1 ม.ค. 2020 เวลา 06:05 • บันเทิง
รีวิว คิม จี-ยอง เกิดปี 82
KIM JI-YOUNG, BORN 1982
ประเด็นความเท่าเทียมทางเพศในสังคมเกาหลี
ที่สื่อออกมาผ่านหนัง “เฟมินิสต์” แนวดราม่าแห่งปี 2019
คะแนน 8/10
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ “คิมจียอง” (จอง ยูมิ) ผู้หญิงเกาหลีธรรมดา ๆ คนหนึ่ง อายุราวๆ 30 ปี ที่ตอนนี้เธอได้แต่งงานกับ จองแดฮยอน (กงยู) และมีลูกสาวที่น่ารัก อายุ 2 ขวบ เธอต้องลาออกจากงานเพื่อมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว คอยเลี้ยงดูลูกสาว แม้ว่าชีวิตของเธอดูเหมือนจะมีความสุข แต่การที่เธอจำเป็นต้องล้มเลิกหลาย ๆ สิ่งไป ทำให้เกิดบางอย่างขึ้นกับตัวของจียอง จนสามีของเธอสังเกตเห็น และรู้สึกเป็นกังวล เขาจึงได้ไปปรึกษาจิตแพทย์ ว่า “ภรรยาของผมนั้น...กำลังกลายเป็นคนอื่น”
--รีวิว--
หนังเล่าเรื่องผ่านตัวของคิมจียอง หญิงสาวที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมเกาหลีที่มีความไม่เท่าเทียมกันทางเพศอย่างมาก โดยเล่าสลับระหว่างช่วงเวลาปัจจุบัน ที่เธอแต่งงานและมีลูกสาว กับชีวิตในอดีตตั้งแต่ที่เธอยังเป็นเด็ก ไปจนถึงเมื่อเธอทำงาน ทำให้เรารู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เคยได้ทำหน้าที่ในสถานะ ทั้ง ลูกสาว พี่สาว พนักงานบริษัท ภรรยา และแม่ ในสังคมที่แต่ละยุคสมัยผู้ชายจะมีความสำคัญมากกว่าผู้หญิงเสมอ แต่สังคมกลับมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา
ซึ่งเรื่องนี้จะเน้นประเด็นทางสังคมประเด็นดังกล่าวเป็นหลัก โดยหนังจะค่อยๆ เล่าผ่านช่วงชีวิตของตัวนางเอกและคนรอบข้าง จนคนดูจะค่อยๆ สัมผัสได้ถึงความลำบากเมื่อคุณต้องเกิดมาเป็นผู้หญิงชาวเกาหลี
1
หนังค่อนข้างจะดำเนินเนื้อเรื่องไปอย่างช้าๆ แต่มีจุดกระชากอารมณ์สไตล์หนังดราม่าของเกาหลีอยู่เป็นช่วงๆ ซึ่งการเล่าเรื่องแบบนี้อาจจะดูน่าเบื่อไปสำหรับบางคน แต่มันเป็นจุดประสงค์ของหนังที่ต้องการให้เรามองเข้าไปในฐานะของคนดูที่ทราบถึงปัญหาของวัฒนธรรมที่เกิดขึ้น และได้มีเวลาคิดว่าสิ่งที่เราได้เห็น การกระทำและความคิดของตัวละครเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ ดราม่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งต้องพบเจอในชีวิต อย่าง พ่อแม่จะรักลูกชายมากกว่าลูกสาวเสมอ ผู้ชายมักทำงานได้ดีกว่าและมีข้อผูกมัดน้อยกว่าผู้หญิง ที่ต้องมีช่วงลาคลอด หรือแม้กระทั่งเรื่องที่ว่าผู้หญิงต้องลาออกจากงานที่ตัวเองถนัดมาเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ในขณะที่สามีต้องไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว
ซึ่งคนภายนอกเมื่อมองเข้ามาจะคิดว่าเธอคงสบาย ได้อยู่บ้านกินเงินเดือนสามี แต่งานของคนเป็นแม่นั้นมันไม่ง่ายเลย และความผิดปกติของเธอที่เกิดขึ้น ทำให้คนดูเกิดคำถามตลอดว่าทั้งสองคนจะสามารถประคับประคองชีวิตคู่นี้ไปได้สักแค่ไหน เป็นหนังดราม่าที่พยายามให้คนดูค่อยๆ รู้สึกร่วมไปกับความคิดของตัวละคร และเมื่อนางเอกตัดสินใจว่าการทำสิ่งนี้แหละจะทำให้เธอสบายใจ คนดูจะมีมุมมองความเห็นที่แตกต่างกันแน่นอน และการที่คุณมีแนวคิดต่างกันนั้นบ่งบอกถึงตัวคุณมองสังคมนี้ยังไงนั้นเอง
1
