Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เสียบสามเหลี่ยม
•
ติดตาม
7 ม.ค. 2020 เวลา 04:29 • กีฬา
9 กรกฎาคม 2006 คือวันที่ทีมชาติอิตาลี คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการดวลจุดโทษเอาชนะ ฝรั่งเศส ไป 5-3 หลังจากเสมอกันใน 120 นาที 1-1
เหตุการณ์ที่หลายคนเลือกจะจดจำในวันนั้น ก็คือลูกจุดโทษแบบเหนือๆ ของ ซีเนอดีน ซีดาน
ก่อนที่อดีตจอมทัพหัวไข่ดาวของทีมตราไก่ จะทำวีรกรรมบันลือโลก ด้วยการเอาหัวโขกใส่ มาร์โก มาเตรัซซี่ จนโดนใบแดงในช่วงต่อเวลาพิเศษ ของเกมนัดเกียรติยศ ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายในอาชีพค้าแข้งของเขา และทำให้ อิตาลี ไม่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ก่อนเอาชนะไปในช่วงดวลเป้า
แต่ใครจำได้บ้าง ว่าหนึ่งใน 5 นักเตะทีมอัซซูรี่ที่สังหารไม่พลาดเลยคือ ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ซึ่งลงสนามเป็นตัวสำรองในเกมนั้น
เด รอสซี่ คือผู้รับหน้าที่ยิงเป็นคนที่ 3 เขาคือคนที่ยิงให้อิตาลีมีสกอร์ได้เปรียบในช่วงดวลจุดโทษ เพราะเป็นคนที่สังหารต่อจาก ดาวิด เทรเซเก้ต์ ที่เพิ่งซัดเต็มข้อไปชนคาน
ซึ่งหลังจาก เด รอสซี่ ยิงเข้า ก็ไม่มีนักเตะคนไหนยิงพลาดอีก ก่อนที่จังหวะซัดของ ฟาบิโอ กรอสโซ่ ผู้ทำหน้าที่เป็นคนที่ 5 จะทำให้ทีมจากเมืองมะกะโรนีได้ฉลองใหญ่ เพราะ อิตาลี เป็นฝ่ายได้ยิงก่อน และไม่มีใครพลาด นั่นหมายความว่า ฝรั่งเศส ไม่จำเป็นต้องส่งใครไปยิงเป็นคนสุดท้าย
อิตาลี ได้ชูถ้วยแชมป์โลกที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี โดยที่ เด รอสซี่ คือส่วนหนึ่งของทีมอัซซูรี่ชุดนั้น ซึ่งเป็นทีมชุดสุดท้ายที่ได้ฉลองแชมป์ระดับเมเจอร์
ในศึกฟุตบอลโลก 2006 เด รอสซี่ ถูกกุนซือ มาร์เชลโล่ ลิปปี้ วางตัวให้เป็นหนึ่งใน 11 ตัวจริง
2 เกมแรกในรอบแบ่งกลุ่ม ที่ อิตาลี พบกับ กานา และ สหรัฐอเมริกา ลิปปี้ใช้ระบบ 4-3-1-2 ซึ่งถอดแบบมาจาก เอซี มิลาน ยุครุ่งเรือง
เด รอสซี่ ในตอนนั้นซึ่งยังหนุ่มแน่น เขาคือนักเตะที่อายุน้อยที่สุดของทีมชาติอิตาลีชุดยิ่งใหญ่ชุดนั้น (อายุแค่ 22 ปี) และยึดตำแหน่งตัวจริง โดยเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัว บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ทางฝั่งซ้าย
อันเดรีย ปีร์โล่ ทำหน้าที่ "เรจิสต้า" (กองกลางตัวทำเกมจากแนวลึก ที่ยืนต่ำสุดในแดนกลาง) ส่วนกลางตัวขวาคือ ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า และมี ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ เล่นเป็นจอมทัพหลังคู่กองหน้า
เกมแรกที่ อิตาลี ชนะ กานา 2-0 ถือว่าเป็นนัดที่ เด รอสซี่ เล่นเต็ม 90 นาทีได้อย่างโดดเด่นสุดๆ เขาได้รับคำชมจากฟอร์มอันแข็งแกร่ง และขยันทุ่มเทเกินร้อย จนทำให้ทีมดาวดำครองเกมสู้กับทีมจากแดนรองเท้าบู๊ทไม่ได้
ถึงแม้จะโดนใบเหลืองตั้งแต่ 10 นาทีแรก แต่นั่นไม่ทำให้ความดุดันของ เด รอสซี่ ลดลงไป
อย่างไรก็ตาม ในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 2 ที่พบกับทีมชาติสหรัฐอเมริกา กลับกลายเป็นฝันร้ายของอดีตกองกลางผู้ลงสนามให้ โรม่า มากเป็นอันดับ 2 ตลอดกาลรองจาก ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ
เขาโดนใบแดงโดยตรงตั้งแต่นาที 28 จากการเจตนากระโดดตีศอกใส่เบ้าหน้าของ ไบรอัน แม็คไบรด์ หัวหอกทีมมะกัน หลังจากที่อิตาลีโดนตีเสมอแค่นาทีเดียว
การเจตนาเล่นรุนแรงนอกเกม ทำให้ฟีฟ่าตัดสินใจสั่งแบน เด รอสซี่ ถึง 4 นัด นั่นหมายความว่าถ้าเขาจะยังได้โอกาสลงสนามในฟุตบอลโลกครั้งนั้นต่อ อิตาลี ต้องไปให้ถึงรอบรองชนะเลิศเท่านั้น เพื่อการันตีว่าอย่างน้อย ถ้าไม่ได้เข้าชิง ก็ยังได้เล่นเกมแย่งอันดับ 3
และเมื่อ เด รอสซี่ โดนแบนถึง 4 เกม มันกลับกลายเป็นโอกาสให้ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ ได้ยึดตำแหน่งตัวจริงในแผงมิดฟิลด์แทนตลอดเกมที่เหลือ
อิตาลีที่อดใช้งานอดีตตำนานหมาป่ากรุงโรม ค่อยๆ กรุยทางไปไกลขึ้นเรื่อยๆ จากเอาชนะ สาธารณรัฐเช็ก จนซิวแชมป์กลุ่ม ตามด้วยผ่าน ออสเตรเลีย, ยูเครน และ เยอรมนี จนเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
ในเกมนัดชิง เด รอสซี่ พ้นโทษแบนกลับมาแล้ว แต่เขาต้องเริ่มต้นด้วยการนั่งดูเพื่อนที่ข้างสนามก่อน เพราะทีมกำลังลงตัว
แต่สุดท้ายก็อย่างที่เล่าไปตอนต้น เขาได้ลงสนามในฐานะตัวสำรอง ก่อนเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ มาร์เชลโล่ ลิปปี้ ไว้ใจให้ยิงจุดโทษ และพาทีมคว้าแชมป์โลกกลับประเทศได้อย่างยิ่งใหญ่
แล้วเพราะอะไร ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ถึงเป็น "ชายผู้ไม่เก็บเหรียญแชมป์โลก" ไว้ล่ะ?
จริงๆ เขาเก็บเหรียญแชมป์ เวิลด์ คัพ 2006 ไว้ตลอดนั่นแหละ แต่เขาเสียสละมันให้กับบุคคลที่เขาเคารพ
ในปี 2016 ปิเอโตร ลอมบาร์ดี้ อดีตเจ้าหน้าที่ชุดแข่งของทีมชาติอิตาลี เสียชีวิตอย่างสงบด้วยวัย 92 ปี
ลอมบาร์ดี้ ให้ความเอ็นดู เด รอสซี่ เหมือนความรักที่คุณปู่มอบให้หลาน ซึ่งการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ ลอมบาร์ดี้ สร้างความเจ็บปวดให้ เด รอสซี่ อย่างมาก
สิ่งที่อดีตกองกลางโรม่าทำ คือการสละเหรียญรางวัลที่มีค่ามากที่สุดเท่าที่ชีวิตนักฟุตบอลจะมีได้อย่างแชมป์ฟุตบอลโลก ลงไปในโลงศพของชายแก่ผู้เคยเหนื่อยทำความสะอาดชุดแข่งที่เปื้อนไปด้วยโคลนของเขานับครั้งไม่ถ้วน และให้ความเอ็นดู เด รอสซี่ มาโดยตลอด
เด รอสซี่ คิดว่าเกียรติยศนี้ มันสมควรเป็นของ ลอมบาร์ดี้ เช่นเดียวกัน
เพราะโลกนี้แทบไม่มีใครจดจำเจ้าหน้าที่ชุดแข่ง แต่ความจริงที่ว่า ตัวเองคือนักเตะแชมป์โลก มันจะยังคงอยู่ตลอดไป
ขออวยพรจากไกลๆ ตรงนี้ให้คุณมีความสุขอย่างที่สุด หลังจากประกาศแขวนสตั๊ดกับสโมสรสุดท้ายในอาร์เจนตินาอย่าง โบคา จูเนียร์ส เมื่อคืนนี้
คุณสมควรได้รับการ Respect ว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ทุ่มเทอย่างหนัก แต่มีความเห็นแก่ตัวน้อยที่สุดในโลก
"ดานิเอเล่ เด รอสซี่"
#เสียบสามเหลี่ยม #DeRossi #Roma #Italy #WorldCup2006 #BocaJuniors #Respect
ชอบกดไลค์ ถูกใจกดแชร์ และเพื่อไม่พลาดบทความคุณภาพจากเราทุกวัน กดไลค์เพจ และติดตามเพจแบบ See First ไว้เลยนะครับ
..สนใจติดต่อลงโฆษณา, สนับสนุนเพจ ติดต่อจ้างงานเขียนบทความฟุตบอล งานแปลข่าว เขียนสคริปต์สำหรับ Content ฟุตบอล หรือแปลหนังสือฟุตบอล ทักอินบ็อกซ์ สอบถามได้ตลอดเวลาครับ (ไม่รับโฆษณาเว็บพนันครับ)
6 บันทึก
25
3
6
25
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย