Blockdit Logo (Mobile)
World Explorer
•
2 ม.ค. 2020 เวลา 12:45
ในขณะที่เรากำลังฉลองแสงอาทิตย์แรกแห่งปี 2020 อยู่นี้ มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งยังต้องรอคอยแสงอาทิตย์ไปอีก 23 วัน!
เมืองอูทคิอาวิค (Utqiagvik) หรือที่รู้จักกันในชื่อเมืองแบร์โรว์ (Barrow) เมืองเล็กๆ ในรัฐอลาสกา (Alaska)
นักเดินทางหลายๆ ท่านอาจเคยได้ยินหรือสัมผัสประสบการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน (Midnight Sun) ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ในเวลาเที่ยงคืนกันมาบ้างแล้ว และก็คงทราบว่าดีว่ากลับกันในฤดูหนาวของพื้นที่บริเวณเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) เหล่านี้ก็จะมีช่วงเวลากลางคืนที่ยาวนานด้วยเช่นกัน
แต่ในวันนี้เราจะขอแนะนำทุกท่านให้รู้จักกับพื้นที่ที่มีปรากฏการณ์ที่จะทำให้ไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ติดต่อกันเกิน 24 ชั่วโมง ทำให้มีช่วงเวลากลางคืนติดต่อกันยาวนานหลายสิบวัน หรือที่เรียกว่า ปรากฏการณ์คืนขั้วโลก (Polar Night)
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นปกติทุกปีที่ เมืองอูทคิอาวิค (Utqiagvik) หรือที่รู้จักกันในชื่อเมืองแบร์โรว์ (Barrow) เมืองเล็กๆ แต่ใหญ่ที่สุดในรัฐปกครองตนเองของชาวเอสกิโม(North Slope Borough) ในรัฐอลาสกา (Alaska) ที่ตั้งอยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลและอยู่ติดกับพื้นที่เหนือสุดของสหรัฐอเมริกา(Point Barrow)
นอกจากสถานที่ตั้งสุดหฤโหดนี้จะทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในชุมชนที่อยู่เหนือสุดของโลกแล้ว ยังทำให้เมืองนี้มีค่ำคืนที่ยาวนานในช่วงฤดูหนาว ชาวเมืองจะไม่ได้เห็นแสงอาทิตย์ติดต่อกันนานกว่า 2 เดือน
แสงอาทิตย์สุดท้ายเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 พฤศจิกายน 2019 ที่ผ่านมา
ผู้คนกว่า 4,300 คน ในเมืองนี้ได้เห็นพระอาทิตย์ตกครั้งสุดท้ายไปเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 พฤศจิกายน 2019 ที่ผ่านมา และจะไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นอีกจนกว่าจะถึงบ่ายโมงตรงของวันที่ 23 มกราคม 2020 ซึ่งรวมเป็นระยะเวลา 67 วันแห่งความมืดมิด
สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในเมืองร้อนที่ฤดูกาลไม่ได้ส่งผลต่อกิจวัตรประจำวันมากนักอย่างประเทศไทย อาจจะรู้สึกว่าการที่ต้องอยู่ในค่ำคืนอันยาวนาน 1,600 ชั่วโมง นั้นน่ากลัวจนแทบจินตนาการไม่ออก แต่สำหรับคนท้องถิ่นนั้นสามารถปรับตัวให้ใช้ชีวิตกับปรากฏการนี้ได้มาอย่างยาวนานกว่า 1,500 ปี (ตั้งแต่ที่กลุ่มชาติพันธุ์เอสกิโมพื้นเมืองอาศัยอยู่)
อาจจะเป็นเพราะทุกคนมั่นใจว่าถึงแม้จะมีค่ำคืนที่ยาวนาน แต่พระอาทิตย์จะขึ้นในสักวันหนึ่งแน่นอน ดังนั้นถึงแม้จะได้เห็นแสงแรกของปีช้ากว่าส่วนอื่นของโลกถึง 23 วัน แต่ชาวเมืองอูทคิอาวิคก็ยังดำเนินชีวิตต่อไปอย่างปกติสุขในปีใหม่นี้
No matter the sun will not rise tomorrow, Life goes on.
ไม่ว่าในปีหน้าจะต้องพบเจอกับอะไร ขอให้ทุกท่านดำเนินชีวิตไปอย่างมีความสุขและมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ สวัสดีปีใหม่ค่ะ
โฆษณา