9 ม.ค. 2020 เวลา 11:09 • ธุรกิจ
จัตุคามรามเทพ เทพที่เลือนหาย (ราคา)
หากย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน คงไม่ผิดหากจะพูดว่ากระแสความนิยมจตุคามรามเทพพุ่งแรงสู่จุดสูงสุดในระดับปรากฏการณ์ อย่างที่วัตถุมงคลอื่นใดไม่สามารถทำได้มาก่อน ในวงการพระเครื่องกล่าวว่า จตุคามรามเทพคือวัตถุมงคลที่มีกระบวนการพัฒนาต่อยอดไปอย่างถึงที่สุด นับตั้งแต่การออกแบบ มวลสารและวัตถุดิบที่นำมาผลิต รวมถึงพิธีกรรมบูชาต่างๆ
1
ช่วงเวลานั้นคนทั้งประเทศแห่กันไปยังเมืองนครศรีธรรมราช ที่เป็นต้นกำเนิดของจตุคามรามเทพ ทำให้ทั้งเมืองคึกคักครึกครื้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน กิจการต่างๆ ในเมืองนครได้รับประโยชน์จนเข้าสู่สภาวะ “ขาขึ้น” ถ้วนหน้า โรงแรม ร้านอาหารมียอดลูกค้าเต็มแทบตลอดทั้งปี นอกจากนี้ สายการบินต่างๆ มีผู้ใช้บริการจำนวนมากจนต้องเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมายังนครศรี แม้แต่วินมอเตอร์ไซค์ก็แทบไม่มีวิ่งรับคนเพราะต้องไป วิ่งส่งจตุคามฯ กันหมด
แต่ช่วงเวลานั้นก็อยู่ได้เพียงสั้นๆ ....
3 ปีหลังจากที่จัตุคามพีคมากสุดๆ หลังจากนั้นราคาก็ค่อยๆตกลงไปเรื่อยๆ บางรุ่นถูกลงไปถึง 50-80 % เอาง่ายๆเรียกได้ว่าถูกลงเกินครึ่งเกือบทั้งนั้น
เรียกได้ว่า จัตุคามนั้นเป็นตัวอย่างของฟองสบู่ที่ใกล้ตัวคนไทยที่เกิดขึ้นจริง
==============
จัตุคามมีต้นกำเนิด และที่มาอย่างไร ??
==============
เป็นที่ยอมรับกันในกลุ่มผู้นับถือว่า จตุคามรามเทพมีความเกี่ยวพันกับอดีตบูรพกษัตริย์ของอาณาจักรศรีวิชัย โดยเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งที่มีพระนามว่าพระเจ้าจันทรภาณุ ผู้ทรงสถาปนาอาณาจักรศรีวิชัย สถาปนาเมือง 12 นักษัตรหรือกรุงศรีธรรมาโศกราช พร้อมทั้งลงหลักปักฐานพระพุทธศาสนาอย่างถาวรบนแผ่นดินศรีวิชัย-สุวรรณภูมิ จนได้รับเทิดพระเกียรติให้เป็น “พญาศรีธรรมาโศกราช”
==============
ไขปริศนาทำไมถึงดัง ??
==============
.
จัตุคามรามเทพ มีการสร้างรุ่นแรกในปี 2530 โดยในช่วงแรกที่สร้างขึ้นมานั้น ไม่มีใครสนใจ ขายองค์ละไม่กี่สิบบาท จนกระทั่งในปี 2542 ก็เริ่มมีคนให้ความสนใจมากขึ้นเนื่องจากมีผู้นำไปใช้และมีประสบการณ์บอกกันในลักษณะปากต่อปากว่า
.
“บูชาแล้วค้าขายดี บูชาแล้วธุรกิจไม่มีปัญหา บูชาแล้วสามารถอธิษฐานขออะไรก็ได้” สรุปสั้นๆ ก็คือ “ขอได้ ไหว้รวย”
.
ต่อมาในปี 2547 เริ่มมีการสร้างจตุคามรามเทพกันเพิ่มกันหลายรุ่นเพราะเริ่มมีคนสนใจและจากนั้นก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และมาถึงจุดพีคในปี 2549 ต่อเนื่องมาถึงปี 2550 จนทำให้ราคาของจตุคามรุ่นแรกที่เปิดจำหน่ายในราคาแค่ 49 บาทพุ่งสูงขึ้นแตะหลักล้าน
==============
ทำไมราคาถึงตก ??
==============
ต้นปี 2550 เรียกได้ว่าคือจุดสูงสุดของฟองสบู่จัตุคาม มีการปลุกเสกกันเป็นรายวัน ทั้งที่นครศรีธรรมราชเองและที่อื่นๆ เฉพาะม.ค.เดือนเดียวก็มีสร้างแล้วกว่า 30 รุ่น และมีเบ็ดเสร็จรวมทุกรุ่นในปี 2550 มากกว่า 100 รุ่น !!
ในช่วงที่ถึงจุดพีคของจัตุคามนั้น หลายรุ่นยังไม่ทันเททองเลย ใบจองก็หมดแล้ว เรียกว่า การสร้างพระใหม่ๆ ในเวลานั้นถ้าไม่ใช่จตุคามฯ ก็แทบจะขายไม่ได้เลย
และตามกฎของเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น คือ เมื่อ Supply นั้นมากกว่า Demand ราคาของสิ่งนั้นก็จะลดลง
และนี่คือ ความเห็นของคุณ รัฐพล แก้วประทุม ชายหนุ่มเจ้าของแผงจตุคามฯ รายหนึ่งที่ให้ความเห็นเรื่องราคาที่ตกลงอย่างรุนแรงของจัตุคามครับ
“เพราะการจัดสร้างมากเกินไปและไม่พิถีพิถันครับ คนที่วิ่งเข้ามาเหมือนคนเข้ามาเล่นหุ้น ต้องการซื้อถูกแล้วขายแพง เป็นปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูดคนเข้ามาเกี่ยวข้องกับจตุคามฯ เยอะ ทำให้กระแสพุ่งขึ้นไป ทีนี้พอสร้างกันมากๆ เข้า ความพิถีพิถันก็น้อยลง โรงงานรับผลิตก็มีความเห็นแก่ตัว หมายความว่ารับงานไว้เยอะมาก จนต้องปั๊มพระ (เหรียญจตุคามรามเทพ) ทั้งวันทั้งคืน งานก็ไม่มีคุณภาพ ผู้สร้างเองเมื่อกำหนดวันทำพิธีปลุกเสกล่วงหน้าแล้ว พอถึงเวลาพระไม่เสร็จก็เอากล่องเปล่ามาทำพิธี ทีนี้คนเช่าก็เริ่มรู้ระแคะระคายว่าพระบางรุ่นไม่ได้รับการปลุกเสก ก็ทำให้กระแสความนิยมเสื่อมลงเรื่อยๆ”
.
จะว่าไปแล้วฟองสบู่ทุกรูปแบบนั้นก็จะมี Pattern คล้ายๆกับแบบจัตุคามนี่แหละครับ ผมสรุปให้สั้นเป็นขั้นตอนดังนี้
1.ราคาค่อยๆขึ้นมาเรื่อยๆ
2.เริ่มโด่งดังจะกลายเป็นกระแสมวลชน (Massive)
3. เริ่มมี Demand เทียมเข้ามาเยอะขึ้นเรื่อยๆ (พวกไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเก็งกำไรจะซื้อถูกขายแพงอย่างเดียว)
4.ข้อนี้แล้วแต่ Product คือ Supply ออกมาเยอะมากๆ เริ่มมีการทำ Product แปลกๆมากขึ้นเช่น ใบจอง
5. ตู้ม!! เละ
และนี่เองก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ จัตุคามรามเทพ กลายเป็นเพียงเทพที่เลือนหาย (ราคา)
ขอบคุณเเหล่งที่มา
โฆษณา