Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ฝ
ฝันเฟื่อง
•
ติดตาม
8 ม.ค. 2020 เวลา 18:32 • บันเทิง
เรื่องสั้น -คบเพลิงรัก-
ไอ้ดุ่ยมันชอบอ้อม แต่อ้อมนั้นชอบจักร
อ้อมสวยจนผู้ชายในโรงเรียนทุกคนต่างรู้จัก ไม่เว้นแม้กระทั่งภารโรง ดีไม่ดีพ่อเพื่อนในห้องเรียนยังรู้ว่าอ้อมสวย ส่วนจักรก็หล่อเชิดเฉิดฉาย ทำอะไรก็ดูดี ขนาดสะดุดล้มสาวๆ เห็นยังปรึกษากันอยากเอาร่างกายเข้าไปช่วยพยุง
ส่วนไอ้ดุ่ยหน้าปานกลาง แถมนิสัยเกเร มันก็ดังพอตัว กิตติศัพท์ด้านร้ายๆ ของมันยี่สิบสี่ชั่วโมงก็อาจสาธยายได้ไม่หมด
จักรกับอ้อมคนชื่นชมทั้งโรงเรียน เก่งทุกด้านสร้างชื่อให้สถาบันมีเกียรติเกริกไกร ไอ้ดุ่ยก็ใช่ย่อย มันเองก็สร้างชื่อในทางเสื่อมเสียจนคนทั้งอำเภอคีรีรัฐนิคมต่างอิดหนาระอาใจ
วันนั้นเป็นวันแข่งกีฬาสี อ้อมได้รับหน้าที่วิ่งคบเพลิงคนสุดท้ายเพื่อมาจุดตามตำแหน่งที่ซ้อมไว้ ไอ้ดุ่ยดันละเลยไม่มาทบทวนการเปิดวาวล์แก๊สให้ถี่ถ้วน ห่วงจะไม่ได้เล่นพนันตอนเลิกเรียน พอถึงคราวจุดคบเพลิงที่กระถาง ไอ้ดุ่ยหมุนวาวล์ซี้ซั้ว ดลให้ไฟลุกพรึ่บดุจระเบิดในสงคราม ซ้ำร้ายรอบๆ คบเพลิงดันประดับริ้วด้วยวัสดุติดไฟง่ายอีก กลายเป็นว่าอ้อมคือนางฟ้าในดงอัคคีไปในบัดนั้น
ขณะครู นักเรียนแตกตื่นเอาตัวรอด มีเพียงจักรที่โถมวิ่งไปยังต้นเพลิงซึ่งโอบร่างอ้อมตามคำยุยงของเพื่อนๆ หมายช่วยชีวิตคนสวยสุดกำลัง
ไอ้ดุ่ยล่ะ? มันอยู่ไหน? ทั้งที่มันเองอยู่ใกล้กับอ้อมมากสุด กลับหายหัวไปไหน? หรือคิดเอาตัวรอดไปอีกคน?
ครั้นจักรฝ่าดงเพลิงมาถึงจุด เขากลับเห็นไอ้ดุ่ยลากอ้อมพ้นหายไปยังที่ลับตา จักรกลับยืนดูอยู่เงียบๆ เหลียวซ้ายแลขวา แววตาวิตกกังวล ไม่นานเขาก็ตัดสินใจติดตามไป เขาจึงได้เห็นไอ้ดุ่ยถอดกางเกงตัวเองอยู่ ขณะกางเกงของอ้อมถูกถอดเรียบร้อย! เธอนอนสลบเหมือดไม่ได้สติ หารู้ไม่ไอ้ดุ่ยกำลังจะทำอะไรกับร่างกายเธอ
“อ้อม!” จักรตะโกนเรียกพลางทุ่มฝีเท้าเข้าไปหาเธอ ผลักไอ้ดุ่ยออกห่าง
พอดีกับเพื่อนของจักรเฮตามมาช่วยเหลือ มีคนหนึ่งกำลังถ่ายคลิปวีดีโอจากโทรศัพท์มือถือ เห็นร่างไอ้ดุ่ยท่อนร่างเปลือยเปล่า เกิดสบถลั่นทันที “ไอ้ดุ่ย ไอ้เฮงซวย!”
