19 ม.ค. 2020 เวลา 07:05 • ประวัติศาสตร์
ปรมาจารย์ตั้กม้อ แห่งวัดเส้าหลิน
บางท่านคงเคยได้ยินปรมาจารย์ตั้กม้อจากหนังกำลังภายในที่เข้ามาฉายในบ้านเราร่วมสามสิบปีที่ผ่านมากันบ้างนะครับ
ปรมาจารย์ท่านนี้เชื่อว่ามีอยู่จริงและเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้วัดเส้าหลินได้เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก ครั้งนี้เราจะมาติดตามประวัติของท่านปรมาจารย์ตั้กม้อและผลงานของท่านกันครับ
ท่านโพธิธรรม หรือ ตั้กม้อ ในภาษาจีนแต้จิ๋ว
ท่านปรมาจารย์ตั้กม้อ มีชื่อจริงในภาษาอินเดียว่า พระโพธิธรรม ประสูติในปี พ.ศ. 1063 เป็นราชโอรสของพระเจ้าแผ่นดินในแคว้นคันธารราษฎร์ประเทศอินเดีย
4
ใช่ครับ ท่านปรมาจารย์ตั้กม้อเป็นแขก
สาเหตุที่คนจีนเรียกท่านว่าตั้กม้อ เป็นเพราะว่าเป็นการเรียกคำว่า “ธรรมะ” ในภาษาแต้จิ๋วออกเสียงว่า “ตั้กม้อ"
พระตั้กม้อหรือพระโพธิธรรมมีนัยตาสีฟ้า ทรงมีความฉลาดปราดเปรื่องและแตกฉานในคัมภีร์ของทุกๆ ศาสนา รวมถึงวรรณคดี อักษรศาสตร์
2
ในครั้งที่พระบิดาทรงสิ้นพระชนม์ พระองค์ได้นั่งสมาธิเข้าฌานสมาบัติอยู่หน้าพระศพตลอด 7 วัน ไม่ลุกไปไหน หลังจากนั้นท่านได้ไปเรียนหนังสือกับพระปรัชญาตาระเถระแห่งนิกายเซน และได้เดินทางไปอินเดียในราวปีพ.ศ. 1069 ที่มณฑลกวางตุ้ง
หลังจากนั้นท่านได้เดินทางมาถึงวัดเส้าหลินซึ่งในตอนนั้นวัดเพิ่งได้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นเวลา 32 ปี ท่านได้เล็งเห็นว่าบริเวณรอบ ๆ วัดมีภูมิประเทศที่ร่มรื่นเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมท่านจึงได้จำวัดอยู่ที่เส้าหลินจนกระทั่งท่านบรรลุธรรมในพระพุทธศาสนานิกายเซน ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศจีนและแพร่หลายมาถึงเกาหลีและญี่ปุ่น
คำว่า “เซน” เป็นภาษาญี่ปุ่น มาจากภาษาสันกฤตคำว่า “ฌาน”
ระหว่างที่ท่านตั้กม้อบำเพ็ญเพียรโดยการนั่งสมาธินั้น ว่ากันว่า ท่านได้นั่งจ้องผนังถ้ำเป็นเวลา 9 ปี โดยที่ไม่ได้กินอะไรเลย (ในส่วนของระยะเวลานี้มีหลายตำรานะครับ เอาเป็นว่าท่านนั่งนานมากๆ เกินวิสัยของคนปรกติ)
วัดเส้าหลิน
ในตำนานว่ากันว่า ท่านได้เผลอหลับระหว่างนั่งสมาธิ ท่านจึงตัดหนังตาทิ้งเพื่อไม่ให้หลับอีก หนังตาที่ท่านทิ้งลงพื้นต่อมากลายเป็นต้นชา
พระนิกายเซนที่ญี่ปุ่นจึงนิยมดื่มชา ด้วยสาเหตุนี้ด้วยครับ
เอาเป็นว่าท่านนั่งนานมาก มากจนเป็นเหน็บชาและแข้งขาไม่มีแรง จากที่ท่านเป็นคนอินเดียซึ่งมีความรู้ทางการยืดเส้นสาย (โยคะ) ท่านจึงนำความรู้ของท่านเข้ามาเยียวยารักษาตัวเองให้เดินได้อีกครั้ง
วิชาที่ท่านได้ดัดแปลงและคิดค้นขึ้นมาได้นั้นมีชื่อว่าคำภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
ในเมืองไทย วิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นมีชื่อว่า การแกว่งแขนรักษาโรค
นอกจากนั้นท่านได้เห็นว่าลูกศิษย์ของท่านไม่แข็งแรง ไม่สามารถที่จะนั่งสมาธินาน ๆ ได้ ท่านจึงได้เอาภูมิความรู้ที่ท่านมีอยู่มาสอนลูกศิษย์โดยมีวัตถุประสงค์คือให้ร่างกายแข็งแรง
ท่านคิดว่าร่างกายที่แข็งแรงเท่านั้นจึงจะทำให้สามารถบรรลุธรรมได้
ซึ่งต่อมาได้พัฒนามาเป็นกังฟูในที่ทุกคนทั่วโลกรู้จัก
ปรมาจารย์ตั้กม้อท่านได้อุทิศการเผยแพร่ศาสนา ซึ่งต่อมานิกายเซนได้ขยายไปจนถึงประเทศญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นเองก็ได้สร้างตุ้กตาเพื่อระลึกถึงท่าน
ตุ้กตานี้มีชื่อเรียกว่า ดะรุมะ ซึ่งเป็นชื่อเรียกของท่านในภาษาญี่ปุ่นนั่นเองครับ
ตุ้กตาดะรุมะ มีใบหน้าที่มีลักษณะของชาวอินเดียอย่างเห็นได้ชัด
โฆษณา