6 ม.ค. 2020 เวลา 10:00 • ประวัติศาสตร์
เงามรณะแห่ง Hiroshima
ความตายมีหลายรูปแบบ
ตายอย่างช้าๆหลังเผชิญโรคภัยมาเป็นเวลานาน, ประสบอุบัติเหตุจากไปโดยไม่ทันร่ำลา หรือแม้แต่ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้านำมาสู่การปลิดชีพตนเอง
แต่ถ้าความตายมันเร็วมากในเวลาแค่เพียงเสี้ยววินาที จนคุณไม่มีแม้เวลาจะคิด ร่างสลายกลายเป็นอากาศธาตุ ทิ้งไว้เพียงร่องรอยบางอย่างที่ติดทนข้ามกาล ถ้าเลือกได้คุณอยากตายแบบนี้ไหม?
บทความนี้ขออุทิศให้ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ จุดสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ
.
.
7 ธันวาคม 1941
สหรัฐเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สองเพราะเพลิงแค้นที่ญี่ปุ่นฝากไว้ ณ อ่าวเพิร์ล, ฮาวาย นักบินรบซามูไรเข้าโจมตีฐานทัพเรืออเมริกันแบบสายฟ้าแลบ
ฝ่ายตั้งรับสูญเสียเรือรบสำคัญไปหลายสิบลำ เครื่องบินรบอีกร่วมร้อย ทหารเรือและประชนเสียชีวิตไป 2,471 คน
เมื่อเข้าสู่สงคราม ควบคู่ไปกับการส่งกำลังรบไปยุโรปและแปซิฟิค สหรัฐย้อนกลับมาสนใจบทวิจัยชิ้นหนึ่งของนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน Otto Hahn และ Fritz Strassman ที่ตีพิมพ์ไว้เมื่อปี 1938
มันคือ "ปฎิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชั่น"
ปฏิกิริยาฟิชชัน (Nuclear Fission) เป็นผลจากการแตกตัวนิวเคลียสของธาตุหนัก โดยเกิดขึ้นจากการยิงนิวตรอนเข้าไป ทำให้นิวเคลียสแตกออกเป็น 2 ส่วนเกือบเท่ากัน ในปฏิกิริยานี้มวลของนิวเคลียสบางส่วนจะหายไปกลายเป็นพลังงานออกมา และเกิดนิวตรอนใหม่อีก 2 หรือ 3 ตัว ซึ่งวิ่งเร็วมากพอที่จะไปยิงนิวเคลียสของอะตอมอื่นต่อ ทำให้เกิดปฏิริยาต่อเนื่องเรื่อยไป เรียกว่า ปฏิกิริยาลูกโซ่ (chain reaction) ตามมาด้วยพลังงานมหาศาล
1
ธาตุหนักที่ว่านี้ก็คือ ยูเรเนียม-235 อันเป็นธาตุที่สหรัฐเก็บสะสมไว้ด้วยคาดว่ามันจะเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตระเบิดชนิดใหม่ เอาไว้ป้องกันตนเองหากมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น
และนี่เองเป็นที่มาของ โปรเจคแมนฮัตตัน ก่อตั้งปี 1942 โครงการลับที่บริหารโดย พลเอก Leslie Groves และนักฟิสิกส์นิวเคลียร์ Robert Oppenheimer จุดประสงค์ของโครงการคือสร้างระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกของโลก
1
ตลอดเวลา โปรเจคแมนฮัตตันถูกเรียกโดยชื่อรหัสว่า "โครงการพัฒนาวัสดุทดแทน" เพื่ออำพรางจุดประสงค์ที่แท้จริงจากสาธารณชน มีการจัดตั้งห้องแล็บปฏิบัติการชื่อ Alamos จ้างแรงงานมากกว่า 130,000 คน และเทงบประมาณไปมากกว่า 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แลกกับการได้มาซึ่งระเบิดนิวเคลียร์ 1 ลูก
พวกเขาใช้เวลาอยู่เกือบ 3 ปี ทดลองทำระเบิดในลักษณะต่างๆ แต่ปัญหาหลักไม่ได้อยู่ที่รูปร่างของมัน หากแต่เป็นความเข้มข้นของธาตุยูเรเนียมที่ถูกส่งตรงมาจากเหมืองในประเทศคองโกนั้นไม่เพียงพอ และถ้าอยากให้มันเข้มข้นขึ้นเองตามธรรมชาติ จะต้องใช้เวลาถึง 27,000 ปี
งบประมาณ 80 เปอเซ็นต์ของโปรเจคจึงหมดไปกับการหาวิธีเพิ่มพลังให้ธาตุยูเรเนี่ยมและพลูโตเนียม จนกระทั่งในเดือนกันยายนปี 1943 นักคณิตศาสตร์นาม John Von Nuemann ก็นำเสนอผลวิจัยเกี่ยวกับกระบวนการหนึ่งซึ่งน่าจะให้ผลใกล้เคียงกับการใช้ยูเรเนียมเข้มข้น
1
ไอเดียคือสร้างหีบทรงกลมเล็กๆโดยใช้วัสดุ Fissile Material ที่สามารถเก็บรักษาปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชั่นให้เกิดขึ้นตลอดเวลาภายใน เป็นลูกบอลพลังขนาดไม่ใหญ่ แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งคือมันซับซ้อนและเป็นเรื่องที่ใหม่มาก หากจะสร้างหีบนี้ขึ้นมาจริงๆ ทั้งโปรเจคจะต้องล้มเลิกสิ่งที่ทำอยู่ทั้งหมด และหันมาทุ่มกับไอเดียใหม่นี้อย่างจริงจัง
Oppenheimer ในฐานะผู้นำโครงการนอนไม่หลับอยู่หลายวัน เพราะถ้าไอเดียนี้ล้มเหลว แปลว่างบหลายพันล้านเหรียญที่เสียไปก่อนหน้าจะสูญเปล่าทันที แต่เขาก็ตัดสินใจลองเสี่ยงดู
เวลาผ่านไปหนึ่งปี กระบวนการผลิตในโรงงานและผลทดสอบในห้องแล็บเป็นไปได้ดีเกินคาด ในเดือนมีนาคม 1944 Oppenheimer ก็เข้าพบพลเอก Leslie Groves เพื่อขออนุญาตทำการทดสอบเต็มรูปแบบ ในจุดทดสอบขนาดใกล้เคียงกับเป้าหมายจริง และเขาก็ได้รับไฟเขียวจากนายใหญ่
2
ทีมงานเลือกทะเลทรายใน นิว เม็กซิโก เป็นสถานที่ทดสอบและใช้เวลาเตรียมงานกว่าหนึ่งปีภายใต้รหัสลับชื่อ "ทรินิตี้ เทส" กำหนดวันที่ 16 กรกฎาคม 1945 เวลา 05:29 น. เป็นวันลองของ
พอมาถึงวันจริง ธาตุยูเรเนี่ยมขนาดเท่ากับผลส้มถูกบรรจุใส่หีบ Fissile Material บรรทุกมาในเบาะหลังของรถเก๋ง ถูกนำมาส่งที่จุดระเบิดเพื่อประกอบเข้ากับแท่นจุดชนวน รอเพียงนักวิทยาศาสตร์หัวหน้าการทดลอง Larry Honic กดปุ่มสีแดง มนุษยชาติก็จะได้เห็นพลังของระเบิดนิวเคลียร์เป็นครั้งแรก
บี้บ!
เวลา 05:29น. ขณะทะเลทรายเงียบสงัดและมืดสนิท นักวิทยาศาสตร์สาวซึ่งสังเกตการณ์อยู่บนยอดเขาห่างออกไปหลายไมล์ กดปุ่มสีแดงเล็กๆบนคันบังคับ
แสงจากระเบิดนิวเคลียร์เปลี่ยนความมืดให้กลายเป็นความสว่างดังเวลาเที่ยงวัน ควันไฟพวยพุ่งขึ้นมาเป็นรูปดอกเห็ดสูงหลายร้อยเมตร คลื่นความร้อนทำลายทุกสิ่ง และผู้คนสามารถรู้สึกถึงแรงระเบิดแม้อยู่ห่างไป 160 กม.
1
Kenneth Bainbridge นักวิทยาศาสตร์อีกคนในโครงการกล่าวถึงความสำเร็จของทรินิตี้เทสนี้ว่า
"และตอนนี้ เราทุกคนก็กลายเป็นไอ้ชาติหมาโดยสมบูรณ์"
.
.
1
ข่าวการทดสอบถูกรายงานไปยังท่านประธานาธิบดี Harry S. Truman อย่างรวดเร็ว นำสหรัฐเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป คือการยื่นข้อเสนอให้จักรวรรดิญี่ปุ่นยอมแพ้อย่างไร้ข้อต่อรองในวันที่ 28 กรกฎาคม 1945 12 วันหลังการทดสอบ
Truman กล่าวในสาสน์เนื้อความว่า "เราขอออกคำสั่งให้จักรวรรดิญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามอย่างไร้เงื่อนไข ไม่เช่นนั้นสหรัฐและพันธมิตรจะทำลายล้างดินแดนญี่ปุ่นให้คงเหลือแต่ซากปรักหักพัง"
1
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Kantaro Suzuki ตอบ
"พวกเราไม่สนใจในคำลวงของฝั่งพันธมิตร และเราจะเป็นผู้ชนะสงคราม"
.
เมื่อไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจ ปธน.Truman จึงสั่งให้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์บัญชาการที่เกาะติเนียน ซึ่งอยู่ห่างจากฮิโรชิม่าไปทางใต้ 2,510 กม. โดยกำหนดวันทิ้งระเบิดเรียบร้อย เช้าวันที่ 6 สิงหาคม 1945
ต่อจากนี้คือเหตุการณ์ 48 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนโศกนาฎกรรม
.
• เกาะติเนียน 4 ส.ค. 1945 เวลา 00:02
นักบินกองทัพอากาศ 12 คน เข้าประชุมรับงานพร้อมหัวหน้าหน่วยผู้พัน Paul Tibbets หลังถูกฝึกมากว่า 9 เดือนโดยที่กองทัพไม่เปิดเผยรายละเอียดใดๆเลย
1
ผู้พัน Tibbets ในที่สุดก็บอกว่าภารกิจของพวกเขาคือการทิ้งบอมบ์ซึ่งมีพลังทำลายมหาศาล ณ เมืองใดเมืองหนึ่งของญี่ปุ่น และหวังให้ญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามโดยทันที พร้อมกล่าวว่า ภารกิจนี้เสี่ยงอันตรายสูงสุด ให้ทุกคนเขียนอำลาครอบครัวไว้ล่วงหน้าเลย
1
• เกาะติเนียน 5 ส.ค. 1945 เวลา 14:31
ทีมนักบินได้รับแจ้งจะต้องออกบินในช่วงกลางดึกเพื่อไปถึงญี่ปุ่นในตอนเช้า แต่สิ่งที่ยังไม่รู้คือเมืองเป้าหมาย ผู้พัน Tibbets ได้รับอำนาจให้เป็นผู้เลือกโดยพิจารณาจากสภาพอากาศ ทัศนวิสัย และอำนาจการทำลายล้าง
1
ตอนนี้มีเมืองในใจเขา 3 แห่ง ฮิโรชิม่า, นางาซากิ หรือโคคุระ Tibbets เตรียมไซยาไนด์ 12 แคปซูลไว้ใช้เป็นทางออกสุดท้าย เผื่อแผนการล้มเหลวและถูกจับได้
1
• ฮิโรชิม่า 5 ส.ค. 1945 เวลา 15:00
ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยกันคึกคัก ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาสหรัฐส่งเครื่องบินเข้ามาบอมบ์ทั่วเกาะญี่ปุ่นอย่างหนักทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100,000 คน เมืองต่างๆได้รับความเสียหายกันถ้วนหน้ายกเว้นฮิโรชิม่าเพียงเมืองเดียว ทำให้ชาวญี่ปุ่นรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ที่นี่
2
กระทั่งเครื่องบิน B-29 ที่กำลังจะถูกใช้ปฎิบัติการเองก็มีชื่อเล่นน่ารักจากชาวญี่ปุ่นว่า "เครื่องบินฮิโรชิม่า" เพราะมันทำแค่เพียงบินผ่านและไม่เคยทำร้ายชาวญี่ปุ่นเลย
• เกาะติเนียน 5 ส.ค. 1945 เวลา 17:00
ระเบิดนิวเคลียร์ชื่อเล่นว่า "Little Boy" ถูกเข็นขึ้นเครื่องบิน B-29 ตามหลักแล้วทหารจะต้องทำการติดตั้งระเบิดพร้อมรบในทันที แต่เมื่อสองวันก่อนเกิดเหตุการณ์เครื่อง B-29 ประสบอุบัติเหตุตกตอนเทค-ออฟ ทำให้ผู้พัน Tibbets ตัดสินใจเสี่ยงไม่ติดตั้งระเบิดบนพื้นดิน แต่จะไปติดตั้งกลางอากาศ เพื่อที่ถ้าเครื่องตกตอนบินขึ้น คนบนพื้นจะได้ปลอดภัยจากระเบิดนิวเคลียร์
.
ในที่สุดก็ถึงเวลาปฎิบัติการ...
.
1
• บนฟ้า 482 กม.ก่อนถึงฮิโรชิม่า 6 ส.ค.1945 เวลา 06:27
นักบินทั้ง 12 คนอยู่บนเครื่องบินที่ชื่อว่า "Enola Gay" บ้างสวดมนต์ บ้างนอนหลับพักผ่อน ส่วนผู้พัน Tibbets นั้นกำลังรอรายงานสภาพอากาศจากเครื่องบินตรวจอากาศทั้งสองลำที่บินไปก่อนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ
2
• บนฟ้า ก่อนถึงฮิโรชิม่า 6 ส.ค.1945 เวลา 07:31
เครื่องตรวจอากาศไปถึงฮิโรชิม่า และรายงานกลับไปยังเครื่อง Enola Gay ว่าสภาพอากาศปลอดโปร่ง ทำให้ Tibbets ตัดสินใจเลือกฮิโรชิม่าเป็นเป้าหมาย พร้อมสั่งให้ลูกเรือไต่ไปที่ระดับความสูง 31,000 ฟุต เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี
.
1
• บนฟ้า ฮิโรชิม่า 6 ส.ค.1945 เวลา 08:14
Enola Gay ปล่อยระเบิดนิวเคลียร์ Little Boy ออกจากเครื่อง โดยลูกเรือมีเวลา 15 วินาทีออกจากจุดปล่อยเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง ทุกกระบวนการสมบูรณ์แบบ ถ้าคำนวณไม่ผิด Little Boy จะใช้เวลา 45 วินาทีตกลงสู่ใจกลางเมือง
• ฮิโรชิม่า 6 ส.ค.1945 เวลา 08:15
ในช่วงเช้าของเมืองอันเงียบสงบ ผู้คนออกมาซื้อกับข้าวกับปลาที่หาได้ไม่ยากนักตามตลาด เด็กๆร่ำลาพ่อแม่เพื่อไปโรงเรียน ผู้เฒ่าใช้ไม้เท้าค้ำยันตัวเองออกมานอกบ้านเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์
แสงสว่างวาบดึงดูดความสนใจของคนทั้งเมืองให้หันมองไปทางเดียวกัน ประจุนิวตรอนถูกยิงเข้าใส่อะตอมของธาตุยูเรเนียม ทำให้มันแยกออกจากกันกลายเป็นสองอะตอม ก่อนที่จะหายไปอันหนึ่ง เกิดเป็นพลังงานและนิวตรอนขึ้นมาอีก 2-3 ประจุซึ่งวิ่งเข้าหาอะตอมอื่นๆของยูเรเนียม ก่อให้เกิดกระบวนการลูกโซ่ต่อเนื่องไม่หยุด
1
Little Boy ระเบิดตัวเอง 600 เมตรเหนือพื้นดิน ปล่อยแสงสว่างจ้าที่สามารถทำให้ตาบอดได้ทันที ตามมาด้วยคลื่นความร้อนอุณหภูมิ 6,000 องศาเซลเซียสมากกว่าดวงอาทิตย์ไปในรัศมีกว้าง
ชายนิรนามคนหนึ่งนั่งอยู่ที่บันไดห่างจากจุดระเบิด 260 เมตร ได้รับความร้อนเข้าไปเต็มๆทำให้ร่างของเขาสลายไปในบัดดล กลายเป็นเพียงคราบดำๆที่ติดอยู่ตามพื้น เช่นเดียวกับคุณตาคนหนึ่งที่กลายเป็นเงาอยู่ตรงพื้นบันได
สเต็ปต่อไปคือพายุไฟจากจุดระเบิดที่แผ่ขยายเผาทุกอย่างในรัศมี 1.6 กม.เป็นชนวนให้เกิดไฟป่า แม้แต่แม่น้ำก็ยังลุกเป็นไฟ
สิ่งก่อสร้างในระยะสองกิโลเมตรถูกทำลายจนราบเป็นหน้ากลอง ด้วยแรงอัดมหาศาลขนาด 34 กิโลปาสคาล
ด้วยความที่ระเบิดก่อนถึงพื้น ทำให้กัมมันตภาพรังสีส่วนใหญ่ลอยขึ้นไปในชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์ก่อนจะกระจายปกคลุมไปทั่วญี่ปุ่น คงเหลือไว้เพียงรังสีแกมมาและนิวตรอนที่ฝังตัวเข้มข้นในรัศมีประมาณ 2 กม.ใกล้จุดตก รังสีเหล่านี้เองที่สร้างความทรมานให้กับประชากรญี่ปุ่นต่อไปอีกนับทศวรรษ
อีก 3 วันต่อมา สหรัฐส่งทีมไปทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ชื่อ "Fat Man" ที่เมืองนางาซากิในรูปแบบเดียวกัน ต่างกันเพียงธาตุที่ใช้คือพลูโตเนียม และมีความรุนแรงมากกว่าฮิโรชิมา
.
1
109,000 ชีวิต สลายไปในเวลาเพียงเสี้ยววินาที
130,000 ชีวิต ค่อยๆจากโลกนี้ไปหลังจากนั้น
ญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามโดยไม่มีเงื่อนไข
ทิ้งไว้เพียงอนุสรณ์แห่งความเศร้า
เงามรณะแห่งฮิโรชิม่า
.
เรื่องนี้สอนให้ผมรู้ซึ้งถึงสัจธรรมของชีวิต ไม่มีอะไรแน่นอน วินาทีนี้เราตั้งอยู่ อีกวินาทีเราอาจดับไป ความตายมันช่างรวดเร็ว เงียบเชียบ และปราศจากความเห็นใจ
2
จงใช้ชีวิต
เพื่อทิ้งความดีไว้
มิใช่จากไป
กลายเป็นเพียงเงาแห่งความทรงจำ.
- Xyclopz
1
โฆษณา