังชกอยู่กับใคร และเมื่อถึงเวลาก่อนชึ้นชก ซึ่งตอนนั้นนักมวยจะหยุดการลงนวม แต่ก็ยังฝึกซ้อมเสมือนชกจริงได้ด้วยการใช้จินตภาพนี่เองครับ
และแน่นอนว่าเมื่อถึงเวลาลงสนามแข่งจริง นักกีฬาเหล่านี้ก็จะจดจำบรรยากาศ รวมถึงการเคลื่อนไหวของคู่แข่งไว้ในหัวอย่างชัดเจนหมดจด และหาวิธีการเอาชนะได้ในที่สุด
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