“พลั่ก!!!” หมัดลุ่นๆ ของจักรเหวี่ยงเปรี้ยงกระแทกแก้มไอ้ดุ่ยเต็มเปา
ร่างไอ้ดุ่ยทรุดลง มือจับแก้ม สายตาขวาง กัดฟันกรอดจนเลือดซึมออก คาดน่าจะเป็นจากแรงชกของจักร
“ไปเลยนะไอ้เฮงซวย มึงนี่เลวตลอดเวลา!” คนถ่ายคลิปแผดด่า เท่านั้นแหล่ะ,คำด่าอีกชุดใหญ่โถมใส่ไอ้ดุ่ยทันที
ใบหน้าคั่งแค้นของไอ้ดุ่ยกวาดมองทุกคน มันทำได้เแค่นั้น อาจจะเกรงกำลังที่เยอะกว่าตัวมันจะรับมือ ไม่กี่อึดใจมันก็ยอมผละจากไป
จักรกับเพื่อนๆ ต่างรีบเข้าไปช่วยอ้อมให้ปลอดภัย
…………………………
“ลาออก!” เพื่อนจักรอุทานถึงไอ้ดุ่ย เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวันกีฬาสี “ลาออกยังน้อยไป ต้องให้มันติดคุก หลักฐานก็เห็นอยู่ชัดๆ” คลิปไอ้ดุ่ยลุกลามไปยังอุปกรณ์สื่อสารทั่วอำเภอคีรีรัฐนิคม เผลอๆ จะทั่วประเทศเอาด้วยซ้ำ
“ช่างมันเถอะ อย่าพูดถึงอีก อ้อมเขาไม่อยากได้ยิน” จักรปรามเพื่อนให้ยุติการพูดถึงฝันร้ายในวันก่อน เพื่อนก็ว่าง่าย พร้อมใจกันเงียบในทันควัน
“แล้วนี่อ้อมเขาตกลงกับแกแล้วหรือ?” เพื่อนในกลุ่มรายหนึ่งเปรย
จักรยิ้มก่อนตอบ “ใช่ตกลงกันแล้ว จบมอหกเมื่อไหร่ค่อยเปิดตัว จะได้ไม่ขัดใจพ่อแม่สองฝ่าย”
…………………………
วัฏจักรของคนดำเนินไปตามกฎ จักรกับอ้อมแต่งงานมีลูกสองคน ครอบครัวสุขสันต์ หน้าที่การงานมั่นคง เรือนหอหลังใหม่ปลูกสร้างในเขตพุนพิน อนาคตอันโชติช่วงชัชวาลย์อยู่ใกล้เพียงมือเอื้อม
ไอ้ดุ่ยล่ะ? ด้านไอ้ดุ่ยน่ะเรอะ เฮอะ… หลังจากทนอับอายไม่ไหวมันก็ลาออก เก็บข้าวของย้ายไปพำนักยังเกาะสมุย หาเงินประทังชีวิตด้วยการเป็นพนักงานเก็บขยะตามชายหาด ก็แหงล่ะ ไม่จบ ม.6 แถมมีแต่เรื่องอัปยศ จะให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไงเล่า!
ทว่าพฤติกรรมมันต่างกับสมัยเรียนราวนรก-สวรรค์
ตื่นเช้าไปเป็นเด็กวัด ตามพระไปบิณฑบาต กลับมาค่อยออกไปเก็บขยะตามหาด หัวค่ำยังไปรับจ้างทิ้งขยะตามร้านรวง แลกกับเศษเงินไว้สมให้เพิ่มพูน อบายมุขทั้งหลายไม่แตะต้อง ทำเหมือนกับไม่รู้จัก เลิกบุหรี่ เลิกเหล้า กินประหยัด อดออม ไม่คุยใหญ่คุยโตเหมือนเมื่อก่อน วันๆ นิ่งเงียบจนบางคนคิดว่ามันเป็นใบ้
ข้อแปลกประหลาดเดียวของมันคือชอบเถียงพระ ทั้งที่มันเองยังต้องพึ่งพิงวัด มันมักมีน้ำเสียงงุ่นง่านเมื่อพระเทศนา ‘ความดี’ ให้มันฟัง
มันย้ำอยู่บ่อยๆ จนหลวงพี่ส่ายหน้าเอือม “ความจริงย่อมมาก่อนความดี” ก็ไม่รู้มันไปยึดเอาคำสอนจากอรหันต์ท่านใดก็มิทราบ
ชีวิตของมันวนเวียนเรียบง่ายอยู่อย่างนี้จนกระทั่ง…..
