12 ม.ค. 2020 เวลา 12:03 • ปรัชญา
ลมเปลี่ยนทิศ
ชีวิตของเราเปรียบเสมือนเรือใบที่ล่องอยู่ในทะเล โดยตัวเรามีหน้าที่รับผิดชอบหางเสือเพื่อบังคับเส้นทางการเดินเรือให้ไปในทิศทางที่เราต้องการ หลายครั้งที่เราต้องเคลื่อนเรือออกนอกเส้นทางเพื่อหลบลมพายุ และหลายครั้งเราไปได้ไกลกว่าที่เราคิดไว้ เพราะ มีลมมาหนุนให้เราไปได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ทั้งนั้นทิศทางลมเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถบังคับหรือกำหนดได้ เราทำได้เพียงประคับประคองเรือของเราให้เคลื่อนไปอย่างปลอดภัยที่สุด เพราะ “ความไม่แน่นอน คือ สิ่งที่แน่นอน” คลื่นลมที่สงบอาจจะเปลี่ยนมาเกรี้ยวกราดได้อย่างไม่มีเหตุผล และทำให้เรามีวันที่เหนื่อยยากในการล่องเรือแห่งชีวิต
เคยสังเกตุมั้ยว่าความลำบากทั้งกายและใจที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา ส่วนมากจะมาจากปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น วันนี้เจ้านายอารมณ์ไม่ดีเลยให้เราแก้งานใหม่ทั้งหมด แล้วเราก็หงุดหงิดใส่ลูกน้องของเราอีกทีนึงเป็นขั้นตามกันไป ถ้าเจอวันที่แย่บ่อยๆเข้า อาจจะทำให้เราท้อแท้และน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง
แต่อย่างไรก็ตามเราต้องไม่ลืมว่า “ลมเปลี่ยนทิศ” ได้เสมอ เมื่อชีวิตถึงจุดวิกฤติที่แย่ที่สุดแล้ว สิ่งต่อไปที่จะเกิดขึ้นได้ก็ มีเพียงสิ่งที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ เพราะ มันไม่มีอะไรที่จะเลวร้ายไปกว่านี้ได้แล้ว ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ แม้ว่าฟ้าจะยังดูหม่นเศร้าแต่อย่างน้อยฟ้าก็หยุดร้องไห้แล้ว เพื่อเตรียมยิ้มรับแสงแดดและสายรุ้งที่จะตามมา
#ปั้นลมเป็นเรื่อง
โฆษณา