31 ธ.ค. 2019 เวลา 15:17
“แด่วันสุดท้ายของปี”
หลายคนก็เลือกที่จะลืม
หลายคนก็เลือกที่จะจดจำ
สำหรับบางคนมันคงเป็นปีที่สวยงามที่สุด
แต่สำหรับบางคนมันก็คงเป็นปีที่ย่ำแย่ที่สุด
แต่ไม่ว่ามันจะดีหรือจะแย่อย่างไร
ทุกๆอย่างที่ผ่านพ้นมาที่เราได้ใช้ชีวิตมา 1 ปีเต็ม
ได้ผ่านพ้นไปหมดสิ้นแล้ว
เป้าหมายต่างๆที่เซ็ตไว้ในตอนต้นปี
อย่างที่เรากำลังจะเซ็ตขึ้นใหม่อีกครั้ง
ในวันที่ 1 มกราคม
บ้างก็ทำได้บ้าง
บ้างก็ทำไม่ได้บ้าง
บ้างก็ไม่ได้ทำเลย
แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะคนเรานั้น
ย่อมให้โอกาสตัวเองได้เสมอ
ตราบใดที่เรายังคง “ก้าวต่อไป”
วันที่ 31 ธันวาคม ถึง วันที่ 1 มกราคม ของทุกปี
ที่มีช่วงรอยต่อของเวลาห่างกันแค่ 24 ชม.
ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนสมัยที่เรายังเป็นเด็ก
เราคงรู้สึกดีใจที่วันแห่งความสุขของทุกคนได้มาถึง
วันที่เราจะได้เฉลิมฉลองการเข้าสู่พาร์ทใหม่ของชีวิต
แต่พอเราโตขึ้น
ความหมายของวันสองวันนี้กลับเปลี่ยนไป
ในความคิดของเรา เราคิดว่า
จุดประสงค์ของวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ไม่ใช่เพื่อการเฉลิมฉลองเพียงอย่างเดียว
แต่ยังเป็นวันที่ทำให้เราทุกคน
ได้กลับมาคิดทบทวนกับตัวเอง
ถึงสิ่งต่างๆ ที่เราได้ทำลงไปและยังไม่ได้ทำ
เรื่องราวมากมายที่ผ่านเข้ามาให้เราได้เรียนรู้
เรื่องบางอย่างที่ควรเก็บรักษาไว้
เรื่องบางอย่างที่เราควรปล่อยไป
ผู้คนที่ยังอยู่กับเรา ผู้คนที่หล่นหาย
และผู้คนที่เดินออกไปจากชีวิต
ในทุกๆครั้งของการมาถึงของวันที่ 31 ธันวาคม
ทุกๆคนต่างดีใจถึงโอกาสที่จะได้เริ่มต้นใหม่ในปีหน้า
แต่สิ่งหนึ่งที่เราอาจจะไม่ได้ตระหนักถึง
ว่าแท้จริงแล้วชีวิตกำลังส่งสัญญาณบอกเราว่า
“เวลาของเราถูกลบลงไปอีก 1 ปีแล้วนะ”
การมาถึงของเทศกาลปีใหม่
คือสัญญาณเตือนว่าเวลาของเราเหลือน้อยลงไปทุกที
สิ่งใดที่เราอยากทำและยังไม่ได้ทำ ควรรีบทำ
เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น
วันไหนจะเป็นวันสุดท้าย
หรือปีไหนจะเป็นปีสุดท้าย
เพราะการมีชีวิตอยู่กับความรู้สึกค้างคา
ในวันที่เราทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าตอนนี้
คือสิ่งที่น่าเสียดายที่สุด
“จงใช้ชีวิตทุกวัน
ให้เหมือนว่าวันนี้คือวันที่ 31 ธันวาคม
เพราะมันคือวันที่เรามีความสุขมากที่สุด
และได้คิดทบทวนกับชีวิตมากที่สุด”
....
#TheMemory
โฆษณา