“ดุ่ยใช่ไหมคะ?” ไม่เพียงไอ้ดุ่ยจะจำน้ำเสียงได้ ตลอดจนทุกประการของผู้หญิงคนนี้ ไอ้ดุ่ยไม่มีวันลืมตลอดกาล
แน่ใจว่าไอ้คนเก็บขยะคือไอ่ดุ่ยเมื่อกาลก่อน อ้อมก็ไม่ลังเล จัดแจงให้ลูกชายทั้งสองคนแสดงความเคารพไอ้ดุ่ย ตัวมันยังประหม่า ออกจะงกๆ เงิ่นๆ รับไหว้ทายาทคนสวยแทบไม่ทัน
เสร็จจากการทักทาย อ้อมหน้าเปลี่ยนสี ดูโศกเศร้าระคนอับอาย ละม้ายได้ล่วงเกินหรือทำผิดร้ายแรงต่อไอ้ดุ่ยไว้
จากกันไปเกือบสิบปี ไยอ้อมถีงตามมาเจอมัน เธอสูดลมหายใจลึกสุดปอดสามสี่ครั้ง ขณะไอ้ดุ่ยเริ่มน้ำตารื้น
ที่สุดอ้อมบอกสาเหตุการมาให้มันฟัง…..
…………………………
“พวกเธอชอบกันก็ที่นี่ แต่งงานก็ที่นี่ งานเลี้ยงรุ่นก็มาทุกปี เธอสองคนน่ารักมาก” ครูหญิงกล่าวชมต่อหน้าธารกำนัล ถึงคู่รักในตำนาน จักร-อ้อม แห่งมัธยมวัดถ้ำสิงขร
“ใครชวนไอ้ดุ่ยกูเลิกคบ” เพื่อนร่วมรุ่นกล่าวแซว หลังสุราพร่องไปกว่าครึ่งขวด
“โอ้ย บัดซบอย่างไอ้ดุ่ยแค่นึกถีงยังเปลืองสมอง” อีกคนขานรับติดตลก และมันก็ตลกสำหรับพวกเขาเสียด้วย เนื่องเพราะเสียงหัวเราะฮาครืนบังเกิดขึ้นจากทุกคน ไม่เว้นแม้แต่อ้อมยังยิ้มฟันขาวไปอีกคน
งานเลี้ยงตามเวลาเลิกรา แต่กับกลุ่มเพื่อนยังไม่ยอมยุติโดยง่าย จักรกับอ้อมก็ไม่ยอมแพ้ เพียงแต่อ้อมไม่ดื่มเหมือนจักรกับเพื่อนๆ จังหวะหนึ่งอ้อมทอดมองไปยังกระถางคบเพลิง จึงชักชวนเพื่อนๆ รวมทั้งจักรไปรำลึกเหตุการณ์ ไม่มีใครปฏิเสธ บางคนเหน็บขวดเหล้ากับเครื่องเคียงติดไปด้วย
จักรต้องให้เพื่อนพยุงไป ตัวเขานั้นเมามายจนหมดหล่อไปนานแล้ว ดีนะยังสื่อสารรู้เรื่อง เพื่อนจึงยอมลากเขาติดมาด้วย
คุยกันไปมาจักรค้านเพื่อนเพราะบอกผิด “ไม่ใช่โว้ย ไอ้ดุ่ยมันถอดกางเกงอ้อมออกเพราะติดไฟ ส่วนตัวมันจะถอดกางเกงให้อ้อมใส่ จะได้ไม่อายไง!” อารามพรึงเพริดวาบขึ้นทุกใบหน้าที่คบเพลิง บางคนถึงกับสร่างเมาเมื่อได้ยิน จักรกระดกเหล้าอีกอึกก่อนระบายเรื่องหนหลัง “มันเอามือปัดกางเกงอ้อมจนไฟดับ แล้วค่อยถอด เพราะมันจะเปลี่ยนให้ นี่ๆ---” จักรชี้นิ้วไปที่ต้นขาอ้อม “เห็นไหมล่ะ อ้อมมีแผลไฟลวกตรงนี”
“อย่างนั้นไอ้ดุ่ยก็บริสุทธิ์ซีวะ?” เพื่อนคนถ่ายคลิปถามเสียงสั่น
“ก็เออซี่ กูแค่รอจังหวะฉวยโอกาส เพราะรู้พวกมึงจะตามมา” ไม่มีใครคาดคิดจะได้ยินเรื่องนี้จากปากจักร ทุกคนไม่ได้หูหนวก ซ้ำไม่ได้หูฝาด นี่มันยิ่งกว่าข่าวราคายางตกต่ำเสียอีก
เท่านั้นแหล่ะ คำถามมากมายโถมไปหาจักรพัลวัน อ้อมยืนซึมเหมือนหุ่นยนต์ถูกปิดสวิตช์ แววตาเลื่อนลอยไร้สติ
น้ำเสียงของจักรเปลี่ยนผัน เมื่อเพื่อนร่วมเค้นถึงตัวเขา “ก็มันไม่เห็นกูในสายตาไง มันคิดว่าสวยคนต้องจีบมัน เชอะ! พอกูสบโอกาสกูเลยคิดได้ จริงๆ กูแค่กะเข้าไปช่วยเพื่อให้ตามหากูเพื่อขอบคุณ กูจะได้ไม่ต้องลดตัวไปตามจีบตามง้อ แต่พอพวกมึงมากูเลยต้องเปลี่ยนแผน”
จักรไม่แยแสต่อน้ำตาอ้อมที่หลั่งริน เขาโทรนัดสาวอีกคนพร้อมเดินจากกลุ่มไปโดยไม่มีล่ำลา
คืนนั้นอ้อมร้องไห้จนไม่อยากกลับบ้าน เพื่อนเจ้ากรรมก็ดันมาซ้ำเติม บอกแก่อ้อมภายหลังโทรไปเจรจาก้บจักรว่าให้ตายยังไงจักรก็ไม่เลิก ไม่หย่า เพราะมรดกทางบ้านอ้อมสามารถปรนเปรอจักรได้ตลอดชีวิต ซ้ำอ้างทะเบียนสมรสคือเครื่องยืนยันให้เจ็บช้ำไปอีกแผล
อย่างไรก็ตาม เพื่อนย่อมคือเพื่อน ทั้งหมดให้กำลังใจอ้อมหลังงานเลี้ยงจบลง กระทั่งล่วงเลยไปสองเดือน อ้อมลุกขึ้นบอกกับเพื่อนๆ ในการนัดทานอาหารเย็น “อย่างน้อยก็ต้องคืนความยุติธรรมให้คนที่ไม่ผิด!” ในเมื่อตอนนั้นทั้งหมดได้ลงมือพิพากษา ประหนึ่งสังหารคนให้ตายจากคีรีรัฐนิคม
…………………………
“ดุ่ยเขาไม่เอาอะไรสักอย่าง ขออยู่แบบนั้นนั่นแหล่ะ” อ้อมกลับมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง ถีงการถ่อไปสมุยเพื่อชำระความจริง
“อะไรวะ เราให้ตำแหน่งงานดีๆ เงินเดือนเยอะกว่าหลายเท่าตัวมันยังปฏิเสธ”
“หรือมันยังโกรธอยู่?”
“ไม่หรอก” อ้อมค้าน “ดุ่ยเขาอายมากกว่า ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่กล้ามาเจอหน้าพวกเราอีก” ทุกคนสลดลง เพราะครั้งนั้นมันเท่ากับรวมหัวกันฆ่าคนให้สิ้นชื่อ
อาหารบนโต๊ะถูกสั่งมาเลี้ยงแมลงวันโดยแท้ ไม่มีใครกระเดือกของอร่อยลงคอได้อีก
…………………………
งานเลี้ยงรุ่นเวียนมาอีกคำรบ ผู้อำนวยการกล่าวปรารภคุณงามความดีต่างๆ ของบุคลากรในโรงเรียน ต่อไปเป็นพิธีมอบใบเกียรติคุณแก่อ้อม ศิษย์เก่าคนสวยคนดังของสถานศึกษาแห่งนี้
หล้งถือใบเกียรติคุณกับถ่ายรูปเรียบร้อย อ้อมทำบางอย่างกับใบนั้น เอาปากกาขีดฆ่าแล้วเขียนบางอย่างลงไปใหม่ ทุกสายตาจับจ้องด้วยความประหลาดใจ กระนั้นหามีผู้ใดทักท้วง อ้อมเดินหายไปหลังคบเพลิง พิธีกรบนเวทีส่งสัญญาณให้เปิดเพลงเพื่อดำเนินพิธีการต่อ
