5 ม.ค. 2020 เวลา 05:23 • บันเทิง
MovieTalk หนังชนโรง:
3 Jumanji เกมกระดานวันวาน เกมอวตารวันนี้ และ Blockdit ของพวกเรา
Jumanji คือเกมกระดาน ที่มีตัวเดินเป็นสิงหาราสัตว์ วิธีเล่น ต้องทอยลูกเต๋าแล้วเดินตามช่อง ถ้าตกตรงไหนจะมีปริศนาออกมาให้แก้ เมื่อเริ่มเล่นแล้ว เลิกระหว่างทางไม่ได้ ต้องเล่นให้จบเท่านั้น
วันเวลาผ่านไป จากเกมกระดาน Jumanji Up Level ตัวเอง เปลี่ยนเป็นวิดีโอเกม ที่ให้ผู้เล่นต้องเลือกตัวตน หรือ ร่างอวตารในเกม และร่วมกันฝ่าด่านต่าง ๆ แต่ที่ยังคงเดิมคือ เลิกระหว่างทางไม่ได้ ต้องเล่นให้จบเท่านั้น
อลัน แพริส เด็กชายขี้แพ้ที่บังเอิญไปเจอเกมกระดาน จูแมนจิ เขาชวนซาราห์ เพื่อนสาวมาเล่นเกมด้วยกัน เมื่อเริ่มทอยเต๋าอลันก็ถูกดูดหายไปในเกม ซาราห์โดนค้างคาวไล่จนวิ่งเตลิดออกจากบ้าน
ผ่านไปยี่สิบห้าปี จูดี้กับปีเตอร์ คือผู้ที่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของอลัน และสองพี่น้องเจอเกมกระดาน ทำให้อลันหลุดออกจากเกมในสภาพเป็นผู้ใหญ่และคนป่า ทั้งหมดจำเป็นต้องไปตามซาราห์มาเล่นเกมร่วมกันให้จบ เพื่อยุติความวายป่วงที่เกิดขึ้น
ผ่านมา 22 ปี เด็กเนิร์ดคลั่งเกม สเปนเซอร์, เด็กเกที่ถูกไล่ออกจากทีมฟุตบอล ฟรีดด์, เด็กเรียนอย่างเดียวพละไม่สน มาร์ธา และขาเซลฟี่ติดมือถือห่วงสวยเบธานี่ ทั้งหมดถูกลงโทษบำเพ็ญประโยชน์ด้วยการจัดห้องเก็บของ พวกเขาไปเจอเครื่องเล่นวิดีโอเกมตกยุคชื่อจูแมนจิ และทดลองเปิดเครื่อง ก่อนจะกลายเป็นเรื่องเมื่อทั้งสี่ถูกดูดเข้าไปในเกม และกลายเป็นร่างอวตารตัวละครที่ตนเองเลือก
สเปนเซอร์มีร่างอวตารเป็น ดร.สโมลเดอร์ เบรฟสโตน ขาลุยพลังแกร่งของเกม, ฟรีดด์ เป็นร่างอวตารของ เมาส์ ฟินบาร์ ตัวแบกไอเท็มของเกม, มาร์ธามีร่างอวตาร รูบี้ ราวน์เฮาส์ สายแกร่งเพศหญิงของเกม และ ดร.เชลดอน โอเบรอน ตัวมันสมองของทีมร่างตุ้ยนุ้ยเป็นร่างอวตารของสาวสวยอย่าง เบธานี่ หนทางเดียวที่จะออกไปคือเล่นเกมผ่านด่านต่าง ๆ ให้จบ หรือไม่ก็ติดอยู่ในเกมตลอดไป และทั้งหมดจึงต้องร่วมมือกันฟันผ่าด่านต่าง ๆ ให้ถึง Last Boss
หลังจากทั้งสี่สหายร่วมกันพิชิตเกมจูแมนจี้สำเร็จ และแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตนเองในรั้วมหาลัย แต่สเปนเซอร์พบว่ายิ่งนานวันเขายิ่งไม่มั่นใจตนเอง และห่างเหินจากมาร์ธาคนรัก และผองเพื่อน กระทั่งเมื่อทั้งหมดนัดรวมตัวกันอีกครั้ง สเปนเซอร์ไม่ไปตามนัด ทุกคนจึงบุกมาถึงบ้านสเปนเซอร์ แต่ที่พบคือ เอ็ดดี้ คุณตาหัวรั้นของสเปนเซอร์ และคู่กัด ไมโล พวกของมาร์ธาพบว่าสเปนเซอร์หายไป แต่เกมจูแมนจี้กำลังเปิดใช้งานอยู่ และทั้งหมดก็ถูกดูดกลับเข้าไปในเกมอีกครั้ง
แต่ที่ต่างไปคือร่างอวตารของ ดร.สโมลเดอร์ เบรฟสโตน กลายเป็นคุณตาเอ็ดดี้ และร่างอวตารของ เมาส์ ฟินบาร์ กลายเป็น ไมโล เพื่อนรักแสนแค้นของคุณตาไปซะงั้น ทั้งหมดต้องไม่เพียงจะต้องตามหาสเปนเซอร์ แต่ยังต้องพิชิตเกมให้สำเร็จ ปัญหาคือทุกอย่างไม่เหมือนเดิม แม้กระทั่งด่านที่เปลี่ยนไป ตัวบอสที่เปลี่ยนไป
ทั้งหมดคือเรื่องย่อของ Jumanji ทั้งสามภาค อันได้แก่ งานต้นฉบับ Jumanji ของผู้กำกับ โจ จอห์นสตัน ยังเป็นงานที่ดีที่สุดชิ้นหนึ่งของ โรบิน วิลเลียมส์ และ เป็นหนังตอบสนองความบันเทิงในครอบครัว แม้ว่าบรรดาสิงห์สาราสัตว์ในหนังจะดูดุร้ายไปบ้างก็ตาม
แต่สิ่งที่แฝงมาบนความสนุกสนานวินาศสันตะโรก็คือ Jumanji มีความเป็นหนัง Coming of Age (ก้าวพ้นวัย) สอดแทรกแง่คิดเมื่อถึงเวลาเราต้องกล้าออกมาเผชิญหน้า และรับผิดชอบต่อการกระทำของเรา เหมือนตัวละครอลันที่แม้จะกลัวแค่ไหน แต่เมื่อถึงเวลาเขาก็เป็นผู้นำในการรวบรวมผู้เล่น และยุติปัญหาที่ตัวเองก่อไว้
หลังจากนั้นผ่านมา 22 ปี เจค คาสดาน ลูกชายของผู้กำกับ-โปรดิวเซอร์คนดัง ลอว์เรนซ์ คาสดาน ที่เรียกได้ว่าลูกไม้หล่นใต้ต้น นำ Jumanji กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้งใน Jumanji: Welcome to the Jungle โดยเป็นทั้งงานรีบู้ท และกึ่งภาคต่อของ Jumanji ปี 1995 เพราะมีฉากหนึ่งที่อ้างถึงที่พักของอลัน แพรีส
คาสดานหาทางออกให้เกมกระดานที่ล้าสมัย ถูกอัพเกรดเป็นวิดิโอเกม และการย้ายความวายป่วงของคนเล่นจากโลกจริงไปอยู่ในโลกเสมือนจริง ซึ่งก็เป็นไปตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน เด็ก ๆ ส่วนใหญ่เล่นเกม และสร้างตัวตน (ร่างอวตาร) ในเกมตามแต่จะต้องการ เพียงแต่เกมในจูแมนจิมันออกจะล้าหลังไปร่วมยี่สิบปีเพราะตัวเครื่องเล่นเกมมันยังเป็นแบบเดียวกับที่ต้องต่อกับทีวีอยู่ดี ในขณะที่ปัจจุบันมันถูกย้ายไปอยู่บนมือถือกันหมดแล้ว แต่ก็ถือว่าหนังถูกปรับให้เกิดความร่วมสมัยขึ้น
ใน Jumanji: Welcome to the Jungle ยังสอดแทรกประเด็นชีวิตวัยรุ่น เช่น ปรุงแต่งเพื่อเซลฟี่ภาพตนเองให้เป็นที่ยอมรับ การทำอะไรไม่แคร์คนรอบข้าง อาการติดเกม ติดมือถือ ในขณะเดียวกันการที่แคแรกเตอร์หลักต้องเข้าไปอยู่ในเกมภายใต้ร่างอวตารก็สะท้อนให้เห็น สิ่งที่วัยรุ่น (แทบจะทั่วโลก) เป็น การสร้างตัวตนในเกมให้เก่งกล้าในโลกเสมือนเกินกว่าความสามารถจริงที่ตนมีอยู่ในโลกเป็นจริง ทำให้พวกเขากล้าแสดงออกอย่างเต็มที่ในโลกเสมือน ซึ่งตรงกันข้ามกับโลกจริง (คนจำนวนไม่น้อยก็เก่งในทางด้านลบเมื่ออยู่ในโลกไซเบอร์เหมือนกัน) หรือกระทั่งการใช้ชีวิตคนเดียวมากกว่าจะมีเพื่อนฝูงเพราะสื่อสารกับคนอื่นได้ยาก
หลาย ๆ มุกตลกที่ถูกใช้ในหนังน่าจะเป็นที่ถูกใจมีเฮสำหรับคอเกม เช่น มีโอกาสตายได้สามหน, ตามเก็บไอเท็ม, ด่านยาก ๆ ที่ต้องผ่านไปให้ได้ แต่สุดท้ายสิ่งที่หนังอยากจะบอกกับเราก็คือ เรามีโอกาสแก้ตัว หรือเริ่มใหม่ในเกม แต่ในชีวิตจริง เรามีเพียงชีวิตเดียว ไม่ว่าจะเลือกอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจอย่างวู่วาม สมควรอย่างยิ่งที่จะตรึกตรองให้ดี ชั่งน้ำหนักให้เหมาะ เพื่อจะได้ใช้ชีวิตเดียวอย่างไม่ต้องสูญเสีย
ด้วยความสำเร็จ จึงไม่แปลกที่มันจะมีภาคต่อ (จนได้) ใน Jumanji: The Next Level ที่สารภาพตรง ๆ ว่าตอนดูตัวอย่างก็ค่อนข้างเฉย ๆ และเมื่อเข้าไปดู หนังก็หาทริกใหม่ ๆ มาทำให้มันมีทางไปต่อ ซึ่งแน่นอนว่า การจะเก็ทกับบรรดามุกตลกทั้งหลายคือ คุณต้องเคยดู Jumanji: Welcome to the Jungle มาก่อน
เพราะตามตัวอย่าง หนังใช้วิธีสลับบทบาทร่างอวตารไม่ได้อยู่กันคนเดิมในภาคที่แล้ว แถมมีคนใหม่เข้ามา ที่ทำให้สถานการณ์ (ในหนัง) ดูแย่ลง แม้มันจะเป็นไอเดียที่ดี แต่ก็มาพร้อมกับความน่ารำคาญของการทำให้ คุณตาเอ็ดดี้ และคุณปู่ไมโล ที่ทำให้ทุกอย่าง ‘ไม่ได้ดังใจ’ ซึ่งมาคิดอีกที มันอาจเป็นความต้องการของคนเขียนบทก็เป็นได้ ส่วนใครจะต้องเป็นใคร ก็ไปหาคำตอบกันเองในหนังนะครับ
แน่นอนว่า นักแสดงหลักไม่ว่าจะเป็น ดเวย์น จอห์นสัน เดอะร็อก ในบท ดร.เบรฟสโตน, เควิน ฮาร์ท ในบท ฟินบาร์, แจ็ก แบล็ก ในบท ดร.โอเบรอน และ คาเรน กิลเลน ในบท ราวน์เฮาส์ ได้มีโอกาสแสดงอะไรที่แตกต่างกันระหว่างทั้งสองภาค จนเป็นตัวเรียกเสียงฮาในหลายต่อหลายฉาก
แต่ก็อย่างที่บอก Next Level คุณจะสนุกกันมันได้ ต้องมีเคยผ่านตา Welcom to the Jugle มาก่อน และหนังภาคนี้ก็ทิ้งเชื้อไว้แล้วว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไปในภาคหน้า และมาแน่ถ้ามันยังทำเงินได้ตามเป้าของสตูดิโอโซนี่
สุดท้าย Jumanji: The Next Level ก็ตั้งใจจะบอกกับคนดูว่า เมื่อวันเวลาผ่านไป ความไม่มั่นใจในสิ่งที่ตนเองเป็น สิ่งที่ทำอยู่ และความสัมพันธ์ของผู้คนรอบข้างเรา มันอาจบั่นทอนความรู้สึกเราให้เกิดทางลบขึ้น แต่จำไว้เสมอว่า การเปิดอกพูดคุยกับใครก็ตามในทุกความสัมพันธ์รอบข้างเราคือสิ่งที่จะดึงความมั่นใจของเรากลับมา เชื่อมั่นในตนเอง และเชื่อมั่นในมิตรภาพ
หากจะว่าไป ณ ที่แห่งนี้ Blockdit ก็ไม่ต่างจาก Jumanji พวกเราทุกคนเลือกจะสร้างเพจ (ร่างอวตาร) และสร้างบทความที่หวังว่าจะมีคนอ่าน แต่ด่านที่เราต้องฝ่าคือ บรรดาคนติดตามที่ทำอย่างไรจะเป็นที่ประทับใจ, ทำอย่างไรจะได้ดาว ซึ่งหลักเกณฑ์ที่วางไว้ก็เหมือนกับด่านที่เราต้องฝ่าฟันไปให้ได้
ระหว่างเราเริ่มลงบทความไปเรื่อย ๆ ก็เหมือนกับเราเริ่มเดินทาง เราก็อาจจะมีท้อ จิตตก แต่เพราะเรามีบรรดาเพื่อน ๆ ที่เราไปเยี่ยมเพจเขา เขามาเยี่ยมเพจเรา เหล่านี้คอยมอบกำลังใจที่ไม่ต่างจากให้ไอเท็มแก่กัน
ยิ่งตอนนี้มีให้ ‘เพชร’ กันด้วย ก็เท่ากับมีการให้ไอเท็มช่วยชีวิต Up กำลังใจให้แก่กัน ทำให้เราพร้อมจะเดินต่อไปฝ่าฟันทุก ‘Stage’ และเก็บ ‘Star’
ไม่ว่าจะเป็นเกมกระดานที่กลายมาเป็นวีดีโอเกมเปลี่ยนผ่านไปสู่เกมออนไลน์ที่อยู่บนโลกเสมือนจริง
แต่โลกเสมือนจริงที่ชื่อ Blockdit ก็คือ Jumanji ของพวกเรานักเขียน นักอ่าน พร้อมใจกันมอบ ‘ไอเท็มกำลังใจ’ ให้แก่กัน และจะเดินฝ่าด่านต่าง ๆ ไปด้วยกันเสมอ
***ออกจะดูแปลกตาไปบ้างสำหรับ หนังชนโรง เรื่องแรกของปีนี้ ที่คราวนี้แม้จะเป็นหนังเรื่องเดียวกัน แต่ก็เป็น 3 เรื่องที่ต่างเวลากัน ในหนังที่อยู่ภายใต้โลกใบเดียวกัน ผมจึงยำใหญ่เล่ารวดเดียว ชอบหรือไม่ชอบก็ติชมกันได้นะครับ
Jumanji (1995)
Directed: Joe Johnston/Starring: Robin Williams, Kirsten Dunst, David Alan Grier, Bonnie Hunt, Jonathan Hyde/Screenplay: Jonathan Hensleigh, Greg Taylor, Jim Strain/Story: Greg Taylor, Jim Strain, Chris Van Allsburg/Based on Jumanji by Chris Van Allsburg/Music: James Hornor/Cinematography: Thomas E. Ackerman/Edited: Robert Dalva/Runnning time: 104 Mins.
Jumanji: Welcome to the Jungle (2017)
Directed: Jake Kasdan/Starring: Dwayne Johnson, Jack Black, Kevin Hart, Karen Gillan, Nick Jonas, Bobby Cannavale/Screenplay: Jake Kasdan, Chris McKenna, Erik Sommers, Scott Rosenberg, Jeff Pinkner/Story: Chris Mckenna/Based on Jumanji by Chris Van Allsburg/Music: Henry Jackman/Directed of Photography: Gyula Pados/Edited: Mark Helfrich, Steve Edwards/Running time: 119 Mins.
Jumanji: The Next Level (2019)
Directed: Jake Kasdan/Starring: Dwayne Johnson, Jack Black, Kevin Hart, Karen Gillan, Nick Jonas, Awkwafina, Danny Glover, Danny DeVito/Screenplay: Jake Kasdan, Scott Rosenberg, Jeff Pinkner/Based on Jumanji by Chris Van Allsburg/Music: Henry Jackman/Directed of Photography: Gyula Pados/Edited: Mark Helfrich, Steve Edwards, Tara Timpone/Running time: 123 Mins.
ขอบคุณที่มาข้อมูล: IMDb, Wikipedia, Rotten Tomatoes, Youtube
ขอบคุณที่มาภาพประกอบ: IMDb
โฆษณา