090120
Ballenberg, Swiss Open-Air Museum
, Brienz, Switzerland 🇨🇭
ใกล้ถึงฤดูกาลท่องเที่ยว พักผ่อนประจำปีของเราแล้ว ช่วงนั่งเตรียม plan สำหรับปีนี้ เราเปิดดูรูปเก่าๆแล้วอดคิดถึง Open Air Museum แห่งนี้ไม่ได้ เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์และอยากแนะนำให้เพื่อนๆที่สนใจค่ะ
museum มีช่วงเวลาเปิดให้เข้าชมของปีนี้ช่วงวันที่ 9 เมษายน-20 พฤศจิกายน 2563 นะคะ , ตอนนี้ยังปิดให้บริการช่วงหน้าหนาวอยู่ค่ะ (เปิดทำการเวลา 10:00 - 17:00 น.)
บรรยากาศระหว่างทาง :)
ช่วงที่เรามีโอกาสได้ไป เป็นช่วง Summer เดือนกรกฎาคมที่ทุ่งหญ้า ใบไม้เขียวไปหมด อากาศสบายๆ 20-22 องศาค่ะ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เดิมทีไม่อยู่ใน List เลย (หรือเรียกว่าไม่รู้จักเลยก็ว่าได้) วันนั้นตั้งใจจะขึ้นจุงเฟราแต่พบว่าสภาพอากาศไม่อำนวย เลยนั่งหา plan B แทน มีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าของโรงแรม The Alpina Ringgenberg ที่เราพักอยู่ เค้าแนะนำว่า หากอยากศึกษาวิถีชีวิตชาวสวิสแท้ๆให้ไปที่นี่ดูนะ นั่งรถไฟไปไม่นาน และนับเป็นพิพิธภัณฑ์แบบ Open Air ที่เราประทับใจมากกกกกกก ก ไก่ (สิบ)ล้านตัว 💕
การเดินทาง แค่เปิด SBB app ทุกอย่างดูง่ายไปหมดเรานั่งบัสออกจาก Ringgenberg ต่อรถไฟมาลงเมือง Brienz และต่อรถประจำทางมา Ballenberg สามารถใช้ตั๋ว swiss pass เข้าได้ฟรี โดยเค้าจะมี sticker ติดประจำตัวและแจกแผนที่เพื่อเป็น Guide ในการท่องเที่ยวค่ะ
ผังแสดงจุดต่างๆในพิพิธภัณฑ์
จะมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆเป็นระยะๆ เพื่อคอยให้คำแนะนำหากเรามีข้อสงสัย ซักถาม มีการแสดงทอผ้า ทำชีสเป็นรอบๆที่กำหนด
.
.คุณลุงใจดีท่านนึง ถึงขั้นพาเราไปเปิดโกดังเก็บชีส (ที่ล็อคกุญแจไว้ ไม่ได้เปิดให้ชม) เนื่องจากคุณลุงคนดูแลตำแหน่งนี้สื่อสารอังกฤษไม่ได้ เค้าเข้าใจว่าเราอยากดูแต่จริงๆคือเราสอบถามทางไปไหนซักที่ 555 น่ารักจริงๆค่ะ
ชีส!!!!
งานแสดงการทอผ้า คล้ายคลึงกับของบ้านเราเลยค่ะ สวยงามไปคนละแบบ
มีแปลงสาธิตปลูกพืช ผัก เลี้ยงสัตว์ โบสถ์ และอาชีพต่างๆของคนสวิสในภูมิภาคต่างๆ คือเยอะมาก และเรา ก็สามารถเก็บครบทุกจุดในMap โดยใช้เวลาเกือบวันเต็มแบบอิ่มใจ อิ่มปอดสุดๆ เพราะอากาศดีมากกกกกกจริงๆค่ะ
ให้รูปแทนคำบอกเล่านะคะ :)
แปลงเกษตรหลากชนิด รวมถึงไร่องุ่นหลากสายพันธุ์ ขออภัยรูปไร่องุ่นไม่ได้เอาลงค่ะ หน้านางแบบเด่นกว่ามาก (ใหญ่) 555
Barn
บ้านทุกหลังในพิพิธภัณฑ์ ล้วนมีประวัติความเป็นมา และสามารถเข้าชมได้ทุกห้อง ทุกชั้นค่ะ
ภายในบ้านแต่ละหลัง มีความแตกต่างกัน ตามแต่ยุคสมัย
จำได้ว่าคุณลุงสาธิตเกี่ยวกับ water mill
ที่ประทับใจอีกจุดหนึ่งสำหรับเภสัชกรแบบเรา คือ Drug store ภายใน museum มีทั้ง history ด้านสมุนไพร และอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงมีจำหน่ายยาจากสมุนไพร พวกน้ำมันหอมระเหย spray พ่นคอที่มีส่วนประกอบน่าสนใจ คล้ายๆ Kamillosan, Propolis spray ที่มีจำหน่ายในบ้านเราแต่ส่วนประกอบดู advance กว่านิดๆ (มีแบบผสม root Echinacea ด้วย) ราคาที่ขายในdrug store อาจดูสูงนิดนึงตามค่าครองชีพของเค้า แต่ถือว่ารับได้นะคะ ที่นี่ทำให้เราขลุกอยู่เกือบชั่วโมงไปแบบเพลินๆเลยทีเดียว
Drug store@Ballenberg museum
ระหว่างทาง เราพบเจอหลายๆครอบครัวพากันมาเที่ยว มาพักผ่อน ที่นี่มีฟาร์มปศุสัตว์มากมาย ทั้งหมู ไก่ วัว กระต่าย แพะ
.
.
มีบ้านหลังหนึ่งที่เราจะพบเด็กๆตัวจิ๋วๆกำลังนั่งวาดรูป เย็บ/ปักผ้า อย่างน่ารัก น่าเอ็นดู...
.
.
ในโรงไม้ เปิดโอกาสให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้ลงมือเลื่อยไม้เองจริงๆ
.
.
มีจุดให้ปิ้ง-ย่างอาหารระหว่างทางด้วยค่ะ มีครอบครัวหนึ่งชวนเราทานไส้กรอกย่างด้วยกัน ด้วยภาษาสวิสเยอรมันบวกรอยยิ้ม น่ารักมากค่ะ :) ไม่กล้าทานด้วย กลัวน้องไม่อิ่ม 😁 ภายในmuseum มีร้านอาหารให้ฝากท้องได้ค่ะ
bratwurst (เมนูนี้เกือบ 80% trip 😊 สำหรับเรา..รอดและชอบมาก)
เรายกให้ที่นี่เป็นที่เที่ยวสำหรับคนทุกเพศทุกวัย (ยกเว้นเดินลำบากนะคะ) ให้ได้มาพักผ่อน เรียนรู้วัฒนธรรมและธรรมชาติค่ะ ^^
ขออนุญาตแล้วน้าาา แชะ !! ^^
เพลินๆกันไปค่ะ
มีโอกาสจะพาเที่ยวกันอีกนะคะ :)
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
