นักวิจัยค้นพบหลุมอุกกาบาตปริศนาที่เคยชนโลกเมื่อ 790,000 ปีก่อน บริเวณที่ราบสูงโบลาเวน ประเทศลาว หลังจากตามหากันมากว่า 100 ปี!!!
Cr.Carly Ottenbreit
🌏🌏เมื่อเหล่านักธรณีวิทยาทั่วโลกสำรวจการกระจายตัวของหินแร่ชนิดพิเศษชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "อุลกมณี (tektite)" ซึ่งแท้จริงแล้วพวกมันก็คือทรายที่อยู่บนผิวโลกแต่โดนอุกกาบาตพุ่งชนอย่างรุนแรง จนหลอมเหลวกระเซ็นขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ แล้วเย็นตัวแข็งกลางอากาศก่อนตกลงสู่พื้นดิน โดยหินแร่ชนิดนี้มีการกระจายตัวหนาแน่นเป็นพิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคออสเตรเลเชีย (Australasian) และอินโดจีน (Indochina) ที่พบว่า tektite มีการกระจายตัวครอบคลุมพื้นที่ถึง 20% ของพื้นผิวโลก ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องมีหลุมอุกกาบาตขนาดมหึมาซ่อนตัวอยู่แน่ๆ แต่จนแล้วจนรอดนักธรณีวิทยาก็ไม่เคยค้นพบมันแม้จะสำรวจมาแล้วมากกว่า 100 ปี
แสดงก้อนอุลกมณี (tektite) รูปร่างต่างๆที่พบในภูมิภาคออสเตรเลเชียและอินโดจีน Cr.http://earthsci.org/space/space/tektites/tektites.html
แผนที่ธรณีวิทยาแสดงการกระจายตัวของอุลกมณี (tektite) ทั่วโลก แต่บริเวณทุ่ง tektite ของภูมิภาคออสเตรเลเชียและอินโดจีนกลับพบการกระจายครอบคุลมหนาแน่นสูงเป็นพิเศษถึง 20% ของพื้นผิวโลก Cr.http://earthsci.org/space/space/tektites/tektites.html
🔬🔬 💫💫 ข่าวดีก็มาถึงเมื่อในที่สุดทีมนักวิจัยนานาชาติจากสิงค์โปร์และไทยได้ตีพิมพ์รายงานการวิจัยในวารสาร PNAS ในวันที่ 30 พ.ย. ปี 2019 ที่ผ่านมาถึงหลักฐานการค้นพบตำแหน่งที่แน่นอนของหลุมอุกกาบาตที่คาดว่าจะกระทบโลกเมื่อราว 790,000 ปีก่อน ในบริเวณที่ราบสูงโบลาเวน (BOLAVEN PLATEUA) ประเทศลาว
🌒🌒 ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่มาในการกระจายตัวหนาแน่นของหินอุลกมณีอย่างเป็นปริศนาในภูมิภาคออสเตรเลเชีย หลังจากความพยายามในการตามหากันมานานกว่า 100 ปี โดยทีมนักวิจัยได้พัฒนาเครื่องมือตรวจวิเคราะห์ทางธรณีเคมี (geochemical) ธรณีฟิสิกส์ (geophysical) และ กาลธรณีวิทยา (geochronological) เพื่อยืนยันการค้นพบหลุมอุกการบาตที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 17 × 13-km ที่ซ่อนตัวอยู่ลึกลงไปในพื้นผิวของลาวาที่เย็นตัวลงโดยแพร่กระจายกินพื้นที่กว่า 5,000 ตารางกิโลเมตรในที่ราบสูง
แผนที่แสดงจุดที่คาดว่าอุกกาบาตจะตกกระทบผิวโลกเมื่อราว 790,000 ปีก่อน ในบริเวณที่ราบสูงโบลาเวน Cr. Kerry Sieh et.al, 2019
🌟🌟แต่ทำไมการสำรวจก่อนหน้านี้ถึงไม่เคยพบหลุมอุกกาบาตนี้เลย เนื่องจากการสำรวจก่อนหน้านี้มุ่งไปหาแหล่งที่คาดว่าจะเป็นจุดกระทบแถวจีนและกัมพูชาตอนเหนือแทน เพราะมีบริเวณชั้นหินบะซอลต์ทางธรณีวิทยา (basalt-เป็นหินที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวาอย่างรวดเร็วบนพื้นผิวโลกซึ่งบ่งชี้ถึงกระตกกระทบของอุกกาบาตได้) ที่มีความเป็นไปได้มากกว่านั่นเอง
💡💡 แต่งานวิจัยก่อนหน้ากลับมองข้ามบริเวณที่ราบสูงภูเขาไฟเก่าแก่อย่างบริเวณที่ราบสูงโบลาเวน นับเป็นโชดที่ทีมวิจัยในงานวิจัยชุดนี้ที่ได้สำรวจชั้นหินลาวาแข็งตัวแล้วพบว่ามันมีอายุอยู่ในช่วงราว 5,100-780,000 ปีซึ่งอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวกับช่วงเวลาที่คาดว่าอุกกาบาตพุ่งชนโลกเมื่อ 790,000 ปีก่อนพอดี แต่ยังขาดหลักฐานที่หนาแน่นยืนยัน
นักวิทยาศาสตร์สำรวจรูปร่างของอุลกมณี (tektite) และอายุทางธรณีวิทยาของลาวาบริเวณที่ราบสูงโบราเวน โดยพบว่ามันมีช่วงอายุคาบเกี่ยวกับช่วงที่อุกกาบาตพุ่งชนโลกเมื่อ 790,000 ปีก่อนพอดี
📌📌 เพื่อยืนยันว่าอุกกาบาตที่ตามหาเคยตกกระทบบริเวณที่ราบสูงโบราเวนจริง ทีมวิจัยได้ทำแผนที่ธรณีฟิสิกส์รอบๆบริเวณที่ราบสูง โดยการเจาะหลุมตัวอย่างกว่า 400 จุดเพื่อทำแผนที่แรงโน้มถ่วง
🔍🔍ทีมวิจัยพบว่าบางจุดในที่ราบสูงมีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่าหินภูเขาไฟบริเวณรอบๆอย่างผิดปกติ ซึ่งบ่งชี้ถึงโพรงหลุมที่เกิดจากการพุ่งชนของอุกกาบาต ประกอบกับการค้นพบหลักฐานว่าพื้นที่รอบๆมีผลึกแร่ quartz crystal ซึ่งเป็นหินแร่พิเศษที่พบเฉพาะบริเวณปากปล่องหลุมอุกกาบาตเท่านั้น การทดสอบทางธรณีวิทยาเพิ่มเติมก็ยืนยันหลักฐานว่าหินชุดนี้มีอายุราวๆช่วงที่คาดว่าอุกกาบาตจะตกกระทบโลกพอดี ข้อมูลทั้งหมดจึงบ่งชี้อย่างหนักแน่นว่าที่ราบสูงโบราเวนคือตำแหน่งตกกระทบจริงแท้แน่นอน !!!
การสำรวจหินแร่ quartz crystal และตรวจวัดอายุรอบๆ บริเวณที่คาดว่าจะเป็นปล่องหลุมอุกกาบาตช่วยยืนยันสมมุติฐานที่ว่ามีอุกกาบาตพุ่งชนโลกเมื่อ 790,000 ปีก่อนบริเวณที่ราบสูงโบราเวนจริง ในบริเวณเมืองปากซอง แขวงจำปาศักดิ์ของประเทศลาว Cr.Kerry Sieh et.al, 2019
อ้างอิง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
