31 ธ.ค. 2019 เวลา 17:48 • ข่าว
#นักฆ่าต้นทุนกับช่องทางธรรมชาติของเขา
#ญี่ปุ่นมึน
สุดยอดข่าวดังปิดท้ายปีนี้ ขอยกให้กับ Now You See Me ภาคพิศดาร ของ คาร์ลอส กอส์น อดีตประธานกรรมการบริษัท นิสสัน ที่ถูกปลดฟ้าฝ่า และยังถูกดำเนินคดีในญี่ปุ่นข้อหา ปกปิดข้อมูลทรัพย์สิน แจ้งรายรับต่ำกว่าความเป็นจริง
รวมถึงการใช้อำนาจมิชอบในตำแหน่ง แสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเอง ได้หลบหนีออกจากญี่ปุ่น ไปอยู่ในบ้านพักส่วนตัวที่กรุงเบรุต ประเทศเลบานอนเรียบร้อยแล้ว และประกาศว่า ที่เขาหนีมา เพราะเขาไม่ได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการศาลของญี่ปุ่น
สำหรับท่านที่อาจจะยังไม่ทราบว่า คาร์ลอส กอส์น คือใคร มาย้อนประวัติคร่าวๆสักเล็กน้อย
คาร์ลอส กอส์น เป็นชาวเลบานอน ที่เกิดในบราซิล แต่ไปเรียนจบวิชาวิศวกรรมในฝรั่งเศส ทำให้เขาสามารถถือพาสปอร์ตได้ถึง 3 ประเทศ บราซิล เลบานอน และ ฝรั่งเศส นอกจากจะแตกฉานด้านวิศวกรรมยานยนต์ ยังสามารถพูดได้ถึง 6 ภาษา สเปน โปรตุเกส อิตาลี อังกฤษ ฝรั่งเศส รวมถึงภาษาญี่ปุ่นในระดับที่สื่อสารได้
เขาเริ่มต้นทำงานในบริษัทยางมิชลิน และฉายแววอัจฉริยะด้านการพัฒนาระบบการผลิตจนสร้างกำไรให้กับมิชลินเป็นกอบ เป็นกำ ก่อนที่จะถูกดึงตัวมาทำงานที่เรโนลต์ในปี 1996
และเขาก็ปรับปรุงโครงสร้างการผลิต ที่สามารถลดต้นทุนได้อย่างมหาศาลจนทำให้ เรโนลต์กลับมาเป็นหนึ่งในค่ายรถยนต์ที่แข็งแกร่ง และทำให้เขาได้รับฉายาจากวงการผลิตรถยนต์ว่า "Le Cost Killer" หรือ นักฆ่าต้นทุน
หลังจากนั้น เรโนลต์ เข้าควบกิจการนิสสัน ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ด้วยการเข้าซื้อหุ้น 40% แล้วส่งคาร์ลอส กอส์น มานั่งเป็นประธาน โดยให้โจทย์ว่า ต้องฟื้นฟูกิจการรถนิสสัน ที่ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่องมานานกว่า 7 ปีให้ได้ภายใน 2 ปี
แต่คาร์ลอส กอส์น ใช้เวลาเพียง 1 ปี ก็สามารถพลิกสถานการณ์ให้นิสสันกลับมาทำกำไร และกลายเป็นค่ายรถยนต์เบอร์ต้นๆของโลกได้อีกครั้ง
ประวัติการทำงานของคาร์ลอส กอส์น ไม่ธรรมดา และชาวญี่ปุ่นเคยยกย่องเขาประหนึ่งฮีโร่ด้วยซ้ำไป
แต่ทว่า มาถึง ปี 2018 เกิดมีคดีอื้อฉาวว่าเขาจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สิน แจ้งรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริง
คดีของคาร์ลอส กอส์น เริ่มต้นตั้งแต่ปลายปี 2018 โดยเขาถูกจับกุมตัวทันทีที่ลงเครื่องบินที่สนามบิน ฮาเนดะ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2018 หลังตรวจพบว่าเขาจงใจใช้อำนาจในตำแหน่งหาผลประโยชน์ในทรัพย์สินของบริษัทให้ตัวเอง ปกปิดรายได้ และแจ้งรายรับต่ำกว่าความเป็นจริง ที่อาจทำให้เขาต้องชำระเงินคืนให้นิสสันถึง 16 ล้านเหรียญหากแพ้คดี
การจับกุมคาร์ลอส กอส์นเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ที่ต้องใช้เงินประกันตัวสูงถึง 5 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นเงินประกันตัวที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของญี่ปุ่น
1
และการประกันตัว ยังต้องมีเงื่อนไขว่า เขาต้องส่งมอบพาสปอร์ตทั้ง 3 เล่มให้แก่รัฐบาลญี่ปุ่น และตัวเขาต้องถูกกักบริเวณอยู่แต่ในบ้าน ที่มีกล้องวงจรปิดตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเจ้าหน้าที่คุ้มกันหนาแน่น และมีเวลาพบกับทนายได้แค่เพียงช่วงเวลาที่จำกัดเท่านั้น แม้แต่ภรรยายังต้องยื่นคำร้องให้ศาลอนุญาตก่อน ถึงจะมาพบได้
แต่คำถามคือ? ถ้ามีการคุ้มกันหนาแน่น กล้องจับส่องเป็นตาสับปะรดขนาดนี้ แล้วคาร์ลอส กอส์น หลบหนีออกจากญี่ปุ่น ข้ามประเทศมาถึงเลบานอนได้อย่างไร?
มีรายงานว่า แผนการหลบหนีของคาร์ลอส กอส์น ครั้งนี้ มาจากแครอล ภรรยาของเขา
โดยช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แครอลได้ว่าจ้างวงดนตรีเข้าไปเล่นในบ้านของกอส์น ในโตเกียว เหมือนเป็นงานฉลองส่งท้ายปี โดยผ่านการตรวจเช็คเรียบร้อย หลังจากเลิกงาน คาร์ลอส กอส์น ก็ซ่อนตัวอยู่ในกล่องใส่เครื่องดนตรี กลับไปพร้อมนักดนตรีทั้งคณะ ที่รีบพาเขาไปส่งที่สนามบินเล็กๆนอกเมืองโตเกียว ที่มีเครื่องบินเจทส่วนตัวจอดรออยู่
แล้วเขาก็จับเครื่องบินเจท บินต่อไปลงที่ตุรกี ก่อนที่จะเปลี่ยนเครื่องมาลงที่กรุงเบรุตได้สำเร็จตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา
หลังจากที่หลบหนีสำเร็จ เขาก็แจ้งผ่านเอเจนซี่ส่วนตัวของเขาว่าอยู่ที่เลบานอนแล้ว และยืนยันความบริสุทธ์ของตัวเอง พร้อมสับแหลกทั้งบริษัทนิสสัน ที่ใส่ความเพื่อโค่นเขาออกจากตำแหน่ง และกระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่น
ในขณะที่มีข่าวยืนยันว่าตัวคาร์ลอส กอส์นมาอยู่ที่เลบานอนแล้ว ท่านฑูตยามางูจิ มาตาฮิโระ เอกอัคราชฑูตญี่ปุ่นประจำเลบานอนแกยังอยู่ในงานเลี้ยงปีใหม่อยู่เลย ถึงกับติดต่อกลับไปทางญี่ปุ่นเพื่อขอข้อมูล แต่ทางฝั่งญี่ปุ่นยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่า คาร์ลอส กอส์น ลอดช่องทางธรรมชาติหนีมาถึงเลบานอนแล้ว ท่านฑูตถึงกับยั๊วะจัด ทิ้งงานเลี้ยงออกมาทันทีโดยไม่ลาใครสักคำ😑
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ทางญี่ปุ่นเขาหายมึนแล้วหรือยัง แล้วจะเอาอย่างไรต่อกับคดีของคาร์ลอส กอส์น ที่ถึงตอนนี้คงจับตัวได้ยากแล้ว และความสามารถของเขาก็ยังเป็นที่ต้องการในวงการรถยนต์อย่างมาก สำหรับคาร์ลอส กอส์น คงหาบ้านใหม่ได้ไม่ยาก
แต่คดีนี้คงเป็นที่จดจำไปอีกนาน และอาจจะกลายเป็นหนังฮอลลิวูดสักวันแน่ๆ จองตั๋วล่วงหน้าได้เลย😀
โฆษณา