ความโกลาหลขนาดย่อมเกิดขึ้น เหล่าเพื่อนร่วมรุ่นต่างกรูไปทางหลังคบเพลิง ที่ไม่ใช่เพื่อนก็ขอเสนอหน้าวิ่งตามไปด้วยเหมือนกัน กลายเป็นไทยมุงหย่อมหนึ่งสะกดให้พิธีการต้องชะงัด
“ไอ้ดุ่ยล่ะอ้อม?” คำถามแรกจากเพื่อน เขาเห็นอ้อมยืนหันหลังหน้าผินไปนอกรั้ว
อ้อมตอบในท่านั้น “ไปแล้ว”
“ไปแล้ว?” มีคนทวนคำด้วยงุนงง “มันได้บอกอะไรไหม?” น้ำหน้าอย่างมันจะบอกอะไรได้ ครั้งหนึ่งมันเคยทำการบ้านถูก ครูยังหาว่ามันลอกเพื่อนเลย
อ้อมหันมาปะหน้าเพื่อนๆ ครู และคนอื่นๆ เต็มบริเวณกระถางคบเพลิง “เขาไม่ได้บอก แต่เราอยากบอก”
ทั้งโรงเรียนเงียบรอฟัง ขนาดผู้อำนวยการถึงกับกลั้นหายใจ
“ทุกคนจำคำอ้อมไว้นะ ถ้าเราจะขอบคุณใครสักคนในชีวิต คนๆ นั้นก็คือ ดุ่ย”
จบคำเสียงมอเตอร์ไซค์สตาร์ทเครื่อง อ้อมหันไปส่งยิ้มให้ยังต้นเสียง มอเตอร์ไซค์เคลื่อนไปช้าๆ เพื่อนสนิทอ้อมพร้อมใจกันปรี่ไปยังแนวรั้ว พร้อมกับเสียงสรรเสริญหลากหลายตามแต่ใครจะนึกได้ ไม่นานก็มีเสียงปรบมือทั่วโรงเรียนดังกึกก้อง น่าจะดังจนสะเทือนไปถึงแผงไข่เค็มที่อำเภอไชยาก็ไม่เกินเลยนัก
คืนนั้นมีคนแวะมาชนแก้วไม่ก็มาแสดงความยินดีกับอ้อมไม่ขาดสาย แต่ทุกคนล้วนพูดเหมือนกัน “ขอบคุณดุ่ย” จนเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งกว่าเรื่องแต่งแบบละครหลังข่าว
ผ่านพ้นกาลเวลา อ้อมหย่ากับจักรได้สำเร็จ เธอยื่นเงื่อนไขเด็ดขาด ถ้าอยากมีใหม่ก็ต้องหย่า จักรไม่อิดออด ตกลงไปอำเภอเพื่อลงนาม อ้อมมีความสุขกับครอบครัว ส่วนจักรย้ายถิ่นไปปลูกปาล์มแถวไชยบุรีกับภรรยาใหม่ ซึ่งสวยสู้อ้อมไม่ได้แม้สักฝุ่น หนำซ้ำดุร้ายหึงหวง ขู่ร่ำๆ เช้าเย็นจะจับตอนถ้าจักรคิดเป็นอื่น
ส่วนคนเก็บขยะที่เกาะสมุยยังตั้งหน้าตั้งตาทำงานไม่มีเปลี่ยน ปัจจุบันเลิกเถียงพระ ทำให้พระดูอ่อนกว่าวัยผ่องใสขึ้นก่ายกอง เพราะไม่ต้องมานั่งอธิบายอะไรยากๆ ให้คนสมองทึบฟัง
นับจากนั้น อ้อมยุติการไปงานเลี้ยงรุ่น ชักชวนเพื่อนให้ไปเกาะสมุยแทน แถมมิได้ไปตั้งวงดื่มรำลึกความหลังแต่อย่างใด พวกเขาบำเพ็ญตนด้วยการตระเวณเก็บขยะทั่วเกาะ ทำไปทำมารู้สึกเกิดประโยชน์จึงลงขันก่อตั้งหน่วยอาสาขึ้น
ที่ตั้งหน่วยเป็นซุ้มปิดแบบป้อมยามหลังเล็ก มีใบประกาศเกียรติคุณจากโรงเรียนมัธยมคีรีรัฐนิคมแปะอวดข้างฝา ทุกคนบนเกาะต่างรู้ดีถึงประธานหน่วยผู้ตั้งมั่น
เพราะป่านนี้ประธานยังออกไปเก็บขยะไม่กลับมา
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย