Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เฮียเล็ก
•
ติดตาม
26 ธ.ค. 2019 เวลา 03:35 • กีฬา
กว่าจะถึงยอดเขา เราเดินผ่านอะไรมา
ทันทีที่นกหวีดนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลสโมสรโลกดังขึ้น
ทีมแชมป์ออฟยุโรป เริ่มต้นด้วยกลยุทธ์เพรซซิ่งอย่างร้อนแรงที่คนทั้งโลกรู้ว่า ทีมนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยฟุตบอลสไตล์นี้ ในวันที่ทีมไม่มีดาราระดับโลก ไม่ตำแหน่งใดๆ ยิ่งไปกว่านั้นทีมนี้แทบไม่มีความหวัง
หลายๆทีมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่เริ่มต้นด้วยการซื้อ แต่สำหรับทีมเสื้อสีแดงนี้เริ่มต้นด้วยการวิ่ง
ถ้าไม่ได้มีเงินมากกว่าคนอื่น ก็แค่วิ่งให้มากกว่าคนอื่น
แม้ระยะหลังเราจะไม่ค่อยได้เห็น “เกอร์เก้นเพรซซิ่ง”บ่อยๆเหมือนเมื่อก่อน
เพราะเรามักเก็บฟุตบอลแบบนี้ไว้ใช้กับทีมที่คู่ควรเท่านั้น
แน่นอนว่าฟลามิงโก้ทีมนี้คือทีมที่คู่ควร
มากกว่าคู่ควรด้วยซ้ำเพราะฟลามิงโก้คลี่คลายเกอร์เก้นเพรซซิ่งที่เป็นที่ครั่นคร้ามในยุโรปได้อย่าง ไม่ยากเย็น
ความเป็นบราซิลในสายเลือดนักเตะฟลามิงโก้ทุกคน ทำให้ไม่มีใครในทีมลนลานที่ถูกไล่บีบ ทุกคนส่งบอลไปมาด้วยความสนุกสนาน
แน่นอนว่าที่ผ่านมาเราเห็นบางทีมที่ยอดเยี่ยมในยุโรปหาทางแก้ทางการเพรซซิ่งของเรามาบ้าง แต่ไม่มีใครที่สามารถรับมือกับมันได้เหมือนเป็นของง่ายๆเท่านี้มาก่อน
ถึงก่อนแข่งทุกคนอาจจะมองว่านักรบในชุดสีแดงจะเอาชนะได้ง่ายๆ แต่อย่าลืมว่าที่คือการแข่งเพื่อตำแหน่งสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก เพราะฉะนั้นทุกคนที่มีสิทธิมาอยู่ในสนามวันนี้ไม่ใช่คนที่คุณจะเอาชนะได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตามลิเวอร์พูลทีมนี้ในวันนี้ก็ไม่ใช่ทีมที่มีไม้ตายแค่เพรซซิ่ง นี่คือทีมที่ผ่านความยากลำบาก ผ่านชัยชนะและพ่ายแพ้มานับครั้งไม่ถ้วน เปรียบเป็นจอมยุทธ์ก็เป็นจอมยุทธ์ที่ผ่านความเป็นความตายมามากมายย่อมไม่ได้มีกระบวนท่าไม้ตายเพียงท่าเดียว
แต่ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามชิงรุกเราย่อมต้องตั้งรับ ฟลามิงโก้ตอบโต้เราด้วยเกมรุกที่สวยงามไม่แพ้กัน แต่ลิเวอร์พูลก็ป้องกันด้วยกำแพงที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างมั่นคงแข็งแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมแทบทุกตำแหน่งในเกมรับของเราล้วนแต่เป็นผู้เล่นที่พูดได้ว่าดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร
ความยอดเยี่ยมของฟานไดค์ในวันนี้แทบไม่มีใครปฎิเสธได้ยกเว้นรางวัลบัลลงดอร์แต่ช่างเถอะนั่นไม่ใช่โอกาสเดียวในชีวิตเสียเมื่อไหร่
แฟนหงส์ทุกคนคงจำได้ว่าก่อนจะได้ฟานไดค์มานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลยจริงๆ ไม่ว่าจะต้องผ่านการเคลียร์ใจกับเซาธ์แทมตั้นที่เกือบจะเทเราไปอย่างไม่ใยดี เซาท์แธมตั้นทำแม้กระทั่งออกแถลงการณ์ด้วยซ้ำว่าจะไม่ขายฟานไดค์ให้เราอีกต่อไปแล้ว แต่สิ่งที่ทีมเราทำน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งของทีมคือยอมลืมศักดิ์ศรีแถลงการขอโทษนักบุญแดนใต้และยอมรับผิดในทุกการกระทำที่ล้ำเส้นพร้อมบอกว่าจะไม่ทำอะไรกับดีลนี้แล้วถ้าสโมสรต้นสังกัดไม่อนุญาต
เราเริ่มฤดูกาล17-18 โดยไม่ซื้อกองหลังใหม่ระหว่างนั้นเฮียจำได้ว่าทุกครั้งที่กองหลังเราพลาดจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาทันทีว่าทำไมไม่ซื้อกองหลังคนอื่นมาก่อน
ในขณะที่คนทั้งโลกถามว่าทำไมไม่ทำอะไรสักอย่าง มีคนบ้าเพียงคนเดียวที่ยังดื้ออยู่
เจอร์เก้น คล็อป นาทีนั้นทุกคนสงสัยมากว่ามึงจะอะไรหนักหนากับฟานไดค์
แค่เซนเตอร์ฮาล์ฟคนเดียวจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้สักแค่ไหนกันเชียว
พี่บ้าหรือเปล่าซื้อกองหลังที่ชื่อเสียงธรรมดา กับทีมธรรมดา ในราคาสถิติโลก
นาทีนั้นเฮียก็ยอมรับว่า ด้วยค่าตัวที่ย่อมต้องมาพร้อมกับความคาดหวัง ถ้านักเตะทำได้ไม่ดีพอโอกาสหายนะคงจะสูงมาก
ค่าตัวขนาดนี้ทำไมไม่ซื้อเซนเตอร์ฮาล์ฟระดับโลกคนอื่นมา
ค่าตัวขนาดนี้ซื้อกองหลังดีๆได้สองคนเลยนะ ซื้อกองหน้าระดับโลกได้ด้วย
คล็อปตอบทุกๆปัญหาที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับฟานไดค์ด้วยคำตอบสั้นๆเพียงประโยคเดียว
“คุณคอยดูก็แล้วกัน”
วันนี้เรารู้แล้วว่าค่าตัววันนั้นเราไม่ได้ซื้อกองหลังโนเนมของทีมกลางตาราง
ค่าตัววันนั้นเราจ่ายเพื่อซื้อกองหลังที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกมากกว่า
นี่เป็นอีกสิ่งที่สร้างทีมนี้ขึ้นมา
เราวิ่งมากกว่าคนอื่น
เราบ้ามากกว่าคนอื่น
ถ้าพูดถึงความบ้าเรามองไปทางกราบซ้ายด้วยก็จะเห็น ถ้าอยากได้โจทย์ที่ว่าทำยังไงเราถึงจะซื้อแบ็คซ็ายที่ดีที่สุดในยุโรป หรือ ในโลกได้ คนส่วนใหญ่ก็คงจะคิดว่าต้องเตรียมเงินเป็นสถิติโลกไปซื้อ มาร์เซโล่ หรือ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็โรโบโต้ คาร์ลอส ใครจะไปมองที่กองหลังจากทีมตกชั้น ความสำเร็จแบบนี้ถ้าเทียบในชีวิตประจำวันคงเทียบได้อย่างเดียวคือ
การถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลที่1
ต่างกันนิดเดียวตรงที่ว่าการถูกรางวัลที่1ครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากดวงแม้แต่นิดเดียว แต่เกิดจากความพยายามของทั้งทีมซื้อขายนักเตะและตัวนักเตะ
ทีมซื้อขายนักเตะที่นำโดยไมเคิลเอดเวิร์ดที่ทำหน้าที่ หาเพชรที่คนยังไม่รู้ว่าเป็นเพชร
และ ตัวของแอนดรูว์ โรเบิร์ตสันเองที่ไม่เคยจำนนต่อโชคชะตา
วันที่ไม่มีกิน เค้าเตะบอลเต็มที่พร้อมทวีตหางานทำอย่างไม่อายใคร
วันที่มีงาน เค้าทำงานหนักในสนามอย่างดีที่สุด ไม่ว่าองค์กรของเค้าจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว
วันที่ต้องนั่งสำรอง แทนที่เค้าจะพอใจ หรือ ออกอาการงอแง เค้ากล้าที่จะเคาะประตูถามเจ้านายว่าเค้าต้องพัฒนาตัวเองแบบไหนถึงจะได้โอกาส
พรสวรรค์จะทำให้เราทำสิ่งต่างๆได้ดี แต่ทัศนคติที่ดีจะทำให้เราทำได้ดีที่สุด
มองไปทางขวาเราก็เจอแบ็คขวาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในแบบที่ไม่มีใครเหมือน เรามีแบ็คขวาที่สร้างสรรค์เกมได้มากกว่าเพลย์เมคเกอร์ของทุกๆทีม ในวัยยี่สิบต้นๆนี่คืออัจฉริยะ
แต่ก่อนจะได้รับเสียงชื่นชม ทุกคนคงจำได้ว่าอัจริยะคนนี้ก็มีช่วงเวลาที่ถูกด่าเละเช่นเดียวกัน
ทุกๆคนคงจำวันที่เทรนท์โดนแรชฟอร์ดเผาเครื่องได้ โดนรีรอยซาเน่สอนบอลได้ และอีกหลายๆนัดที่ทุกคนตั้งใจมาเจาะทางด้านขวา
ทุกคนรู้ว่าคล็อปให้โอกาสดาวรุ่งเสมอๆ แต่ก็มีดาวรุ่งน้อยคนนักที่จะผ่านมาตรฐานของคล็อปได้ เจ้าหนูเทรนท์เป็นเพียงหนึ่งเดียวในตอนนี้ที่เป็นตัวจริงของทีมได้
ถ้าคล็อปเป็นคนให้โอกาส ก็ต้องให้เครดิตคนที่ “สร้าง”เจ้าหนูเทรนท์มาจนได้รับโอกาสดวัย เทรนท์เคยบอกว่านีล คริทลีย์ และ อเล็ก อิงเกิลทอร์ปเป็นเหมือนผู้ให้กำเนิดเค้าในสนามเลยทั้งการสอนให้ตั้งเป้าหมาย ให้มีสมาธิกับเกม ให้เก็บอารมณ์ไม่ให้คู่แข่งรู้ว่าเทรนท์รู้สึกยังไง จนทุกวันนี้เกมรับที่เคยน่าเป็นห่วงเริ่มดีขึ้นในทุกๆนัดที่เค้ามีโอกาส
และในวันนี้คนที่ยืนข้างฟานไดค์ ก็คือโจโกเมซเด็กหนุ่มอายุเพียง 22 ปีที่วันนี้เล่นดีเหลือเกิน ฟอร์มเก่าๆที่เคยดีเริ่มกลับมาหลังจากบาดเจ็บหนัก สิ่งที่โจเป็นมาตลอดคือเป็น เด็กดีไม่ว่าคล็อปจะให้เล่นตรงไหนโจโกเมซก็พยายามเต็มที่
และก็เป็นเหมือนกับเพื่อนๆแผงหลังของเขาทุกคนที่ผ่านเวลาที่ยากลำบากมา ไหนจะอาการบาดเจ็บ ไหนจะโดนเพื่อนร่วมชาติโห่ เพียงเพราะแค่ว่าดันไปทำให้สเตอริ่งขวัญใจของชาติหงุดหงิดแค่นั้นเอง ซึ่งเรื่องแบบนี้รุ่นพี่ในทีมของเขาล้วนผ่านมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นลอฟเรนที่โดนขู่ฆ่าเพียงแค่โหม่งบอลพลาดเท่านั้น หรือ มาติปที่เล่นดีทีไรก็กลับมาเจ็บทุกที ทั้ง3คนผลัดกันยืนคู่ฟานไดค์ เป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งคู่แข่งอย่างไรก็ตามการแข่งขันของทำ3คนกลับสร้างผลดีให้ทีมในท้ายที่สุด
ถึงแผงหลังเราจะเล่นดีกันขนาดไหนก็ตาม ด้วยความร้ายกาจของทีมจากบราซิลก็ยังสามารถสร้างโอกาสยิงประตูได้
แต่ลูกยิงทุกลูกก็ถูกหยุดโดยอลิซงเบ็คเกอร์ นี่คือผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ลิเวอร์พูล ครั้งสุดท้ายที่เราพอจะมีนายทวารที่ไว้ใจได้คงต้องย้อนไปถึง เรย์ คลีเมนซ์ในยุค 70 เลยมั้ง
หลังจากความเจ็บปวดในรอบชิง UCL กับมาดริด ทุกคนรู้ว่าการที่ทีมจะก้าวต่อไปได้ เราต้องมีผู้รักษาประตูที่ดีกว่านี้
การปล่อยคาริอุสออกจากทีมมันคือความเจ็บปวดที่จำเป็นกับทีม ลิเวอร์พูลตัดสินใจคว้าตัว อลิซงเข้ามาสำหรับเดอะค็อปแล้วนี่มันดีกว่าการแก้ปัญหาไปมาก
หลังจากปรับตัวได้ไม่นานเรื่องความประมาทในการเล่นบอลด้วยเท้าในอังกฤษ หลังจากการพลาดในนัดเลสเตอร์หลังจากนั้น อลิซงแทบไม่พลาดอีกเลย นี่คือผู้รักษาประตูที่แทบไม่มีลูกเหวอ ตัดปัญหาเรื่องการถูกโยนบอลเข้าใส่ มวลร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ไม่มีปัญหาเลยเมื่อต้องเจอกับกองหน้าตัวใหญ่ๆ จังหวะเซฟมหัศจรรย์มากมาย ความยอดเยี่ยมดังกล่าวทำให้เค้ากวาดรางวัลแทบทุกรางวัลที่ให้กับผู้รักษาประตูในปีนี้มาหมดเลย
และ อลิซงก็ไม่ได้เกิดมาเป็นนายทวารอันดับหนึ่งของโลกเลย เค้าเคยเป็นตัวสำรองให้พี่ชาย เป็นมือ3ที่อินเตอร์นาซิองนาว ต้องเป็นสำรองให้ เชสนี่ ที่โรม่า แต่หลังจากที่ได้โอกาสเป็นตัวจริงในฤดูกาล 17-18 หลังจากนั้นเค้าก็ไม่เคยเป็นมือสองให้ใครอีกเลย
นอกจากเรามีโกล์ตัวจริงที่ดีที่สุดในโลกแล้ว เรายังน่าจะมีโกล์สำรองที่ดีที่สุดในโลกด้วย
อาเดรียนสามารถทำหน้าที่ได้ไม่มีที่ติ เมื่อถึงโอกาส ประสบการณ์และทัศนคติที่ดี เขาคอยช่วยเหลืออลิซงได้เป็นอย่างดี
เริ่มเข้าสู่ช่วงท้ายเกม เกมในระดับสูงที่ชิงไหวชิงพริบกันเริ่มมีทิศทางเปลี่ยนแปลง เรี่ยวแรงและสภาพร่างกายที่ดีกว่าของนักเตะลิเวอร์พูล เริ่มสร้างความได้เปรียบให้กับเราทีละนิด
ในขณะที่นักเตะฟลามิงโก้เริ่มเป็นตะคริวให้ ในขณะที่นักเตะลิเวอร์พูลยังคงวิ่งได้อย่างดุดันเหมือนกับเกมเพิ่งเริ่มมาได้แค่ 15 นาทีเท่านั้น
แสดงให้เห็นว่าเราเตรียมตัว เตรียมสภาพร่างกายนักเตะมาดีกว่า แน่นอนเพราะเราไม่ได้เตรียมตัวกันแค่สองเดือนก่อนแข่งเหมือนบางประเทศในทวีปเวสเธอรอส แต่นักเตะลิเวอร์พูลเตรียมทั้งสภาพร่างกาย และ กินอาหารที่ถูกต้องมาอย่างยาวนาน
โมนาเนมเมอร์นักโภชนาการระดับเทพของเราถูกคล็อปชวนมาทำงานด้วย เธอย้ายมาจากบาเยิร์นตั้งแต่ปี2016 โมนาไม่ได้ทำแค่อาหารที่มีประโยชน์ เธอทำงานละเอียดชนิดที่ว่า คิดเมนูให้นักเตะเป็นรายคนด้วยซ้ำ ทั้งนักเตะ อังกฤษ แอฟริกา บราซิล ที่แทบจะกินไม่เหมือนกัน เธอพยายามทำให้อาหารที่เธอทำทั้งมีประโยชน์และถูกปาก แถมยังสอนให้แฟน หรือ ภรรยานักเตะทำอาหารที่ถูกต้องให้แฟนๆของพวกเธออีก
เขียนถึงบรรทัดนี้ก็ได้แต่สะท้อนใจ ครั้งหนึ่งเฮียเคยเห็นนักบอลระดับเยาวชนอายุ 14-15 ปีนั่งทานโรตีสายไหมเป็นมื้อเที่ยงทั้งทีมก็ได้แต่หวังว่าวันนี้ความรู้เรื่องโภชนาการบ้านเราคงดีกว่าเดิมนะหวังให้เป็นแบบนั้น
ในสงครามที่เชือดเฉือนกันด้วยกลยุทธ์ ใครจะนึกว่าสุดท้ายแล้วทีมเราคว้าแชมป์โลกด้วยเรื่องพื้นฐานเลยคือ แรงเราดีกว่า
บอลที่ถูกวางยาวมาจากแนวลึก หนึ่งใน “อาวุธใหม่”ที่ใช้ได้ผลมากในช่วงนี้ทำให้เราได้ประตูในช่วงต่อเวลา จากบ็อบบี้เฟอร์มิโน่ กองหน้าที่ถูกมองแบบอันเดอร์เรทมากที่สุดคนหนึ่ง
แน่นอนว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลที่ติดตามทีมมายาวนานรู้ว่าบ็อบบี้เป็นกองหน้าที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร
ช่วงแรกที่คล็อปจับเฟอร์มิโน่มาเล่นกองหน้า ทุกคนคิดว่าเป็นการแก้ไขปัญหาชั่วคราวด้วยซ้ำ ทั้งๆที่ขณะนั้นทีมเรามีทั้ง เบนเตเก้ สเตอริดจ์ แดนนี่อิงค์ แต่คล็อปให้ความไว้วางใจเฟอร์มิโน่เรื่อยมา
และไม่ว่าจะเล่นดีแค่ไหนก็จะมีคนบอกเสมอว่าทีมเรายังขาด “ศูนย์หน้าตัวเป้า” อยู่ตลอด ทั้งๆที่แท้ที่จริงแล้วคล็อปเจอ ศูนย์หน้าที่เป็นแกนหลักของการทำทีมของเค้าแล้ว
นอกจากเบสิคที่ดีการจับบอลแรก พักบอลครองบอลระดับเทพ บ็อบบี้อาจไม่ได้มีลูกยิงมหัศจรรย์ หรือความเร็วแบบเสือชีตาร์ขี่จรวดเหมือนซาล่าหรือมาเน่ แต่นี่จะเป็นคนแรกของทีมที่วิ่งเข้าหาบอลเมื่อเราเพรซซิ่งสูงและคอยแย่งบอลแซะบอลด้วยความเจ้าเล่ห์
บ็อบบี้คือคนที่ยอมทำงานที่ไม่มีใครอยากทำโดยไม่เกี่ยงงอน ลองนึกสภาพคุณจะให้โรนัลโด หรือ “พระเจ้า”แบบสลาตันคอยไล่บอลอย่างบ้าคลั่งอย่างที่บ็อบบี้ทำ นักเตะระดับซุปตาร์จะมีสักกี่คนที่ยอมทำงานเก็บกวาดแบบที่บ็อบบี้ทำ
สำหรับเด็กหงส์บ็อบบี้ไม่ใช่พระเจ้า แต่ เค้าคือคนธรรมดาที่เราพึ่งพาได้เสมอ
และเมื่อถึงเวลาชายผู้ทำทุกอย่างเพื่อทีมมาตลอดก็ยิงประตูที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
การยิงประตูด้วยความเยือกเย็น จากลูกส่งผ่านของมาเน่
นาทีนี้ถ้าให้เลือกระหว่างเมซซี่ กับ มาเน่ อยู่ในทีมสำหรับเฮีย เฮียเลือกมาเน่แบบไม่ต้องคิดเลย
จบเกมซาล่าห์ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยม ซึ่งใครจะได้ก็ไม่สำคัญจริงๆ เพราะทีมเราคู่ควรกับรางวัลนี้ทุกคน
ซาล่าห์ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องพิสูจน์ตัวเองนานมาก นักเตะที่ไม่เคยดีพอที่เชลซี วันนี้เค้าประสบความสำเร็จมากกว่าทุกๆคนที่เค้าเคยนั่งสำรองให้แล้ว
จบเกมผู้ชายที่เหมาะสมที่สุดที่จะชูถ้วยเดินเข้ามา
เพราะเมื่อวานเค้าโดนด่ามากกว่าใคร วันนี้เค้าจึงประสบความสำเร็จมากกว่าใคร
ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร วันนี้คงไม่มีใครเหมาะกับตำแหน่งกัปตันมากกว่าจอร์แดน แฮนเดอร์สัน
ไม่ว่าจะถูกจับนั่งสำรอง ทั้งๆที่เป็นกัปตันทีมเค้าก็ก้มหน้าทำหน้าที่ต่อไป เพื่อทีม ในขณะที่กัปตันทีมบางคนพอโค้ชทำไม่ถูกใจตัวเอง พาเพื่อนเลื่อยเก้าอี้โค้ชด้วยซ้ำ ลิเวอร์พูลโชคดีแค่ไหนที่เรามีกัปตันทีมที่เป็นมนุษย์ที่ดีกว่านั้น
ก่อนฟาบินโญ่จะมาเฮนโด้ถูกคล้อปให้ไปยืนตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับเป็นปีๆทั้งๆที่ไม่ใช่ตำแหน่งถนัด แต่เฮนโด้ก็ทำตามคำสั่งผู้จัดการทีมอย่างเคร่งครัด แม้ชีวิตนักฟุตบอลจะสั้นมากการต้องยืนในตำแหน่งที่ไม่ถนัดก็เปรียบเสมือนเสียเวลาในการจะทำในสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเองไปเป็นปีๆ แต่เฮนโด้กลับไม่เคยคิดถึงตัวเอง
วันนี้เฮนโด้พัฒนาตัวเองขึ้นมามากจนเป็นมากกว่ากัปตันทีมที่ดีคือ เค้ายังเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งของทีมเราอีกด้วย
การได้แชมป์สโมสรโลกก็เปรียบเสมือน การที่ทีมขึ้นมาถึงความสำเร็จจุดที่เราไม่เคยมาถึงมาก่อน
นี่เป็นมากกว่าฟุตบอลเพียงแค่หนึ่งนัด ถ้วยรางวัลเพียงแค่1ใบ สิ่งที่มีค่ากว่านั้นคือประสบการณ์ที่พวกเราทั้งโค้ช นักเตะ แฟนบอลตาดำๆในเสื้อสีแดงอย่างพวกเรา หรือ แม้แต่แอดมินเพจตัวเล็กๆ และ เดอะค็อปทุกภาคส่วนผ่านมันมาด้วยกัน
ทุกความเศร้า ความสุข ความผิดหวังนับครั้งไม่ถ้วน มาถึงความสมหวังอีกครั้งหนึ่งวันนี้
คงได้แต่บอกว่ารู้สึกดีๆ ที่พวกเราไม่เคยเดินผ่านมันมาอย่างเดียวดาย
รักนะจากเฮีย อยากให้เชียร์ด้วยกันไปอีกตลอดกาล
#YNWA
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย