Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฟุตบอลลูกกลมๆ
•
ติดตาม
2 ม.ค. 2020 เวลา 09:22 • กีฬา
สิ้นสุดบิ๊กเเมตช์ในคือวันพุธ ระหว่างอาร์เซน่อลกับเเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลการแข่งขันเป็นของทางฝั่งเจ้าบ้านมิเกล อาร์เตต้าที่ได้เฮไปในศึกนี้
- สัญญาณบวก -
มีมาตั้งแต่แมตช์แรกกับบอร์นมัธ และดีขึ้นเรื่อย ๆ ในเกมกับเชลซี รวมถึงแมนยูเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้ผลการแข่งขันยังไม่มา
4 นาทีที่เชลซีปล้นแต้มไปจากมืออาร์เซน่อลในเกมที่เเล้วนั้น ยังคงหลอกหลอนแฟนๆ เดอะกูนเนอร์สอยู่เป็นเเน่
เล่นดีมีทรงไม่มีแต้ม ย่อมบั่นทอนสภาพจิตใจของใครหลายคนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงของการเปลี่ยนแปลงแบบนี้
ดังนั้นงานของอาร์เตต้าก็คือการรักษาจิตใจความเป็นนักสู้ และกอบกู้ศรัทธาของเเฟนบอลให้ได้อย่างโดยเร็ว
- เกมเมื่อคืน –
2 ประตูในช่วงครึ่งเเรกนั้นเพียงพอที่จะทำให้อาร์เซน่อลเก็บ 3 เเต้มแรกในยุคของอาร์เตต้าได้
และมีจุดที่น่าพูดถึงอยู่ประมาณ 5 ประเด็นด้วยกัน
1. อาเตต้าจัดแนวรุกที่ดีที่สุด 4 ประสาน โอซิล, ลากาเเซตต์, โอบา และเปเป้
ซึ่งเป็น 4 คนที่แฟนบอลอยากเห็นลงเล่นร่วมกันมากที่สุด แต่เชื่อหรือไม่ว่าเกมลีก 21 นัดที่ผ่านมา แมตช์นี้เป็นครั้งเเรกที่ทั้ง 4 คนได้ลงเล่นร่วมกัน
เมซุต โอซิลเหมือนกลับมาเกิดใหม่ในยุคของอาร์เตต้า หลังจากแทบไม่ได้รับโอกาสการลงสนามเลยในช่วง 1 ฤดูกาลกว่าๆ ที่ผ่านมาในยุคของอูไน เอเมรี่
อาร์เตต้าออกมาให้สัมภาษณ์ชัดเจนว่า เขาจะสร้างสภาพเเวดล้อมรอบตัวของเพลย์เมกเก้อร์ชาวเยอรมัน ให้สนับสนุนเเละเค้นฟอร์มของโอซิลออกมาได้มากที่สุด
เพราะโอซิลนั้นเป็นนักเตะที่มีความพิเศษในตัวอยู่แล้ว เพียงเเต่ว่าผู้จัดการทีมจะรู้วิธีที่จะดึงความสามารถนั้นออกมาได้หรือไม่
2. ผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางของอาร์เซน่อล โชว์ฟอร์มกันได้ดีมากๆ ทั้งชาก้าเเละตอร์เรย์ร่า
ในรายเเรกนั้น ฟอร์มดีขึ้นมาหลังจากอาร์เตต้าเข้ามาคุมทีม อาจจะเป็นเพราะว่าทั้งคู่เป็นกองกลางสไตล์เดียวกัน คือเป็นคนคุมจังหวะเกมตรงกลาง ทำให้อาเตต้าสามารถถ่ายทอดประสบการณ์และวิชาต่างๆ ให้ชาก้าได้โดยตรง
และก็มีข่าวดีในส่วนเรื่องของการย้ายทีม ที่ดูเหมือนว่าอาเตต้าจะสามารถซื้อใจชาก้าให้อยู่กับทีมต่อไปได้สำเร็จ
พอมองย้อนกลับไปแล้ว ก็น่าเห็นใจชาก้าอยู่เหมือนกัน เพราะในช่วงที่มีปัญหากับแฟนบอลนั้น เขาเหมือนเป็นแพะรับบาปให้ในความสับสนของอูไน อีกทั้งอูไนก็ดื้อรั้นที่จะให้ชาก้าลงสนามทั้งที่ไม่อยู่ในฟอร์มที่ดี และประกาศให้ตำแหน่งกัปตันทีมแก่ชาก้าแบบผิดเวลามากๆ เป็นการเพิ่มข้อสงสัยของแฟนบอลที่มีต่อชาก้า จนนำมาสู่เหตุการณ์วุ่นวายต่างๆ
ทุกอย่างดูยุ่งเหยิงไปหมดภายใต้อูไน
ส่วนรายหลังอย่างตอเรย์ร่า ผมยกให้เป็นแมนออฟเดอะเเมตช์ในสายตาผมไปเลย (พรีเมียร์ลีกยกให้ดาวิด ลุยซ์) มีบทบาทกับเกมและโดดเด่นมากในเรื่องของการเล่นเกมรับ
เคลียร์บอล 4 ครั้ง
เเท็คเกิ้ล 2 ครั้ง สำเร็จ 2 ครั้ง
ตัดบอล 2 ครั้ง
และที่สำคัญกินเกลือแร่ 1 ครั้ง!! ล้อเล่นครับ 5555
รวมตัดบอลและเคลียร์บอลมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของทีมในแมตช์นี้
หลังจากออกอาการหมดจากการวิ่งเยอะจนเกือบถูกเปลี่ยนออก ตั้งแต่ประมาณนาทีที่ 77 แต่ถูกลากาเเซตต์ตะคริวขึ้นปาดหน้าใช้โควต้าเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายไป
เกลือเเร่พร้อมรับประทานจึงเป็นรางวัลสำหรับความใจสู้ของตอร์เรย์ร่าในเกมนี้ รวมทั้งหลังเกมอาร์เตต้าก็ได้ออกมาชื่นชมฟอร์มของมิดฟิลด์ร่างเล็กรายนี้ว่ามีฟอร์มการเล่นที่สุดยอดทั้ง 3 แมตช์ที่พี่ต้าเข้ามาคุมทีม รวมทั้งความดุดันและหัวใจความเป็นนักสู้ก็ไม่เป็นสองรองใครในทีมอีกเช่นกัน
3. ความดุดันและวินัยในการเล่นเกมรับ ทุกคนในทีมช่วยกันเล่น ช่วยกันซ้อนตำแหน่ง จนเกมรุกของแมนยูแผงฤทธิ์ไม่ออกในเกมนี้ รวมทั้งความดุดันที่เซ็นเตอร์แบ็คควรมี ก็เริ่มมีออกมาให้เราเห็น
4. ครึ่งหลังยังคงเป็นอะไรที่น่าหวาดเสียว เพราะแนวทางการเล่นของอาร์เตต้า ต้องใช้พลังงานเยอะในการวิ่ง ทำให้นักเตะที่ไม่ได้เตรียมพร้อมกับเเนวทางนี้ตั้งเเต่ช่วงปรีซีซั่น ก็มีอาการหมดออกมาให้เห็นได้ชัดในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งถือเป็นหลักจุดที่ต้องปรับเเก้กันต่อไป
ซึ่งก็จะคล้ายๆ กับช่วงที่เจอร์เก้น คล็อปป์เข้ามาคุมลิเวอร์พูลตอนกลางฤดูกาล ที่สภาพร่างกายของนักเตะ ยังไม่สามารถตอบสนองกับแท็คติกที่ผู้จัดการทีมต้องการได้เต็มที่
ซึ่งมีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะช่วยได้
5. เหมือนดังที่อาร์เตต้าเคยให้สัมภาษณ์ไว้ “ภาษากายต่างๆ ของนักเตะจะถูกสะท้อนออกไปยังแฟนบอล” ถ้านักเตะสู้ เราก็จะได้เห็นแฟนบอลร้องเพลงเชียร์ กระตุ้นนักเตะอยู่ตลอดเวลา
ยอมรับเลยว่า ในฤดูกาลนี้ผมแทบไม่เห็นบรรยากาศในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมที่แฟนบอลร้องเพลงเชียร์อย่างครึกครื้น เท่ากับ 2 นัดล่าสุดอีกเเล้ว (อาจจะดังกว่านี้ถ้านัดที่แล้วเชลซีไม่ทำงานกร่อยไปเสียก่อน)
.นอกเรื่อง.
คงจะจริงที่อาร์เตต้าน่าจะได้อะไรจากเป๊ป กวาร์ดิโอล่ามาพอสมควร สำหรับระยะเวลาประมาณ 3 ปีที่ได้ทำงานเคียงข้าง เพราะท่าทางและการแต่งตัวของอาร์เตต้านั้น มีความคล้ายคลึงกับเป๊ปอย่างน่าตกใจมาก เรียกได้ว่าถ้าโกนหัวไปคงนึกว่าเป๊ปมาคุมอาร์เซน่อลเลยทีเดียว
- ทิ้งท้าย -
ศรัทธาเริ่มกลับมาแล้ว และงานต่อไปจะเป็นเอฟเอคัพ เจอกับลีดด์ ยูไนเต็ด ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะให้อาร์เตต้าได้ลองตัวผู้เล่นคนอื่นๆ ที่ยังไม่เคยใช้งาน
และอีกหนึ่งงานสำคัญคือตลาดการซื้อขายเดือนมกราคมนี้ มีทั้งงานยากในการรั้งตัวนักเตะ และการหานักเตะเข้ามาเติมเต็มให้สโมสรโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งแผงหลังที่เจ็บกันระนาว
หากใครจำกันได้ในปี 2014 มิเกล อาร์เตต้าคือกัปตันทีมในสนามคนแรกที่พาอาร์เซน่อลชูถ้วยเอฟเอคัพได้เป็นแชมป์แรกในรอบ 9 ปี (กัปตันโดยตำแหน่งคือโธมัส แฟร์มาเล่น แต่เจ็บจนแทบไม่ได้ลงในฤดูกาลนั้น)
ผมก็ได้เเต่หวังว่าการกลับมาครั้งนี้เขาจะเป็นตัวเลือกที่ใช่ในการกอบกู้ทีมให้กลับไปยังจุดเดิมที่เคยเป็นได้อีกครั้งเหมือนที่เขาเคยทำ
✌
ขอบคุณรูปภาพจาก :
www.premierleague.com
บันทึก
7
3
7
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย