7 ม.ค. 2020 เวลา 09:16 • บันเทิง
กระบี่ไร้เทียมทาน ภาค 2...ตอนที่ 34
ความฉิบหายของบู๊ลิ้ม ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด...
ตอนนี้มีตัวละครสำคัญตายไปอีกหนึ่ง...เขาคือใคร โปรดติดตาม...
หลังจากไม้แห้งตายไปแล้ว มือรองๆที่เหลืออย่างเช่นเจ้าสำนักบู๊ตึง เง็กเจียะ...ก็สู้แบบไม่มีทางสู้ได้ ถ้าเป็นหนังไทยก็จะเห็นภาพแบบ...คนตัวโตกว่าเอามือค้ำหัวเอาไว้...ไอ้คนตัวเล็กกว่าจะชกก็ชกแบบว่ายน้ำ เพราะหมัดไม่ถึงอะไรแบบนั้น...จนในที่สุดเง็กเจียะต้องยอมไปเอง...
ดูคนอื่นมั่งว่าเจอยังไง...เง็กกวงเต้าหยิน ขานี้คงจบนายเรืออากาศมา ถนัดจู่โจมจากเบื้องบน...ก็เจอเม่งโต่วตอบโต้...อ๋อ มึงชอบจู่โจมจากเบื้องบนใช่มั้ย งั้นกูใช้กำลังภายในดันมึงให้เด้งๆลอยอยู่ไม่ให้ลงพื้น เหมือนเดาะวอลเล่ย์บอลยังไงยังงั้น...จนเง็กกวงเต้าหยินต้องยอมแพ้ ลงมาหมอบอ้วกแตกอ้วกแตนอยู่บนพื้น...
มังกรม่วง...ขานี้ก็นับว่าเป็นเจ้าแห่งกำลังทั้งภายในและภายนอก แต่พอปะทะกับเม่งโต่ว มังกรม่วงกลับถูกเม่งโต่วเทคโอเวอร์บังคับกำลังภายในได้ราวกับไม่ใช่กำลังของตนเอง...
เม่งโต่วอยากให้มังกรม่วงหน้าเป็นสีม่วง ก็เร่งเร้าพลังเข้ามา...มังกรม่วงแม่งก็หน้าเป็นสีม่วงบวมฉึ่งยังกะตายมาแล้วสามวัน...อยากให้หน้าซีด เม่งโต่วก็ดูดพลังกลับไป...มังกรม่วงก็กลายเป็นไก่ต้มไป
ในที่สุดมังกรม่วงก็ต้องเอ่ยปากยอมแพ้...
คนอื่นๆก็ทยอยกันมาสร้างความบันเทิงให้เม่งโต่ว...มีจับตีนไว้ห้อยหัวลงมั่งล่ะ ไล่เขกหัวแบบไม่มีทางตอบโต้มั่งล่ะ สารพัดที่เม่งโต่วจะหยอกล้อกับจอมยุทธระดับแนวหน้าของตงง้วน
เป็นอันว่า...จอมยุทธฝ่ายตงง้วนแพ้ต่อเม่งโต่วอย่างหมดทางสู้...การก่อสร้างตำหนักราชันตามคำสั่งของเม่งโต่ว จึงต้องเริ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้...
ขณะที่เม่งโต่วสยบยอดฝีมือชาวตงง้วนบนภูเขาบู๊ตึงไว้ได้อย่างหมดสิ้น...ทางด้านขโมยใต้ที่ล่วงหน้าออกจากวังฉื่อเท้งฮงไปก่อน ก็ไม่ได้ตรงไปกังหนำของตระกูลน่ำเก็งทันที...
เพราะลุงแกยังคาใจกับสะใภ้คนกลางตระกูลน่ำเก็ง...สะใภ้เกียง...
ครั้งนึงที่ขโมยใต้กับลูกศิษย์เคยนัดน่ำเก็งเม้งจูออกมาคุย แล้วเม้งจูออกมาไม่ได้ กลายเป็นสะใภ้เกียงที่ออกมารับหน้าแทน แล้วมีพฤติกรรมแปลกๆที่หาคำตอบไม่ได้...
ขโมยใต้ตามมาทันตอนคณะของตระกูลน่ำเก็งแวะพักโรงเตี๊ยมแห่งนึง...
แล้วก็บังเอิญมาแอบได้ยินการสนทนาระหว่างสะใภ้ใหญ่กับสะใภ้รอง...นัดแนะกันว่าค่ำนี้ให้ไปพบกันในป่าทางเหนือของโรงเตี๊ยม...บ๊ะ ลึกลับยังงี้ไม่สอดรู้สอดเห็นได้ไง...ขโมยใต้ก็แอบตามไป...
ที่ป่าทางเหนือของโรงเตี๊ยม...สะใภ้รองแซ่เกียงนัดพบกับคนคลุมหน้าคนนึง ไม่รู้กระซิบกระซาบอะไรกันอยู่สองสามคำ แล้วก็แยกจากกัน...ขโมยใต้เชื่อมั่นในวิชาฝีมือของตน ก็สะกดรอยตามคนคลุมหน้าไประยะนึง...
สักพัก คนคลุมหน้าก็หันมาส่งเสียงถาม...ต๊ะเอ๋ กูรู้นามึงตามกูมาตั้งนานแล้ว มีไรหรอ...ขโมยใต้หมดปัญญาที่จะซ่อนต่อ เลยต้องเปิดเผยตัว...ในใจยังสงสัยว่า ด้วยระดับฝีมือของตน...คนคลุมหน้ารู้ร่องรอยได้ยังไง...
แล้วก็มีคำตอบ เมื่อคนคลุมหน้าปลดผ้าคลุมลงมา...นางคือ เล่าไท้กุน แม่ใหญ่แห่งตระกูลน่ำเก็ง...ฝีมือระดับนี้ก็ไม่แปลกที่จะจับร่องรอยขโมยใต้ได้
...ไม่พอ...สองสะใภ้แซ่บ๊วยกับแซ่เกียง ก็เสนอหน้าออกมาพร้อม...คุยกันไม่กี่คำ สองสะใภ้ก็เข้าจู่โจม...
ลำพังแค่ฝีมือระดับสะใภ้สองคน ขโมยใต้พอประคองตัวได้...ก็พยายามจะหนี...แม่ใหญ่เลยต้องลงมือ
เพียงแค่ไม้เท้าแรกในมือ...แม่ใหญ่แห่งตระกูลน่ำเก็งก็กระแทกเอาหัวเข่าขวาของขโมยใต้แหลกละเอียด...แต่จอมขโมยยังดิ้นรนพยายามหาทางหนี...ก็โดนไปอีกไม้เท้า...เข่าซ้ายหักป่นปี้ตามไป...
ขโมยใต้กองอยู่กับพื้น...รู้ตัวว่าคราวนี้ไม่มีทางรอดแล้ว ก็ล้วงเข้าไปในอกเสื้อ...
“ระวังอาวุธลับ”...สองสะใภ้ร้องเตือนกัน
แต่เปล่า...สิ่งที่ขโมยใต้ล้วงออกมากลายเป็นนกพิราบ...พอปล่อยมือ นกก็โบยบินออกไป โดยที่ไม่มีใครยับยั้งทัน...
และนั่นก็เป็นแอ๊คชั่นสุดท้ายของขโมยใต้...ไม้เท้าในมือเล่าไท้กุนกระแทกโครมเข้าที่ทรวงอกขโมยใต้...ขาดใจตายทันที...
นกพิราบแสนรู้ตัวนั้นไม่ได้ส่งจดหมายใดๆ แต่ที่คอผูกประกาศิตน้ำเต้าปูปลาไว้...สำนึกท้ายๆของขโมยใต้คือ ไม่ยอมให้ประกาศิตของพรรคบัวขาว ตกไปอยู่ในมือตระกูลน่ำเก็ง...
เจ้านกแสนรู้ตัวนี้บินไปหาเจ้าหนู...ส่งป้ายประกาศิตให้กับมือ แล้วก็ยังบินนำกลับมา...จนเจ้าหนูมาเจอศพอาจารย์
...นอกจากร้องไห้ร้องห่มแล้ว...เจ้าหนูไม่มีเบาะแสอะไรบอกได้เลยว่า ใครฆ่าขโมยใต้...พอฝังศพเสร็จ ก็เดินมากับนกพิราบมาหาโรงเตี๊ยมพัก ก็เผอิญเป็นที่เดียวกับที่พวกน่ำเก็งพักอยู่...
ปล.
คนแต่งสงสัยจะเป็นนักเล่นหุ้น...
ทุบหุ้นบู๊ลื้มให้เยินก่อน...ช้อนซื้อ
แล้วค่อยให้พระเอกโผล่มา...หุ้นพุ่งติดจรวด
ขอบคุณทุก like ,share , comment , diamond อย่างสูงครับ
โฆษณา