28 ธ.ค. 2019 เวลา 07:58 • ไลฟ์สไตล์
เรื่องเล่าที่24...ซึมเศร้าเหงารัก
ที่ผ่านมาเราคงเคยได้ยินได้ฟัง
เรื่องราวของผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า กันมาบ้างแล้ว
แต่โดยส่วนตัวแอดนั้น ยังไม่เคยมีโอกาสได้พูดคุย
กับผู้ป่วยโรคนี้แต่อย่างใด
วานนี้เองแหละครับ แอดมีโอกาสได้คุยกับหลานสาว
ซึ่งเป็นลูกของญาติๆกัน
ขออนุญาตสมมุตินามเธอว่าน้องฟางก็แล้วกัน
น้องฟางอายุประมาณ30 ทำงานฟรีแลนซ์
พื้นฐานครอบครัวก็ปกติธรรมดา ไม่ลำบากไม่ร่ำรวยอะไร
แต่เธอป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
ซึ่งตอนนี้อาการของน้องฟางถือว่าดีขึ้นแล้ว
แต่ต้องทานยาต้านซึมเศร้า และไปพบหมอตามเวลานัด
เพื่อหมอจะได้พูดคุย และรักษาทางจิตใจด้วย
ปกติแอดเองมีความรู้ในเรื่องโรคซึมเศร้าน้อยมาก
แต่บังเอิญวานนี้มีโอกาสได้คุยกับน้องฟางนานทีเดียว
แอดคุยกับน้องฟางได้เกือบชั่วโมง
ซึ่งก็เหมือนคุยกับคนอื่นๆทั่วไป ถ้าไม่ทราบมาก่อน
อาจจะไม่รู้ว่าเธอเป็นโรคซึมเศร้าก็เป็นได้
แต่สิ่งหนึ่งที่แอดสัมผัสได้จากน้องฟางคือ ความหม่นหมอง
ความท้อแท้ คล้ายๆจะสิ้นหวัง
แต่ก็ไม่แสดงออกมากอะไรนัก
ซึ่งปกติแอดก็เชื่อมั่นตัวเอง ว่าเป็นผู้ฟังที่ดีพอสมควร
เพราะมักจะตกเป็นที่ระบาย ความโกรธ ความอัดอั้นตันใจ
ของใครบางคนบ่อยเลยทีเดียว
ส่วนสาเหตุที่น้องฟางป่วยเป็นโรคซึมเศร้านั้น
แอดเองก็ไม่กล้าวิเคราะห์ เพราะสาเหตุของโรคนี้
มาจากหลายเหตุปัจจัย
แต่สิ่งที่แอดดีใจเป็นยิ่งนัก คือก่อนกลับบ้าน
น้องฟางบอกว่ารู้สึกดีมากๆ ที่ได้คุยกับน้า
คุยแล้วสบายใจ
เหมือนได้คุยกับ พ่อที่จากไปสิบกว่าปีแล้ว
ซึ่งก็รับปากน้องฟางไปว่า จะหาโอกาสมาหาอีก
และสามารถปรึกษาน้าคนนี้ได้ทุกเรื่อง ตลอดเวลา
จริงอยู่โรคซึมเศร้านั้นเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติ
ของสมองบางส่วน
และอาจจะเกิดจาก ทั้งความเข้าใจ และไม่เข้าใจ
ในอะไรหลายอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
แต่สิ่งหนึ่งที่จะพอเยียวยาได้
คือ ขอแค่มีใครคนนึง
เข้าใจ และรับฟัง
แค่ฟัง ไม่ต้องตัดสิน
เพราะความถูกต้องในมุมมองของแต่ละคนอาจต่างกัน
การยอมรับในเหตุผล อาจต้องการเวลา
อาจต้องการ การเรียนรู้
อาจต้องการ ความจริงใจ
ไม่ใช่เพียงคำพูดไม่กี่ประโยค ในเวลาอันแสนสั้นนี้
การฟัง ไม่จำเป็นต้องคล้อยตาม
ไม่จำเป็นต้องมีวิธีแก้ไข
แค่ใส่ใจก็พอ
จริงๆก็ไม่ง่ายเลยที่เราจะเจอะเจอผู้รับฟังเช่นนี้
แอดเองกว่าจะคิดได้
้ก็ต้องผ่านการพูด การฟังที่ผิดพลาดมามากมายแล้วเช่นกัน
และสิ่งที่แอดคิดก็ไม่มีผิดมีถูก
เพราะเป็นเพียงมุมมอง เป็นความเชื่อของแอดคนเดียวเท่านั้น
ซึ่งก็ยังไม่รู้เลยว่าถึงวันนี้จะทำได้อย่างที่คิดหรือไม่
โชคดีที่มีโอกาสได้พูดคุย ได้รับฟัง
และได้เข้าใจผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามากขึ้น
และโชคดีที่แอดเองคงไม่เป็นโรคซึมเศร้า
แต่โรคเหงารักนี่สิ
รักษาอย่างไรก็ไม่หายสักที 😆😆😆
Cr.ภาพจาก pixabey
โฆษณา