29 ธ.ค. 2019 เวลา 16:43 • การศึกษา
เรื่องราวดีๆ แนวคิดดีๆ กับมุมมองด้านการศึกษาที่ต่อยอดสู่มุมมองการเดินทางของวิถีชีวิต
แนวคิดของเรากับวิถีบ้านเรียน#1
นั่งเฝ้าไข้เด็กน้อยแล้วตาค้าง จึงได้นั่งคิดอะไรเพลินๆ
นึกไปถึงเด็กๆ เพื่อนๆ บ้านเรียนของลูก พ่อแม่ของเพื่อนๆ ลูก เห็นถึงความหลากหลาย ทั้งแนวคิด ทั้งวิถี ทั้งอาชีพ ทั้งฐานะ ภูมิประเทศ สภาพอากาศ สถานที่เกิด บลาๆ ฯลฯ แล้วมองภาพว่าหากบ้านเรียนคือโรงเรียน ที่วันนี้พ่อแม่ลูกหลากหลายบ้านต้องอยู่ในรั้วโรงเรียนเดียวกัน พวกเราช่างมีความหลากหลายจริงๆ นะ
ต่อยอดความคิดไปอีกว่า เมื่อบ้านเรียนหรือโฮมสคูลคือระบบการศึกษาแบบหนึ่ง หรือเปรียบเทียบเป็นชื่อที่จะมองภาพได้ง่ายๆ คือโรงเรียนหนึ่งที่มีชื่อว่า บ้านเรียน โรงเรียนของเราใหญ่มากเลยนะ ไม่ใช่แค่ในจังหวัด แต่เรามีเพื่อนร่วมเรียนรู้ด้วยกันทั้งประเทศ อยู่ทุกที่ทุกมุม แต่ละจังหวัดมีเครือข่ายมีเพื่อนบ้านเรียนที่ประสานดูแลกันและคอยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยกันตลอด
โดยเฉพาะครอบครัวที่มีความสนใจคล้ายกัน แนวทางใกล้ๆ กันก็อาจจะกลายเป็นเพื่อนรักกันไปจนเด็กโตก็เป็นมาแล้ว
นี่ยังไม่พูดถึงระดับเพื่อนร่วมชั้นรอบโลกที่เราสามารถใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อสื่อสารกันได้ เอาแค่เบาะๆ คือในโซนเอเชียนี่ล่ะ เราเรียนรู้ร่วมกันได้หมด แค่เด็กสนใจ
#ลูกสาวพิสูจน์ให้เห็นแล้ว ตามแนวทางตามวิถี #เด็กบ้านเรียน #HomeSchool
#PhoenixHomeSchool
#PhonicHomeSchool
#PhenaHomeSchool
วางแผนอนาคตจะมี #PhenonHomeSchool
สมัยนี้อะไรๆ ก็ใกล้ขึ้น ง่ายขึ้น ใช้ให้เป็นก็เกิดประโยชน์เนอะ
การทำบ้านเรียน เป็นความเปลี่ยนแปลง(ทางใจ)ครั้งใหญ่ในการดำเนินชีวิตของเราก็ว่าได้
เพราะความตระหนักความห่วงใยจากคนรอบข้างส่วนหนึ่งนั้นคือเรื่องสังคมของเด็ก กลัวลูกหลานไม่มีเพื่อน ไม่มีใครคบ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย
วิถีนี้คือเด็กมีเพื่อนนะ (วงเล็บว่าอันนี้ต้องขึ้นอยู่กับบุคลิกลักษณะส่วนตัวของแต่ละคนด้วยนะคะ)
เพื่อน...คือเพื่อนที่ไม่ต้องตัวติดกันตลอดเวลา เพราะคือสังคม เพราะสิ่งนี้คือส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตตามวิถีของมนุษย์โลก ทุกคนย่อมมีเพื่อนแต่จะเป็นแบบไหนก็คือแล้วแต่จะเลือกสรร
รักเพื่อนมีเพื่อนได้เพราะเพื่อนมีไว้ช่วยเหลือกันแต่ในขณะเดียวกันก็รู้จักที่จะให้เกียรติ เว้นช่องว่างสำหรับความเป็นส่วนตัวซึ่งกันและกัน เด็กสามารถก้าวเดินด้วยตัวคนเดียวได้(ไม่ได้แปลว่าโดดเดี่ยว) เติบโตด้วยหัวใจที่โอบกอดตัวเองรักตัวเองได้และสามารถแบ่งปันความรักความสุขให้กับคนรอบข้างได้
ด้วยครั้งหนึ่งที่เคยมีข่าวเด็กฆ่าตัวตายเพียงเพราะเพื่อนไม่รัก ไม่เอาเข้าแก๊งค์ เด็กยอมทำผิดเพื่อให้เพื่อนในกลุ่มยอมรับ เด็กยอมละเมิดสิทธิ์คนอื่นเพียงเพื่อจะสามารถเข้ากับเพื่อนหรือกลุ่มที่ต้องการได้ ฯลฯ โดยที่ลืมคิดไปว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญกว่า ลืมคิดไปว่า เกิดมาหนึ่งชีวิตเราไม่ได้ติดอยู่กับเพื่อนกลุ่มนี้ไปจนตาย เรามีสิทธิ์และมีทางเลือกเพียงแต่เด็กจะได้รับการบอกกล่าวแค่ไหนว่าเรามีทางให้เลือกเดินเสมอ บางเส้นทางอาจจะลำบาก โดดเดี่ยว แต่เราก็ยังจะเติบโตและยืนหยัดได้หากหัวใจเราเข้มแข็ง และหากเราเข้มแข็งเราไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครคบหรือไม่มีเพื่อนหรอก
เพื่อนเป็นสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต แค่ขอให้เรารู้จักเลือกรู้จักคิดเท่านั้น เหมือนคำโบราณว่า “เพื่อนดีมีเพียงหนึ่งถึงจะน้อย ดีกว่ามีเพื่อนร้อยคอยคิดริษยา” อันนี้จริงมาก เพื่อนแค่คนเดียว หากเป็นเพื่อนที่ดีเขาจะกลายเป็นกัลยาณมิตร ในขณะที่มีเพื่อนนับร้อยแต่หาที่จริงใจจริงๆ ไม่ได้สักคน สุดท้ายก็เหมือนไม่มีเพื่อนนั่นล่ะ
เหตุและแนวคิดเหล่านี้ จึงไม่เคยคร่ำเคร่งกับคำว่า “เด็กต้องมีเพื่อน” ลูกน้อยในวัยอนุบาล เพื่อนที่ดีที่สุดคือพ่อแม่นี่ล่ะค่ะ ความเชื่อมั่นเหล่านี้ทำให้เรายังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวเดินตามแนวทางที่เลือกแล้ว...
ปล.ครอบครัวคือสังคมในรูปแบบหนึ่งและคิดว่าสำคัญยิ่งสำหรับการเติบโตเพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้า เพื่อนข้างบ้านก็เรียกว่าสังคมอีกรูปแบบหนึ่งไหม ไปจ่ายตลาด ไปเดินห้าง เดินทางกับรถสาธารณะ ไปติดต่อร้านถ่ายรูป เหล่านี้คือสังคมใช่ไหม และนี่คือสังคมที่เมื่อโตขึ้นเราจะต้องยืนหยัดก้าวไป
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม จะเป็นสังคมแบบไหนอยู่ที่เราเรียนรู้และเลือกเดินเลือกอยู่เลือกทำ...จริงไหมคะ?
แม่หญิงข้าวฟ่าง_29122562

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา