13 ม.ค. 2020 เวลา 04:44 • บันเทิง
Little Women
เวอร์ชั่นใหม่ ไฉไลกว่าเดิม
เวอร์ชั่นใหม่ ใสกริ๊บและสนุกกว่าเดิมมากมาย โดยผู้กำกับคนดังอย่าง “เกรต้า เกอร์วิก” จาก ‘Lady Bird’ นำแสดงโดยนักแสดงคุณภาพอย่าง “เซียร์ซ่า โรแนน” และ “เอ็มม่า วัตสัน”
ต้องบอกว่า “เกรต้า เกอร์วิก” ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ
ใครที่เคยดู ‘Lady Bird’ (2017) น่าจะพอนึกสไตล์ของผู้กำกับและเขียนบทท่านนี้ออก ส่วนตัวคิดว่ามันมีเอกลักษณ์และถ่ายทอดมุมมองแบบผู้หญิงได้อย่างตรงไปตรงมา (และตรงใจ) ที่สำคัญ...มีสไตล์อย่างบอกไม่ถูก
“Little Women” เวอร์ชั่นล่าสุด (2019) ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น “เกรต้า” หยิบยกเรื่องราวเมโลดราม่า (ประโลมโลก) สุดคลาสสิกของ “หลุยซ่า เมย์ อัลคอทท์” มาถ่ายทอดได้อย่างมีสไตล์และน่าติดตามมาก โดยปรับรื้อลำดับการเล่าเรื่องใหม่และหยิบยกเรื่องราวของ “โจ” (เซียร์ซ่า โรแนน) พี่สาวคนที่สองตระกูลมาร์ชมาเป็นเส้นเรื่องหลัก
นอกจากนี้ยังแยกเนื้อเรื่องเป็น 2 ส่วนคือวัยเด็กและวัยผู้ใหญ่ แต่ไม่ได้เล่าตามเส้นเวลาปกติ กลับเลือกเล่าเรื่องราวสองส่วนนี้สลับกันไปมา ผ่านมุมมองของ “โจ” (เซียร์ซ่า) ให้เราได้เรียนรู้และทำความรู้จักกับตัวละครบ้านมาร์ชคนอื่นๆ ได้แก่ “เม็ก” (เอ็มม่า วัตสัน) พี่สาวคนโตผู้ใฝ่ฝันจะมีครอบครัวอบอุ่น “เอมี่” (ฟลอเรนซ์ พิวห์) ว่าที่จิตรกรสาวที่รักอิสระแต่ซื่อตรงกับความรู้สึกตนเอง และ “เบธ” (เอลิซ่า สแกนเลน) น้องสาวคนเล็กผู้มีเสียงดนตรีในหัวใจ
ส่วนตัวคิดว่าเป็นวิธีที่ชาญฉลาด ทำให้เรื่องน่าติดตามและมีสีสัน เพราะเอาจริงๆ...เรื่องนี้เป็นหนังรีเมคและมีคนดูไม่น้อยที่พอจะรู้เรื่องอยู่แล้ว การเล่าสลับไปมาทำให้เราได้เห็นลำดับเรื่องที่แตกต่างและทำให้การติดตามเนื้อเรื่องไม่น่าเบื่อ ที่สำคัญ...มันเก๋ เพราะ “โจ” เป็นนักเขียน การเล่าแบบนี้ทำให้การผูกเรื่องให้โจนำเรื่องราวของพี่น้องไปเขียนเป็นนิยาย (ซ้อนนิยาย) มันแนบเนียนมากขึ้น
ส่วนตัวเราเป็นคนชอบอ่านนิยาย...ทำให้น่าจะเป็นสาเหตุให้เราปลื้มเรื่องนี้เป็นพิเศษ จริงๆก็ปลื้มตั้งแต่เวอร์ชั่นที่แล้ว แต่น่าจะประทับใจเวอร์ชั่นนี้มากกว่า ซึ่งก็น่าจะเป็นไปตามยุคตามสมัย ตามอายุ...ที่โตขึ้นและมีมุมมองต่อสิ่งต่างๆรอบตัวที่เปลี่ยนไป
เฉกเช่นการเจริญเติบโตของสาวๆในเรื่องนี้ ถ้าเมื่อก่อนเรามองว่า “Little Women” เป็นแค่หนังประโลมโลกบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของสี่สาวพี่น้องที่ตามหาความฝันของตนเอง เราก็จะได้มุมมองที่แตกต่างในเวอร์ชั่นนี้ โดยเฉพาะมุมที่ว่าด้วยเรื่องของความเป็นผู้ใหญ่...ที่ซับซ้อนและบางทีก็ขมเกินกว่าจะทำใจยอมรับได้
