26 ธ.ค. 2019 เวลา 13:56 • ความคิดเห็น
ตามคัมภีร์นิกายเถรวาท(หินยาน) กล่าวว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดงไว้ ณ นิโครธาราม มหาวิหาร ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ แก่พระประยูรญาติ หมู่ภิกษุสงฆ์ เทวดา&มนุษย์ทั้งหลายว่า
"พระพุทธเจ้าในอดีตมี 27พระองค์ ได้แก่ พระตัณหังกรพุทธเจ้า พระเมธังกรพระพุทธเจ้า พระสรณังกรพระพุทธเจ้า พระทีปังกรพระพุทธเจ้า รวมองค์อื่นๆอีกจนถึงยุค ภัทรกัป มีพระพุทธเจ้ารวม 5พระองค์ คือ พระกกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมนพุทธเจ้า พระกัสสปพุทธเจ้า พระโคตมพุทธเจ้า(พระองค์เอง) ในอนาคตจะปรากฎ พระพุทธเจ้าองค์ใหม่ คือ พระศรีอาริยเมตไตรยพุทธเจ้า ซึ่งจะมาตรัสรู้ พร้อมองค์อื่นๆ ในกาลต่อไปรวม 10 พระองค์
ตามความเชื่อฝ่ายนิกายมหายาน ซึ่งเกิดขึ้นราวพุทธศวรรษที่6-7นั้น ได้กล่าวยอมรับคำกล่าวของนิกาย หินยาน เพิ่มเติมตรงที่เชื่อว่า พุทธเจ้าเหล่านี้ประทับอยู่ที่"พุทธเกษตร"เป็นดินแดนวิจิตรพิศดารหาที่ใดมาเทียมเท่าได้
ตามคัมภีร์พระพุทธศาสนา กล่าวว่าโลกเราเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล มีการแตกดับมานับไม่ถ้วน ได้แบ่งเวลาตาม ฎีกามาเลยยสูตร แบ่งเวลาออกเป็น กัป กัลป์ จนถึงอสงไขยกัป(ช่วงเวลาอันยาวนาน จนประมาณมิได้) ได้กำหนดช่วงเวลากัปที่จะมีพระพุทธเจ้า มาเกิดดังนี้
สุญญกัป คือกัปที่ปราศจากพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระเจ้าจักรพรรดิ
อสุญญกัป คือ กัปที่ไม่ว่างจากพระพุทธเจ้า แบ่งเป็น 5 ประเภทคือ
1.สารกัป คือ กัปที่เป็นแก่นสารมีพระพุทธเจ้า มาตรัสรู้ 1พระองค์
2. มัณฑกัป คือ กัปที่ผ่องใส มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ 2พระองค์
3.วรกัป คือ กัปที่ประเสริฐ มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ 3พระองค์
4.สารมัณฑกัป คือ กัปที่เป็นแก่นสาร&ผ่องใส มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ 4 พระองค์
5.ภัทรกัป คือ กัปที่โลกมีความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งอยู่ในช่วงกัปปัจจุบันที่ผ่านมา มีพระพุทธเจ้าถือกำเนิดแล้ว 5พระองค์
1
ครั้งนั้นพระพุทธเจ้า นามว่า"กกุสันธะ" ประทับอยู่ที่ป่ามฤคทายวัน พร้อมด้วยภิกษุไปบิณฑบาตร ที่เมืองมิถิลา แล้วเสด็จทางอากาศมาสถิตย์ ที่"ถ้ำกุมภ์"(เชื่อว่าเคยมีพระพุทธเจ้า องค์ก่อนเคยผ่านมา ประทับ)ท่านทรงตรัสว่า
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้ำนี้เป็นที่ประทับ ทำภัตตกิจของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย มีพระตถาคตเป็นต้นนี้ และพระพุทธเจ้า ทั้ง4พระองค์ ต่อแต่ตถาคตไปในภายภาคหน้า จักเสด็จมาทำภัตตกิจที่ถ้ำนี้ทุกพระองค์ เมื่อเรานิพพานล่วงไปแล้ว จะมีพญานาค1ตัวที่มีบริวารถึง 7โกฏิ อยู่ที่หนองกระแสหลวง ในเมืองมิถิลา จักขุดควักล่องมาถึงหนองกระแสหลวง ล่องไปจนถึงมหาสมุทรหลวง น้ำสระหนองนี้ก็จักแห้ง เป็นแผ่นดินราบเสมอ"
"ภายภาคหน้าจะมีพระยา1องค์ มีบุญญาภิสมภาร จักมาอยู่ที่หนองน้ำนี้ สถานที่นี้จะเป็นที่ตั้งพระศาสนาของ พระพุทธเจ้า4พระองค์ ภัทรกัปนี้ตั้งได้7อสงไขย เศษแสนปี น้ำในมหาสมุทรจะครอบหนองหลวงนี้ไว้"
ครั้นนั้นพระยาองหนึ่ง อยู่เมืองสิงทิศบูรพาโน้น ได้พาบริวาร ลงเรือเที่ยวริมฝั่ง มหาสมุทรพอจอดเรือพักแรม 1ราตรี รุ่งขึ้นน้ำมหาสมุทร เกิดแห้งเฉียบพลัน เรือของพระยาติดค้างที่พื้น พระยาสั่งให้บริวารกลับเรือ แต่เรือขาดเป็น3ท่อน จมลงในน้ำ ทุกคนพากันร้องไห้ และพากันว่ายน้ำหนีเอาตัวรอด
พระยาว่ายน้ำไปทางทิศบูรพา ได้1คืนจนถึงภูเขาแห่งหนึ่ง เที่ยวไปตามสันภูเขา ราว3ราตรีก็อิดโรยเป็นอย่างยิ่ง พอพระยาถึงหนองน้ำพักค้างแรมแล้ว ถึงแก่อนิจกรรมไป
ต่อมาสถานที่นั้นจึงชื่อว่าเมืองค้าง ส่วนพระยากลายเป็นหิน จมอยู่ในน้ำ กาลต่อมาเมื่อน้ำแห้ง สถานที่นั้นกลายเป็น ที่สถาปนาพระพุทธศาสนา ของพระพุทธเจ้าทั้งหลายในภายหน้า เที่ยงแท้"
ครั้นพระพุทธเจ้าทรง พยากรณ์แล้วจึงทรงเสด็จสู่ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน พระพุทธเจ้ากกุสันธะ ตลอดพระชนมายุของพระองค์ ได้40,000ปี ครั้นถึงเดือน8 วันอังคารก็เสด็จนิพพานไป พระองค์ทรงตั้งพระศาสนา 500,000ปี

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา