1 ม.ค. 2020 เวลา 14:42 • ประวัติศาสตร์
อาณาจักรล้านนา ที่อดีตเคยถูกรุกรานจากมองโกล
.....มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอาณาจักรล้านนาที่เราส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้กันหลายเรื่องและเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งในนั้น😊
1
👉มองโกลพ่ายล้านนา👈
น่าเสียดาย เวลาคนพูดถึงศึกที่พวกมองโกลปราชัย มักจะนึกถึงกันแต่การรุกรานญี่ปุ่น (ปี 1274, 1281) การรุกรานอันนัม (1288) การรุกรานชวา (ปี 1292 - 1293)
แต่ลืมไปว่ามองโกลพยายามรุกรานล้านนาด้วยและพ่ายครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนกัน เป็นอีกหนึ่งพวกที่ทำให้มองโกลแถบยูนนานอยู่ไม่เป็นสุขไปหลายปี
คาดว่า พวกมองโกลรู้จักประเทศปาไป่สีฟู่ (ล้านนา) ครั้งแรก ตอนที่กรีฑาทัพจากคุนหมิง ไปตามแม่น้ำแดง รุกเข้าสู่อันนัม
ในเวลานั้นจึงทราบว่ามีประเทศทางใต้อีกแห่งหนึ่งชื่อว่า ปาไป่สีฟู่จึงตัดสินใจที่จะรุกราน ในปี 1292 กุบไลข่านจึงสั่งให้ยกทัพไปปราบฐานเป็นที่พยศไม่ยอมสวามิภักดิ์
โชคดีที่กองทัพมองโกลตีเมืองผิด คิดว่าเช่อลี่ (เชี่ยงรุ่ง) คือเชียงราย ทำให้พญามังรายทรงมีเวลาเตรียมตัว คือย้ายไปตั้งเมืองเชียงใหม่ (จิงไม่) และทรงใช้ยุทธวิธีโต้กลับ
โดยผนึกกำลังกับเชียงรุ่งน้อยโจมตีเชียงรุ่งใหญ่ ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งของราชวงศ์หยวนไปแล้ว ทุกวันนี้ยังไม่ทราบว่าเชียงรุ่งน้อยคือแคว้นใด แต่น่าจะเป็นรัฐไทตามรายทางระหว่างยูนนานลงมายังล้านนา
นี่คือการผนึกกำลังพันธมิตรรัฐไทต่อต้านมองโกลครั้งแรก นำโดยพญามังราย และยังมีวี่แววว่าพญามังรายทรงสานพันธมิตรกับสุโขทัยและแคว้นพะเยา เพื่อการต่อต้านมองโกลด้วย
หลังจากสิ้นรัชกาลกุบไลข่าน พระเจ้าหยวนเฉิงจงทรงทนรับความพ่ายแพ้ต่อพวกคนเถื่อนแดนใต้ไม่ไหว จึงคิดจะตีล้านนาอีก
ท่ามกลางเสียงทัดทานของเสนามาตย์ว่าล้านนาอยู่ไกล เต็มไปด้วยทิวเขาสลับซับซ้อน แต่ด้วยลูกยุของหลิวเซิน จึงทรงสั่งให้จัดทัพไปบุกล้านนาอีกรอบในปี 1301 จัดกำลังมาถึง 20,000 คน
แต่เพราะเกิดการต่อต้านตามรายทาง ทำให้กองทัพมาไม่ถึงล้านนา ทั้งยังเกิดความสูญเสียอย่างหนัก จึงสั่งประหารหลิวเซิน นัยว่าเพื่อกลบเกลื่อนความอัปยศ
แต่หยวนเฉิงจงยังไม่สิ้นความพยายาม สั่งรุกล้านนาอีกในปี 1302 กับ 1303 ก็ล้มเหลวเช่นเดิม สาเหตุหลักๆ คือสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ ภูมิประเทศที่สลับซับซ้อน และโรคป่านานาชนิด รวมการซุ่มโจมตีของชนเผ่าต่างๆ
ในปี 1309 รัชกาลพระเจ้าหยวนอู่จง คราวนี้ล้านนาก่อกวนบ้าง ร่วมมือกับเมืองลื้อ (เชียงรุ่งน้อย?)รุกรานดินแดนยูนนาน ทางยูนนานไปปราบได้ผลแค่เล็กน้อย
ความที่พวกมองโกลแห่งราชวงศ์หยวนแพ้แล้วแพ้อีกทำให้ฮ่องเต้ขัดเคืองพระทัย ทุกรัชกาลคิดส่งทหารไปปราบล้านนาไม่หยุดหย่อน แต่ระยะหลังขุนนางเริ่มทัดทาน
เพราะส่งไปทีไรก็แพ้ แพ้แล้วยังทรงประหารเจ้ามณฑลแก้เก้ออีก จึงกราบทูลให้ทรงเลิกใช้การทหาร มาเน้นการปกครองกับการทูตแทน ตอนแรกพระเจ้าอู่จงไม่เชื่อ และยังส่งคนไปปราบอีก แล้วก็เหลวอีก
ครั้นถึงรัชกาลพระเจ้าเหรินจง ราชสำนักเกิดเสียงแตกว่าควรจะปราบล้านนาอีกหรือไม่ ปรากฎว่าฝ่ายเน้นการทูต คือจ้าวซื่อเหยียน เป็นฝ่ายชนะ กอปกรกับนโยบายของล้านนาอาจจะเปลี่ยนไป
ในปี 1311 พญามังรายมหาราชที่ทรงสู้กับมองโกลมาตลอดช่วงปลายพระชนม์ชีพเกิดสวรรคตพอดี เจ้าขุนครามหรือพญาไชยสงคราม ขึ้นครองล้านนาแทนพระราชบิดา
นับแต่นั้นล้านนาก็เปลี่ยนท่าทีต่อราชวงศ์หยวน หันมาส่งเครื่องบรรณาการให้ คบค้าด้วยการทูตแทน และทรงย้ายกลับไปประทับที่เชียงราย ให้พระราชโอรสคือเจ้าแสนพู กลับไปรื้อฟื้นเมืองเชียงแสน อันเป็นเสมือนประตูของล้านนา
สภาพการณ์ของการศึกระหว่างมองโกลกับล้านนา คล้ายๆกับเวียดนามและชวา คือรบกันจะเป็นจะตายจนมองโกลแพ้ยับเยิน แต่ในที่สุดยอมรามือกันโดยฝ่ายเจ้าถิ่นถวายบรรณาการให้
ฝ่ายหนึ่งรักษาหน้าไว้ได้ อีกฝ่ายรักษาชีวิตประชาชนไว้ได้.........
ภาพ - ภาพนี้คือชนเผ่าคอร์ยัก (Koryak) ในแถบตะวันออกไกลของรัสเซีย ถ่ายเมื่อปี 1901 ชนเผ่านี้และชาวทิเบตยุคเดียวกันยังสวมเกราะหนักแบบตีเกร็ด ซึ่งเป็นเกราะที่พวกมองโกลเคยใช้ ในการรุกรานปาไปสีฟู่ พวกมองโลกจัดพลธนูมารุกล้านนาด้วย การจัดทัพคาดว่าใช้ทหารราบ ไม่แน่ใจว่ามีทหารม้าที่ตัวเองถนัดหรือไม่
ข้อมูลจาก: เชียงใหม่ที่คุณไม่เคยเห็น
ขอบคุณที่ติดตามอ่าน
เป็นกำลังใจให้ผู้เขียน กดติดตาม ไลค์ แชร์ คอมเม้นท์ ติชมให้กับผู้เขียนด้วยครับ
โฆษณา