7 ม.ค. 2020 เวลา 08:45
นาคาล่ายักษ์ : ตอนที่ 1 สงคราม
ณ ดินแดนที่อยู่ใจกลางระหว่าง 3 ภพ สวรรค์ มนุษย์และนรก เป็นดินแดนพื้นราบไร้ขอบแดนไม่มีที่สิ้นสุด สภาพท้องฟ้าและบรรยากาศแปรปรวนอยู่ตลอดเวลา
ภาพที่เห็นคือมหาสงครามระหว่างยักษ์อสูรที่ยกทัพพร้อมกับอสูรกายนรก ส่วนอีกฝ่ายคือเหล่าพญานาคราชและนาคที่กำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ผมซึงเป็นแม่ทัพแปลงกายจากกายมนุษย์พุ่งสู่ท้องฟ้ากลายเป็นร่างของพญานาคราชสีดำทมิฬขนาดใหญ่พุ่งลงสู่พื้นดินแรงสั่นสะเทือนทำให้แผ่นดินแตกแยกจนบรรดาลยักษ์ล่วงหล่นลงไป นาคราชหนุ่มพ่นไฟบรรลัยกัลป์แผดเผายักษ์นับร้อย บ้างก็จับกินยักษ์ทั้งตัวจนเลือดของมันท่วมปากรสชาติหอมหวานอย่างบอกไม่ถูก เพียงแค่เลื้อยตัวด้วยขนาดลำตัวที่ใหญ่ก็ทำให้ยักษ์ตัวเล็กตัวน้อยถูกบดขยี้ ถึงแม้จะได้เปรียบด้วยขนาดลำตัวและอำนาจอิทธิฤทธิ์แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้น้อยหน้า ด้วยเหตุที่ว่าอีกฝ่ายมีกำลังพลมหาศาล อีกทั้งเมื่อตายแล้วยังจะเกิดใหม่จากเศษซากเนื้อแตกหน่อออกเป็นสองตัวสามตัวเห็นแล้วน่ารำคาญ ถึงแม้ตัวเราแบดแผลจะหายเร็วแต่ความเจ็บปวดจากการโดนอาวุธก็มิอาจบรรเทา ผมแปลงกายกลับเป็นร่างกายมนุษย์และเสกอาวุธกริซพญานาคเข้าห้ำหั่นกับฝูงยักษ์ที่ดาหน้ากันเข้ามาทันใดนั้นก็มีเสียงเรียกพร้อมกับสายฟ้าฟาดลงบนตัวของยักษ์ที่กำลังจะใช้ดาบฟันมาในขณะที่ผมเผลอตัวจนไหม้เป็นเทาถ่าน "ท่านภพชคิน" เสียงจากแม่ทัพหนุ่มอีกคนเรียกผม ผมหันไปหาเจ้าของเสียง
ต้องขอบคุณท่านมากที่มาช่วย ผมตอบกลับไปด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ "กำลังพลของวังข้าเหนื่อยล้าเต็มทีแล้วดูถ้าขื่นเรายังรบกันต่อไปข้าเกรงว่าฝ่ายเราจะต้านไม่อยู่" ทันทีที่ฟังจบผมพยักหน้าแล้วพุ่งสู่ท้องฟ้าพร้องกับแม่ทัพอีกจากหลายๆทัพต่างคนใช้มนต์คาถาสร้างกำแพงเวทย์ที่ไร้ขอบเขตกันพวกยักษ์กับเหล่าอสูรนรกไว้เพียงชั่วคราว ( เพียงชั่วคราวในที่นี้คือ 1 ปี หรือมากกว่านั้น จนกว่าจะมียักษ์ตนใดที่ทำลายมนต์สะกด ) พวกผมต่างพากันถอยทัพกลับเมืองใครเมืองมัน ซึ่งผมเองเป็นพญานาคราชเพียงคนเดียวในบรรดาทัพพญานาคที่เข้าร่วมสงครามที่ยังไม่มีวังหรือเมืองบาดาลที่ตนเองปกครองมีเพียงแต่เหล่าบริวารที่คอยติดตาม ผมจึงเอ่ยปากไปว่า ข้ากับบรรดาเหล่าบริวารขอกลับเมืองไปกับท่านได้หรือไม ท่านสินธุกาล ผมกล่าวไปอย่างนั้นเพราะสินธุกาลเขาเป็นมิตรสหายที่ผมสนิทด้วยมากที่สุดในวัยอายุที่เท่ากันต่างจากแม่ทัพคนอื่นๆที่ต่างอายุเกินกว่า 1000 ปี แน่นอนว่าสินธุกาลเขาตอบยินดีที่ให้ผมไปพักที่เมืองของเขา
เมื่อกลับถึงเมืองชาวบาดาลต่างพากันจัดงานฉลองต้อนรับแม่ทัพกลับศึก ผมเชยชมบรรยากาศของงานและความงามวังของสินธุกาล ในขณะที่กลังชื่นชมการแสดงนาครำพัน "นี่ท่านไม่คิดจะสร้างเมืองเป็นของตัวเองบ้างหรือมัวแต่จำศีลภาวนาคนเดียวในถ้ำมืดๆมันจะไปสนุกอะไรท่าน" สินธุกาลถามผมจึงตอบกลับไปว่า ท่านก็รู้ข้าหาสนิทกับใครเยอะไม่ ก็มีแต่ท่านกันท่านปู่นี้ละที่ข้าพอจะพูดคุยด้วยได้ อีกอย่างข้าก็ไม่ได้อากังขา(อารมณ์ขัน)แบบท่านนิท่านสินธุกาล “ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอเพียงแต่ข้าก็อยากให้ท่านมีที่ๆสวยงามล้อมรอบไปด้วยบริวารมากหน้าหลายตา” สินธุกาลพูดพร้อมกับดื่มสุราเมรัย จนเมาแล้วหมดสติ ผมก็พยุงตัวสินธุกาลโดยให้ทหารองครักษ์มาช่วยแบกอีกคน
เป็นพญานาคเวลานอนก็เปรียบดั่งเป็นการบำเพ็ญเพียงเพราะเวลาอยู่ถ้ำก็สภาพงูขดตัว เมื่อนอนบำเพ็ญเพียงไปสักพักก็มีเสียงเรียกผมผมลุกขึ้นลืมตาภาพของเจ้าของเสียงนั้นก็คือท่านปู่ที่ปรากฏกายทิพย์ยืนอยู่ตรงหน้า "หลานปู่ ปู่อยากให้หลานขึ้นไปยังภพมนุษย์เพื่อช่วยมนุษย์" ผมงงกับคำพูดท่านปู่เพราะผมไม่เคยขึ้นไปยังภพมนุษย์เลยตั้งแต่เกิดมารู้ตัวก็อยู่กลางสมรภูมิรบสงครามเสียแล้ว ผมจึงถามกลับไปช่วยมนุษย์เหตุใดข้าจึงต้องช่วยมนุษย์หาเกี่ยวกับข้าไม่ "เกี่ยวแน่เพราะสิ่งที่มนุษย์กำลังเผชิญอยู่ก็คือสิ่งที่เอ็งต้องจัดการอยู่ในตอนนี้" สิ่งที่ผมต้องจัดการ? มันคืออะไรรือท่านปู่ "เอาเป็นว่าเมื่อเอ็งเจอเอ็งก็จะรู้เอง" ท่านปู่พูดเสร็จพร้อมกับยื่นดอกบัว 1 ก้านให้ "เอ็งเอาสิ่งนี้ติดตัวไปมันเป็นสิ่งที่จะช่วยเอ็ง" ดอกบัว? มันจะช่วยข้ายังไง "เมื่อนี้เป็นดอกบัวเมื่อหน้ามันจะเป็นสิ่งที่เอ็งต้องใช้" ท่านปู่พูดจบก็ค่อยๆหายไปทีละนิดพร้อมกับน้ำเาียงคำพูดประโยคสุดท้าย จำคำปู่ไว้อย่าทำลาย.....
มันเป็นเหมือนฝันซ้อนฝัน นิมิตซ้อนนิมิต ผมตื่นพร้อมกับกำบางสิ่งที่ติดมือขึ้นมาดูมันคือ ดอกบัวที่อยู่ในนิมิตทันทีที่เห็นดอกบัวมันก็หายแว๊บไป ผมเดินทบทวนคำพูดของท่านปู่ แล้วเหล่าถึงนิมิตให้สินธุกาลฟัง “โลกมนุษย์งั้นรือ ข้าเองก็อยากขึ้นไปดูสักครั้ง” ผมมองหน้าสินธุกาลที่สีหน้าท่าทางคิดหนัก ผมคิดว่าด้วยที่ว่าเป็นถึงเจ้าเมืองจะให้ทิ้งเมืองไปเที่ยวสนุกคงไม่ดีแน่ๆ (เมืองบาดาลของท่านสินธุกาลอยู่ไกลจากทางประตูเชื่อมโลกมนุษย์เนื่องจากเป็นเมืองที่ไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยวกับภพมนุษย์เลยจึงตั้งเมืองไกลออกไป) “ไป ข้าไปด้วย” สินธุกาลตอบกลับพร้อมพยักหน้า นี้ท่านเอาจริงหรือท่านสินธุกาล ผมถามต่อ "เฮ้ยข้าเอาจริงสิใครจะปล่อยให้สหายไปคนเดียวละ" แล้วเมืองท่านละท่านเจ้าเมืองสินธุกาล ผมถามพร้อมกับขำเล็กๆหน่อยๆ "ท่านดูสิ ที่นี้สงบสุขแบบนี้มากี่ภพกี่ชาติแล้ว" ข้าเองก็เริ่มเบื่อแล้วด้วยสิ ผมได้แต่ยิ้มเพราะภาพที่เห็นมันเป็นภาพความสุขของชาวบาดาลที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจริงๆตามที่สินธุกาลกล่าว ถ้าท่านพูดว่าจะไปข้าเองก็ยินดี "งั้นข้านำทางเอง" สินธุกาลพูดพร้อมกับตบไหล่ผมเบาๆแล้วแปลงกายเป็นพญานาคสีเขียวมรกตว่ายออกไป ผมเองก็แปลงกายเป็นพญานาคตามไป "ประตูเชื่อมระหว่างภพเท่าที่ข้ารู้มาเมืองบาดาลที่ใกล้ก็คงเป็นแม่น้ำใหญ่ข้างหน้า" พวกผมโผล่ขึ้นในถ้ำน้ำตกสักแห่งแล้วพากันออกมาจากถ้ำ "นี้สินะป่าไม้พืชพรรณโลกมนุษย์" ท่านพูดอย่างกับไม่เคยไปป่าหิมพานต์เมื่อตอนที่เราไปออกค่ายอย่างงั้นหรอ ผมพูดพร้อมกับยิ้ม "นั้นสิก็ใกล้เคียง แล้วพวกเราเอาไงกันต่อไหนละมนุษย์ที่ว่าเราต้องช่วย" ท่านถามมาแบบนี้ข้าจะตอบยังไรดี ฮ่าๆๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ พวกผมหันมองหน้ากันแล้วพากันวิ่งตามหาต้นทางขิงเสียงขอความช่วบเหลือ
พวกผมวิ่งมาหลบตรงพุ่มไม้และมองหาเจ้าของเสียงภาพที่เห็นคือชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่กำลังถูกกลุ่มทหารพร่านที่ใส่ผ้าโพกหัวที่ย้อมด้วยด้วยดอกสีน้ำเงินอ่อนกางเกงสีเลือดหมู "ท่านภพชคินนั้นนะคือมนุษย์ที่เราต้องช่วยสินะ" ข้าเองก็ไม่แน่ใจสิเอาเป็นว่าเราเข้าไปช่วยกันไหม "เรื่องหาเรื่องใส่ตัวนี้ข้าถนัดมาก" พูดเสร็จผมกับสินธุกาลก็ร่ายคาถาแปลงชุดแต่งกายให้คล้ายกับกลุ่มชาวบ้าน (อย่างว่าจะให้เข้าไปช่วยตอนที่ยังใส่ชุดเหมือนอยู่ในเมืองบาดาลเครื่องประดับแหวนทองไปช่วยมันก็จะจัดเต็มเกินไปหน่อย) สินธุกาลกระโดดเข้าใส่ทหารพร่านเตะต่อยอย่างดุเดือดผมเองก็เข้าไปร่วมวงด้วยอีกคน จนท้ายที่สุดทหารพร่านก็พากันวิ่งหนีไป "ข้าว่าข้าได้กลิ่นเหมือนยักษ์แถวนี้เลยท่านภพชคิน" ท่านคิดไปเองรึป่าวสินธุกาลไม่ใช่ว่าไม่ได้มีเรื่องนานจนจมูกผิดเพี้ยนไปเรอะนะ "ขอบคุณท่านทั้งสอง" ภาพของกลุ่มมนุษย์ที่พากันวิ่งมาคุกเข่าไหว้ขอบคุณ "เฮ้ยๆอะไรๆกันพวกท่านลุกขึ้นเถิด" ผมกับสินธุกาลทำท่าไปไม่ถูกกับการกระทำของมนุษย์บวกกับเป็นการไหว้ี่ได้จากมนุษย์ครั้งแรก "พวกท่านมาจากไหนกันรือ" มนุษย์ผู้หนึ่งถาม "ผู้ข้า.......เอ่อ" พวกเป็นนักเดินทางนะจะพอดีได้ยินเสียงตะโกนลั่นป่าเลยตามเสียงมา "พวกท่านคงไม่ใช่นักเดินทางธรรมดาสินะดูจากกระบวนท่าต่อสู้แล้วราวกับเป็นทหารที่เคยผ่านศึกมามาก" มนุษย์ชายกล่าว "พวกข้าเดินทางไปทั่วมันก็ต้องรู้จักปกป้องตัวไว้ก่อนสิท่าน...เนี่ยๆแบบนี้" สินธุกาลพูดพร้อมกับทำท่าฉกมวย
แล้วพวกท่านไปทำอะไรมาทำไมถึงถูกกลุ่มมนุษย์กลุ่มนั้นมันรุมทำลาย ผมถาม "มนุษย์? นี่พวกท่านเป็น..." "เป็นคนธรรมดานี่ละท่าน" สินธุกาลพูดดังกลบ "อ่อๆ คือหมู่บ้านของพวกข้าพึงถูกเผาทำลายต่างคนต่างหนีนี้ละท่านพวกข้าก็วิ่งหนีตายกันมาจนมาเจอกับพวกทหารพร่านพวกที่โดนพวกท่านถีบส่งไปนี่ละ" ชาวบ้านผู้ชายกล่าว "แล้วพวกท่านจะทำอย่างไรต่อ" สินธุกาลถาม "พวกข้ากำลังจะไปเมืองที่อยู่ถัดจากเขาลูกนั้นและท่านพวกท่านละ" ชาวบ้านชายตอบ พวกข้าเองก็ว่าจะไปทางนั้นพอดีขอร่วมทางไปกับพวกท่านได้หรือไม ผมถาม "ได้สิท่านพวกท่านเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตพวกข้า" ตกดึกพวกผมหาที่ที่จะค้างคืนแต่ด้วยที่กลุ่มชาวบ้านมีแต่ตัวเปล่าจึงไม่มีอะไรมาจุดไฟเพื่อให้แสงสว่าง "ท่านภพชคินท่านว่าทำควรทำยังไงดีถ้าเกิดเราใช้อิทธิฤทธิ์ข้าเกรงว่ามันจะไม่ดีต่อมนุษย์นะท่าน" ท่านเห็นท่อนไม้ท่อนนั้นไมเราใช้สายฟ้าผ่าลงตรงนั้นน่าจะทำให้เกิดเปลวไฟได้ผมพูดเสร็จก็ร่ายมนต์สายฟ้าฟาดผ่าลงท่อนไม้เสียงดังลั่นสนั่น แน่นอนมันเป็นเป็นอย่างที่คิดท่อนไม้แตกกระจายเปลวไฟกระจายออกไปเป็นจุดๆ แต่นั้นก็ไม่สิ้นหวังชาวบ้านต่างพากันวิ่งพร้อมกับพูดว่าปาฏิหาริย์ ไปเก็บกิ่งไม้ใบไม้แห้งมากองๆทำให้เกิดกองไฟ เมื่อผ่านคืนนี้ไป รุ่งเช้าพวกผมก็เดินทางกันต่อ
หน้าเมืองหลวง
"ขอบคุณพวกท่านทั้งสองอีกครั้งไว้เจอกันครั้งหน้าพวกข้าจะตอบแทนพวกท่าน" เหล่ากลุ่มชาวบ้านต่างอำลาแล้วเดินเข้าเมืองไป "เฮ้อ...ข้ารู้สึกอยากลงไปเล่นน้ำที่แม่น้ำข้างๆเมืองละท่านว่าไง" ข้ายังไงก็ได้แล้วแต่ท่านเลย "นั้นสินะนาคราชภพชคินผู้อยู่แต่ในถ้ำไม่เคยไปเล่นน้ำกับใครเขา ข้านี้ก็ไม่น่าถามเลยเนอะ ฮ่าๆๆๆ" ระหว่างที่พวกผมกำลังจะหันหน้าไปทางแม่น้ำนั้น "ช้าก่อนนาคราชทั้งสอง" พวกผมตกใจกับเสียงเรียกนั้นจึงหันไปพร้อมกัน เจ้าของเสียงนั้นคือหญิงสาวสวยที่ดูมียศถาบรรดาศักดิ์ถ้าดูจากการแต่งตัวและทหารองครักษ์ แต่ประเด็นไม่ใช่ตรงนั้น ประเด็นอยู่ที่ว่านางรู้ได้อย่างไร "ท่านรู้ได้เยี่ยงไรกันว่าพวกข้าเป็น...." สินธุกาลพูดด้วยสีหน้าตกใจ "ถ้าไม่รังเกียจข้าเชิญพวกท่านมาอาบน้ำและร่วมโต๊ะรับประทานอาหารค่ำที่วังของข้าได้" หญิงสาวกล่าวเสร็จก็เดินนำทางโดยทหารสองคนเดินมาคุมหลังพวกผมสองคน (นี้ไม่เรียกเชิญนี้เรียกบังคับป่าวอะแม่นาง)....
จบตอนแรก
📌ติดตามตอนต่อไป
ปล.หายไปนานกลับมาแล้วจร๊า ชอบอย่าลืมกดไลท์กดแชร์นะครับ
อ่อคำไหนผิดของอภัยด้วยนะครับแล้วขออภัยถ้าเขียนคำอ่านยากไปเพราะพยายามเขียนให้เข้าใจง่ายๆ
ภาพปลากรอบ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา