2 ม.ค. 2020 เวลา 13:44 • ไลฟ์สไตล์
020120
ช่วงพักกลางวัน เราเจอผู้หญิงรูปร่างผอม อายุประมาณ 20-25 ปี ยืนเก้ๆกังๆ อยู่หน้าลิฟท์ โดยไม่ได้กดเรียก
ปากไวเท่าใจคิด เราจึงอาสาพาไป...จะไปชั้นไหนคะ? เธอหันมามองหน้าและไม่ตอบอะไร ใบหน้าดูกึ่งกวนกึ่งมึนบอกไม่ถูก เราจึงถามซ้ำ และได้รับปฏิกิริยาตอบกลับเช่นเดิม ...เล่นเอาอารมณ์เราขุ่นๆขึ้นมาทันที บวกกับกำลังหิว (มาก)
เราจึงเดินลงบันไดจากไป โดยพยายามไม่สนใจต่อ...
หลังเลิกงานเวลาประมาณ 16:30 น. เราเจอผู้หญิงคนเดิม เพิ่มเติมคือ มีคนดูแลอีก 2 คนยืนประกบอยู่ด้วย มองบริบทคลินิกโรคเฉพาะทางที่ผู้ป่วยเพิ่งเดินออกมาและยาที่คนดูแลหยิบขึ้นๆลงๆจากถุงผ้านั้น เราถึงกับอยากตบกระโหลกตัวเองแรงๆซักที (เธอออกมาจากคลินิกจิตเวช)
หลายคนมักยึดเอา first impression เป็นตัวตัดสินผู้คนที่ได้พบเจอรวมถึงเราในวันนี้
คุณเชื่อไหม ตลอดพักกลางวันนั้น เราทานไปบ่นไปถึงเรื่องมารยาทที่เราไปตัดสินผู้หญิงคนนั้นอยู่นานสองนาน ความอร่อยของอาหารกลางวันลดลงไปอีก 60%
มานึกเสียใจเกือบไม่ทัน และเพราะเรื่องบางเรื่องในชีวิตมันอาจไม่ได้มีคำตอบให้เราไปซะหมด
เคยมีเพื่อนคนหนึ่งบอกไว้ว่า
“ผู้คนมักจะมองเห็นว่ากล่องมี 6 ด้าน จนอาจลืมไปว่าด้านในของกล่องนั้นก็มีอีก 6 ด้านเช่นเดียวกัน”
เราจะเอาความเป็นปกติ(ในมุมของตัวเอง)ไปตัดสินคนอื่นไม่ได้ และภาพลักษณ์ที่เห็นๆอยู่นั้น แท้จริงมันอาจเป็นเพียงเปลือกนอก ที่ไม่สามารถบอกอะไรเราเลยก็ได้ หากเรายังไม่รู้จักเขาดีพอ
หรืออาจไม่ต่างจากที่ใครหลายๆคนเคยบอกว่า จงอย่าตัดสินหนังสือจากแค่หน้าปกล่ะมั้ง
https://QuotesAndWisdom.com/156
ยังสนับสนุนการสร้าง First impression ที่ดีแก่ผู้อื่นอยู่นะคะ เพียงแต่อยากเตือนสติตัวเองไว้เพิ่มเติมด้วยค่ะ
* อย่าตัดสินใครเพียงเพราะภาพบางภาพที่คุณเห็น
* อย่าตัดสินใครจากคำพูดเพียงบางคำที่คุณได้ยิน
* อย่าตัดสินใครเพียงเพราะได้ยินได้ฟังต่อๆกันมา
เพราะเราอาจไม่รู้เลยว่า ชีวิตของผู้คนเหล่านั้นเค้าพบเจออะไรมาบ้างหรือเค้ากำลังคิดอะไรอยู่
และในมุมกลับกัน ไม่ว่าเราเองจะถูกใครตัดสินหรือมองแบบไหน นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับ “ตัวเราเองนั้นเป็นอย่างไร” นะคะ : )
โฆษณา