3 ม.ค. 2020 เวลา 03:02 • ไลฟ์สไตล์
มาสร้างภาพยนตร์กันเถอะ ...ตอนหนึ่ง
เคยไปดูหนัง แล้วชอบ บางครั้งจินตนาการว่าเรา เป็นพระเอก(นางเอก) มั้ยครับ
ไม่ใช่เรื่องตลกครับ เราคิดในใจเราไม่มีใครรู้ 😀 😃 จะคิดอย่างไรก็ได้ มันเรื่องของเรา
ชีวิตเราต้องกำกับเอง อย่าให้ใครมากำกับเรา
หนังเป็นจินตนาการของผู้สร้าง ผู้เขียน ผู้กำกับ แล้วนำมาให้ตัวแสดง ถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวที่ชวนติดตาม
หนังจะทำให้เรานั่งติดเบาะตลอด 2 ชั่วโมง ลุ้นตัวเอก จนถึงหนังจบที่ตัวเอก ทำภาระกิจจบ ส่วนใหญ่ในต้นเรื่องจะพบอุปสรรค จนเราคิดไม่ถึงว่า ตัวเอกเราจะแก้ได้เลย แต่ด้วยความเก่งของ พระเอกที่สามารถพลิกสถาณการณ์กลับมาจนได้..
หนังก็คือหนัง อาจจะดูเหมือนเหลื่อเชื่อหน่อย แต่มันก็นำมาเป็นข้อคิดได้เหมือนกัน
วันนี้เลยจะชวนมาสร้างหนังกัน 😯
แต่เป็นหนังที่ฉายในใจเราเองนี่แหละ ...
เราเป็นผู้เขียนบทเอง..
เราเป็นผู้สร้างและกำกับเอง..
เราเป็นพระเอกเอง.. 😁 (ถ้าเป็น ผญ ก็ นางเอกนะจ๊ะ)
~~~ แล้ว นักแสดงคนอื่นหละ ??
ตัวละครคนอื่น ก็คือ ทุกคนที่เรารู้จัก พบเจอ และใช้ชีวิตร่วมกันทั้งหมดนั่นเอง 😀😀
ทีนี้ก็สนุกแล้วสิ เราเลือกและกำหนด พล๊อตเรื่องได้เลย ว่าเราจะเดินชีวิตของเรายังไง ปลายทางเป็นอย่างไร (เลือกนางเอกได้ด้วยนะครับ จะบอกให้ 555)
ตอนนี้ชัก อยากกลับไปเป็นเด็กแล้วสิเรา 😂😂 จะได้เริ่มเรื่องใหม่..
แต่อายุไม่ใช่ปัญหาครับ ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไร เริ่มได้หมด (พระเอกลุงยังมีเลย)😀 เพียงขอให้เรามีจินตนาการสูงหน่อย
สรุปคือ ชีวิตจริงเรานั่นแหละ เราคือตัวดำเนินเรื่อง
เราเคยได้รับการสอนมาว่า
"เราคิดอย่างไร เราจะเป็นอย่างที่คิด"
เราต้องจินตนาการเห็นภาพให้ได้ว่า เราจะเป็นอะไร สำเร็จแบบไหน มีชีวิตแบบไหน มีบ้านแบบไหน ขับรถแบบไหน เห็นภาพนั้นซ้ำๆจนจิตใต้สำนึกรับรู้ว่าเราได้เป็นในสิ่งนั้นๆแล้ว มันคือ ..
กฎของแรงดึงดูด (Law of Attraction) ซึ่ง จะทำงาน ดึงดูดและนำพาเรา ไปในทิศทางที่ทำให้เรา ได้รับ แต่..
หากความรู้สึกกับการกระทำเราไม่ใช่ นอกจากจะไม่ดึงดูดสิ่งที่ดีแล้ว ยังจะดึงดูดสิ่งแย่ๆมา ตามที่เราคิดนั่นเอง
หลังจากที่เราเข้าใจ กฏแห่งแรงดึงดูดแล้ว การนำไปใช้จึงเป็นอีกเรื่องนึง มันไม่ง่าย บอกได้เลยครับ😧
ปัญหาของเราคือ เราไม่รู้สึก สัมผัส ขบวนการนี้ได้อย่างแท้จริง กฏนี้ หรือพลังแรงดึงดูดจึงไม่ได้ผลสำหรับเราเลย
ตัวอย่างเช่นเรา"ขอ"ความร่ำรวย แต่จิตเรายังคิดแย้ง กับสิ่งที่ขอ เรายังคิดในใจลึกๆอยู่ว่า เราจะรวยได้ยังไงในขณะที่เรายังทำงานไปวันๆ ยังต้องผ่อนบ้าน เลี้ยงดูครอบครัวเดือนชนเดือนแทบไม่พออยู่แล้ว..
เราจึงต้องหาวิธีคิดใหม่ๆ ที่ทำให้เราจดจ่อและ "เชื่อ" จนมันเป็นจริง และเราจะได้ "รับ"
การวาดภาพในใจมันจึงไม่พอ
 
มันจะต้องอยู่ในทุกขณะจิต เหมือนชีวิตปนะจำวันของเราเลย ** เราจึงต้องทำเสมือนสร้างภาพยนตร์ของตัวเราเองในใจเราเอง
มันอาจจะฟังแล้วดูตลกๆ แต่ทั้งหมดมันคือ วิธีคิด
เพราะ "วิธีคิด สำคัญกว่าวิธีการ"
ต่อให้เราเรียนรู้วิธีการจากคนสำเร็จมากมายหลายร้อยข้อ แต่ถ้า วิธีคิดผิด มันก็เปล่าประโยชน์
เราเป็นผู้เขียนบทเอง เราจะเขียนให้ตอนจบของเรื่อง เป็นแบบที่เราต้องการ ในระหว่างทางของเรื่องซึ่งก็คือทุกๆวันของเรานั่นแหละ เราจะรู้อยู่ในใจเราว่าจะสำเร็จในที่สุด เหมือนเราดูหนังจริงๆเราก็รู้ว่าตอนจบ Happy Ending แน่นอน 😀
หนังมันก็ไม่ต่างจากชีวิตคนเราหรอก บางคนเกิดมาไม่เคยมีคำถามสักนิด เราเกิดมาทำไม ทุกๆวัน ตื่น หิวกินข้าว ทำงานๆ เหนื่อยพัก มีเวลาว่างไปเที่ยว ชีวิตเราก็วนเวียนกันอยู่อย่างนี้ ดูหนังสนุกก็มีความสุข อ่านนิยายแล้วสนุก เราก็สุข พอเราผิดหวังเราก็เสียใจ ชีวิตเราโดนครอบงำด้วยอะไรบางอย่าง เราก็ไม่รู้ตัว เพราะเราเกิดมา เราก็เป็นแบบนี้ มีอารมณ์อะไรเกิดขึ้นก็รู้ไปตามนั้น ***เราจึงต้องเขียนขึ้นมาเอง*** 🔥
ไม่ว่าจะเป็นการไปเรียน ไปทำงาน ขายของ ไปเที่ยว อยู่กับครอบครัว แฟน เพื่อน มันเป็นส่วนนึงของหนังในใจเราทุกเวลาเลย หนังเราจะมีครบรสชาติ สนุก น่าติดตามเลยทีเดียว
ทุกเรื่องในชีวิต ครอบครัว ชีวิตคู่ การงาน จะสำเร็จและสมหวัง ตามบทที่เราเขียนทุกประการเลย..👍
โพสยาวซักนิดครับ เอาไว้ต่อตอนสอง ยังมีเรื่องที่ต้องขยายความต่ออีกหน่อย เกี่ยวกับ กฎแรงดึงดูดที่อ้างถึงกับการนำมาใช้ และเกร็ดเล็กๆจากรูปหนัง The Truman Show ครับ
ขอบคุณครับ
กร
3/1/63

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา