070120
EP2 : กัญชา VS มะเร็ง !!!
https://images.unsplash.com/photo-1556928045-16f7f50be0f3?ixlib=rb-1.2.1&q=85&fm=jpg&crop=entropy&cs=srgb&dl=kimzy-nanney-b2haCjfk_cM-unsplash.jpg
“ขอเข้าคลินิกรับกัญชาแทนได้ไหม..ป้าไม่อยากใส่คีโมแล้ว”...
เสียงบ่นของคนไข้สูงอายุรายหนึ่งที่กำลังรักษาโรคมะเร็งรังไข่ด้วยการรับยาเคมีบำบัดบอกเรา ขณะที่เรากำลังจ่ายยากลับบ้านข้างเก้าอี้ให้ยาผู้ป่วย
เราหันหน้ามองสบตากับคุณพยาบาลอย่างเข้าใจกัน พลางหันกลับไปให้ข้อมูลกับแกเบื้องต้นเรื่องสารสกัดกัญชา แต่ดูทรงแล้วจะเป็นการสื่อสารทางเดียวเสียมากกว่า แกดูอยากจะพูดมากกว่าอยากจะฟังเรา
รับฟังแกซักระยะ จับใจความได้ว่า ลูกสาวสั่งจากใน Page FB ส่งมาให้หยดใต้ลิ้นในราคาขวดละ 3000 บาท มา 2-3 เดือนแล้ว แต่คือ หาเงินซื้อใช้ไม่ไหวเพราะแพง ป้าจึงอยากขอรับกัญชาฟรีจากในรพ.ซึ่งมีคลินิกกัญชาทางการแพทย์
คำถาม : ป้าใช้กัญชา เพื่อรักษามะเร็ง หรือเพื่อเหตุผลอื่นใด อาเจียนมาก นอนไม่หลับ หรือปวดจากตัวโรคมากจนทนไม่ไหว
.
.
.
ป้าส่ายหัว บอก “เปล่า ...ที่ใช้เพราะอยากจะหายจากมะเร็ง” ........
ช่วงที่ผ่านมา ประเด็นของการใช้กัญชาในการรักษามะเร็งเป็นที่พูดถึงกันมาก จนทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่า แท้จริงแล้วกัญชานั้นสามารถรักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือ?
จริงๆแล้ว ต้องบอกก่อนว่า ยาแผนปัจจุบันที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งนั้น กว่าจะออกมาจำหน่ายได้ ต่างก็มีจุดเริ่มต้นมาจากการศึกษาทดลองทั้งสิ้น ขั้นแรกจะนำสารสกัดมาทดลองในหลอดทดลอง เมื่อได้ผลที่พบว่ามีฤทธิ์ในการฆ่าเซลล์มะเร็งจึงจะนำมาทดลองต่อในสัตว์ และนำมาศึกษาในคน โดยต้องทำการศึกษาในกลุ่มทดลองและควบคุมเพื่อเปรียบเทียบ ทั้งในแง่ประสิทธิภาพและความปลอดภัย ซึ่งใช้ระยะเวลาในการศึกษาค้นคว้านานหลายปี กว่าจะสามารถขึ้นทะเบียนและผลิตยาออกมาจำหน่ายได้ หลังจำหน่ายก็ยังต้องติดตามและรายงานผลข้างเคียงจากการใช้ยากันไปอีกยาวๆ ในฐานะของยาใหม่ (ยาติดสามเหลี่ยม SMP)
ยาสามเหลี่ยม = ต้องติดตามความปลอดภัยด้านยาส่งอย.ทราบด้วยนะคะ
การวิจัยกัญชาทางการแพทย์ก็เช่นเดียวกัน ในปัจจุบันยังไม่มีผลการวิจัยที่ชัดเจนในเรื่องของขนาดยาที่เหมาะสมและฤทธิ์ในการรักษามะเร็งในมนุษย์
.
.
หากสมมุติฐานเชื่อว่า กัญชาสามารถรักษามะเร็งได้ก็จะต้องผ่านกระบวนการค้นคว้าทดลองเช่นเดียวกับยาตัวอื่นๆ เพื่อดูผลการทดลองว่าสารสกัดกัญชาจะสามารถรักษามะเร็งชนิดใดได้บ้าง เมื่อได้ผลการศึกษาวิจัยที่ชัดเจนแล้ว จึงจะสามารถนำสารสกัดมาใช้ในการรักษาคนไข้โรคมะเร็งต่อไป
การนำกัญชาที่ซื้อมาจากแหล่งใต้ดิน นอกจากจะผิดกฎหมาย เนื่องจากกัญชายังเป็นสารเสพติดประเภทที่ 5 แล้วนั้น อาจมีการปนเปื้อนของสารฆ่าแมลง และอื่นๆในกระบวนการปลูก ที่สำคัญคือปริมาณสารสกัดที่ได้นั้นอาจไม่มาตรฐาน ในส่วนของปริมาณความเข้มข้นที่ชัดเจน ส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงมากกว่าประโยชน์จากการใช้ และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อคนไข้เองได้
สำหรับสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ในสถานพยาบาลนั้น ที่มีงานวิจัยรองรับชัดเจนเกี่ยวข้องกับมะเร็ง คือ ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากยาเคมีบำบัดที่ใช้ยาป้องกันแผนปัจจุบันไม่ได้ผลเท่านั้น ซึ่งว่ากันตามตรง ไม่ค่อยมีเคสใช้ค่ะ เพราะยาต้านอาเจียนแผนปัจจุบันของเรามีให้ใช้มากมาย และยังสามารถควบคุมอาการได้...ยังเอาอยู่ หากปรับให้เหมาะสมกับสูตรยาเคมีบำบัด
Cannabis oil GPO ทั้ง 3 สูตร
ในส่วนการนำมาใช้กรณีอื่นๆยังคงต้องรอเวลาศึกษาค้นคว้าเพื่อให้มีหลักฐานสนับสนุนที่ชัดเจนก่อนค่ะ จึงจะเกิดประโยชน์ ซึ่งในปัจจุบันในคลินิกกัญชาทางการแพทย์ก็เพิ่มการนำมาใช้ในผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายเพิ่มมากขึ้น แม้งานวิจัยจะยังไม่ strongly มากนักก็ตาม
ซึ่งทราบมาว่า ขณะนี้มีการศึกษาวิจัยผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้สารสกัดกัญชาผ่านช่องทางพิเศษ ที่เรียกว่า Special Access Scheme หรือ SAS เพื่อรวบรวมผลการศึกษาจากการใช้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ ได้รวดเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็น 1 คนที่ผ่านการอบรมด้านการใช้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์แล้ว ก็ยังอยากให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกท่านใจเย็นๆและติดตามผลการวิจัยกันต่อไปก่อนเพื่อความปลอดภัย อย่าเพิ่งละทิ้งการรักษาแผนปัจจุบัน และหากมีข้อสงสัยเรื่องการใช้สารสกัดกัญชาสามารถปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ได้นะคะ ..
.
.
เพราะกัญชามีหลายสายพันธุ์ สารสกัดก็แบ่งออกเป็นสัดส่วนต่างๆกัน และมีฤทธิ์ที่ต่างกัน รวมถึงผลข้างเคียงก็ต่างกันไปด้วย (THC, CBD , THC:CBD)
.
.
. มีตำรับแผนไทยที่มีกัญชาผสมอยู่อีกหลายตำรับที่สามารถให้บริการได้ในสถานพยาบาลที่มีคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ลองศึกษาและติดตามกันดูนะคะ :)
kapook.com
กรมการแพทย์
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