ขอชื่นชมการตัดสลับไทม์ไลน์ของหนังทำได้อย่างลงตัวและถูกจังหวะ เรื่องราวในอดีตที่ทำมาเพื่อให้เราเข้าใจความสัมพันธ์ของตัวละคร ซึ่งเลือกใช้ได้ถูกต้องช่วยเพิ่มพื้นฐานนิสัยและมิติของตัวละครได้ชัดเจน ทำให้การเล่าเรื่องในปัจจุบันดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และที่ต้องชมก็คือการแต่งหน้าที่ทำให้การสลับช่วงเวลามีความชัดเจน เพราะคนดูจะเห็นถึงความแตกต่างของวัยจากใบหน้าของตัวละคร ที่ช่วงอายุต่างกันราวๆ 10 ปี ทำได้เนียนมากๆ
สำหรับด้านการแสดงนักแสดงสมทบส่วนใหญ่เล่นได้เป็นธรรมชาติมาก แต่ก็จะมีจุดขัดใจคือพวกนักแสดงตัวประกอบ ที่มีบทพูดเพื่อเป็นการแสดงถึงปมเรื่องความไม่เท่าเทียมกันทางเพศของเกาหลี ส่วนตัวคิดว่ามันดูโอเวอร์ไปหน่อย แต่ก็อาจเป็นเพราะมันเป็นสไตล์ของหนังเกาหลีรึเปล่า เพราะหนังเกาหลีหลายเรื่องก็มีตัวประกอบที่มักจะพูดจาแย่ๆ ไม่รู้กาลเทศะออกมากลางที่สาธารณะโดยไม่สนว่าคนรอบข้างจะมองว่าคุณมันคนที่ @$#%#%# (ขออนุญาตเซนเซอร์) ซึ่งหากทำออกมาได้ดูเป็นธรรมชาติกว่านี้ ก็น่าจะลดความรู้สึกขัดใจได้
ส่วน จองยูมิ กับ กงยู ที่ต้องรับบทดราม่าหนักสุดในเรื่อง ก็แสดงออกมาได้ดีไม่มีที่ติ เพราะด้วยบทของหนังด้วยละมั้ง มันช่วยสะสมพลังของตัวละครทั้งสอง เพราะทั้งคู่ต้องเก็บเรื่องในใจมาโดยตลอดทั้งเรื่อง พอถึงจุดระเบิดตอนท้าย อารมณ์และความรู้สึกของตัวละครมันถูกถ่ายทอดและส่งมาให้คนดูรับรู้ได้ง่าย โดยเฉพาะตัวนางเอก จองยูมิ ที่เคสออกมาได้ตรงการคาแรคเตอร์ของตัวละคร ที่เธอต้องมีความเข้มแข็งอยู่ในตัวของผู้หญิงที่ดูอ่อนแอ
2
ซึ่งค่อนข้างเป็นตัวเธอ ชอบวิธีที่เธอแสดงด้วย สีหน้า สายตาและปากของเธอมันดูมีอะไรบางอย่างในใจอยู่เสมอ แม้ว่าตอนนั้นเธอจะดูมีความสุขเมื่ออยู่ต่อหน้าคนรอบตัว ซึ่งเมื่อตัวเธอนั้นอยู่คนเดียวความรู้สึกเหล่านั้นที่ซ่อนอยู่จะแสดงออกมาให้เห็นชัดยิ่งขึ้น
ข้อเสียถ้าจะมีก็คือความช้าและความราบเรียบในช่วงต้นเรื่อง ซึ่งไม่อยากจะให้คุณเข้าไปดูโดยไม่ศึกษามาก่อน อย่างน้อยคุณควรจะดูตัวอย่างหนัง หรือศึกษาเรื่องราวมาให้ดีในระดับหนึ่ง ว่าหนังเรื่องนี้เป็นแนวไหน มีมูดและโทนอย่างไร ยิ่งถ้าหากคุณเคยอ่านหนังสือมากก่อนจะยิ่งดีมาก ซึ่งหากผมเคยอ่านหนังสือเรื่องนี้และเป็นผู้หญิง ผมอาจจะชอบและเข้าใจสารที่หนังเรื่องนี้ต้องการจะสื่อมากขึ้นแน่นอน
1
หนังสือ คิมจีซอง เกิดปี 82
สรุป หนังเรื่อ “คิม จี-ยอง เกิดปี 82” ไม่เพียงแค่เป็นหนังที่ต้องการจะสื่อสารเรื่องของผู้หญิงที่ถูกกดขี่ด้วยความคิดของคนในสังคม แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความทุกของผู้หญิงที่ต้องพบเจอในแต่ละช่วงวัยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ปัญหาของครอบครัว ปัญหาที่ทำงาน รวมถึงชีวิตคู่ ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านตัวผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ทนอยู่กับสังคมนี้ สำหรับผมนี่คือหนังที่สื่อสารออกมาได้อย่างตรงประเด็น หากคุณเป็นผู้หญิงผมเชื่อว่าคุณจะรับสารนี้ได้ดี แต่หากคุณเป็นผู้ชายคุณก็อาจจะเข้าใจความลำบากของผู้หญิงมากขึ้น แต่ที่แน่ๆ หากคุณเป็นคุณยุคใหม่ที่ไม่พอใจกับค่านิยมที่สร้างขึ้นจากความคิดของคนสมัยก่อน หนังเรื่องนี้จะเป็นอีกกสื่อที่ช่วยให้ความไม่เท่าเทียมทางเพศ ถูกสื่อสารออกมาอย่างชัดเจนและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้นสามา
คิมจีซอง เกิดปี 82 รับชมได้แล้ววันนี้
โฆษณา