ชีวิตของ “โจ” (เซียร์ซ่า) น่าจะใกล้เคียงกับชีวิตของหญิงสาวรุ่นใหม่มากที่สุดแล้ว เพราะเธอทั้งหัวขบถ เป็นตัวของตัวเอง รักอิสระมากพอๆกับต้องการจะพึ่งพาตัวเองมากกว่าจะยืนด้วยความช่วยเหลือจากคนอื่น (โดยเฉพาะผู้ชาย) ซึ่งสมัยนั้น (ยุคหลังสงครามวัฒนธรรมในอเมริกา) ตัวละครประเภทนี้ก็มักได้เป็นตัวเอก บ่งบอกมุมมองและสิ่งที่คนในยุคนั้นใฝ่ฝัน
เมื่อเรามอง “โจ” จากมุมมองของคนยุคนี้ หลายคนก็อาจเบื่อหน่าย เพราะก็แทบไม่ต่างจากนางเอกละครน้ำเน่าบ้านเราที่อยากจะเข้มแข็งและเป็น “นางเอก” อย่างเต็มตัว แต่สำหรับ “โจ” ในเวอร์ชั่นนี้ของ “เกรต้า” กลับทำให้เราหลงรักเธอมากกว่า ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะการตีความตัวละครใหม่ของ “เกรต้า” รวมท้ังเสน่ห์เฉพาะตัวของ “เซียร์ซ่า โรแนน” ด้วย ซึ่งเราก็เคยเห็นฝีไม้ลายมือของเธอมาแล้วจาก “Lady Bird” เรื่องนั้นเธอก็เปรี้ยวได้ใจทีเดียว...ทั้งหัวแข็ง ทั้งรั้น แต่ก็น่าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก
รวมๆเราคิดว่าเนื้อเรื่องอาจคาดเดาได้เพราะเป็นรีเมค แต่วิธีเล่าที่แตกต่างของเวอร์ชั่นนี้ทำให้เรื่องประโลมโลกรุ่นเดอะไม่น่าเบื่อ แถมน่าติดตาม และถ้าดูดีๆเราก็จะได้มุมมองที่แตกต่างและพอร่วมรุ่นร่วมสมัยกับเราได้บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ว่าจะยุคไหนรุ่นไหนก็ไม่เคยง่าย
ภาพจากเวอร์ชั่น 1994
ชีวิตของสี่สาวบ้านมาร์ชก็เช่นกัน วัยเด็ก...โลกที่ไม่ซับซ้อน มีแต่ความใสซื่อ เรื่องใดๆปัญหาใดๆก็ดูจะแก้ไขได้ง่ายดาย ต่างจากโลกของผู้ใหญ่ที่มีเรื่องต้องคิดมากกว่านั้น เรื่องที่เคยคิดว่าแก้ง่ายในวัยเด็กอาจแก้ไม่ได้ง่ายๆในวัยผู้ใหญ่
ส่วนตัวคิดว่าวุฒิภาวะน่าจะเป็นหนึ่งในประเด็นหลักๆของเรื่องนี้ เพราะแม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เรื่องนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ “สอนยาก” และ “รับมือยาก” การเติบโตของสี่สาวในเรื่องก็น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีว่าการใช้วุฒิภาวะ(ที่ดีและไม่ดี)เพื่อแก้ปัญหาจะให้ผลลับแบบไหน
เอาเป็นว่าเป็นรีเมคที่น่าประทับใจทีเดียว ไม่ได้ฆ่าเวอร์ชั่นเก่า แต่เลือกเล่าด้วยมุมมองใหม่ๆทำให้เราพลอยได้ข้อคิดใหม่ๆตามไปด้วย เรียกว่า...แม้เนื้อเรื่องจะ(ประโลมโลก)เก่าๆ แต่มุมมองไม่เก่าเลยทีเดียว
#ประทับใจมาก
#แอบสปอยล์
โฆษณา