16 ม.ค. 2020 เวลา 03:30 • ประวัติศาสตร์
John Wayne Gacy – The Killer Clown
ตอนที่ 3
การฆ่าเด็กแมคคอยทำให้เกซี่ค้นพบความหฤหรรษ์แบบใหม่ เขานึกย้อนกลับไปถึงค่ำคืนที่สถานฌาปนกิจในลาส เวกัสแล้วก็เข้าใจกระจ่าง เขาชอบเด็กผู้ชายนั่นไม่ต้องสงสัยเลย แต่ที่มากกว่านั้นคือเขาหลงใหลในร่างไร้วิญญาณของพวกนั้นด้วย และถ้าเป็นร่างที่เขาพรากชีวิตไปด้วยมือตัวเองแล้ว มันคือสุดยอดปรารถนา
เกซี่ขุดหลุมฝังร่างของแมคคอยไว้ใต้ถุนบ้าน ความรู้สึกแปลกใหม่เข้าครอบครองตัวเขาทุกอณู ความต้องการสิ่งที่ค้นพบใหม่รุนแรงขึ้นเหมือนภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิด การกลับไปมีเซ็กส์แบบเดิมเป็นเรื่องจืดชืดไร้รสชาติ
>>> บันเทิง <<<
รู้ว่าเขาต้องการเหยื่อเพื่อมาปรนเปรอตัวเอง เกซี่เริ่มวางแผนระยะยาว อย่างแรกเลยเขาต้องเป็นที่ยอมรับของชุมชน นั่นคืองานถนัดอยู่แล้ว แต่ก่อนอื่นเขาต้องมีครอบครัวที่มั่นคงเสียก่อน คนส่วนใหญ่จะไว้ใจชายผู้รักครอบครัว
วันที่ 1 กรกฎาคม 1971 เขาเข้าพิธีสมรสครั้งที่สองกับแครอล ฮอฟฟ์ เพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยม แครอลพาลูกสาวสองคนมาอยู่ด้วย มันช่างสมบูรณ์แบบ หัวหน้าครอบครัวผู้เป็นที่รักของชุมชน ภรรยาสาวผมบลอนด์แสนสวย และลูกสาวที่น่ารักอีกสองคน อืม...ครอบครัวตัวอย่างแท้ ๆ
แครอลรู้ว่าสามีใหม่เคยติดคุกมาก่อนและรู้ด้วยว่าจากข้อหาอะไร แต่เกซี่ยืนยันกับเธอว่าเขาไม่ใช่คนเดิมเหมือนเมื่อก่อน เขาได้เปลี่ยนไปแล้ว
ซึ่งนั่นก็จริง...เขาไม่ได้โกหกเธอ
เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังแต่งงาน เกซี่ขับรถโอลส์โมบิลของเขาเข้าเมือง รุ่นเดลต้าเป็นรถยอดฮิตในยุคนั้น เหตุผลหนึ่งเพราะกรมตำรวจก็ใช้รุ่นนี้ เขาเปิดไซเรนเมื่อเห็นเด็กจรจัดเดินอยู่ข้างทาง ขับรถเข้าไปหยุดข้าง ๆ แล้วแสดงตราตำรวจปลอมสั่งให้วัยรุ่นจรจัดคนนั้นขึ้นรถ เกซี่ขับรถออกไปที่เปลี่ยวและบังคับให้เด็กใช้ปากช่วยสำเร็จความใคร่ให้เขา
เด็กหนุ่มฟ้องตำรวจและเกซี่โดนจับ แต่สุดท้ายก็ถูกปล่อยตัวเพราะตำรวจมองว่าเด็กคนนั้นพยายามที่จะแบล็คเมล์เกซี่
ในส่วนถัดมาของแผนคือการเป็นที่ยอมรับของชุมชน เขาใช้ความสามารถเดิมคือการเข้าไปมีส่วนช่วยในงานการกุศลต่าง ๆ เกซี่ทุ่มเทกับสิ่งนี้มาก หลายครั้งที่เขาใส่ชุดตัวตลก Bogo ไปงานรื่นเริงของเด็ก ๆ งานวันเกิดหรือไปเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ไม่นานเกซี่ก็เป็นที่ยอมรับนับถือ ทุกคนจำภาพเขาเป็นชายใจดีชุดตัวตลก ชุมชนของเขารักชายผู้นี้
เกซี่ลาออกจากงานพ่อครัวและบริษัทก่อสร้างเพื่อเปิดบริษัทรับเหมาของตัวเอง PDM Contractors, Inc. (Painting, Decorating and Maintenance) ซึ่งตรงนี้นี่เองที่เขาสามารถเข้าถึงหนุ่ม ๆ ที่เขาต้องการได้อย่างง่ายดาย เกซี่บอกเพื่อน ๆ ว่าเขาจ้างเด็กวัยรุ่นเป็นรายชั่วโมงมาทำงานรับเหมาเพื่อช่วยประหยัดงบ มันถูกกว่าจ้างช่างฝีมือมาประจำตั้งเยอะ แล้วพวกเด็ก ๆ ก็ชอบด้วย
แต่เหตุผลจริง ๆ แล้วคือเด็กพวกนี้หลอกง่าย เกซี่ติดประกาศรับสมัครงานไปทั่วเมือง เมื่อมีคนโทรมาเขาจะเรียกมาพบที่บ้านเพื่อสัมภาษณ์ เกซี่ชวนชายหนุ่มที่พินอบพิเทาเพราะอยากได้งานไปคุยในห้องทำงานส่วนตัว หลังจากนั้นก็หลอกเด็กเหล่านั้นว่าเขาจะแสดงมายากลให้ดู
เกซี่จะใช้กุญแจมือกับเหยื่อและบอกว่าจะสอนวิธีสะเดาะมันออกให้ดู มันได้ผลทุกครั้ง เด็กทุกคนเชื่อและยอมให้เขาสวมกุญแจมืออย่างง่ายดาย หลังจากนั้นเขาจะใช้โซ่ล่ามที่ลำตัวและพันรอบคอเด็กเอาไว้ เด็กเหล่านั้นกลายเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัวพวกเขาถูกเกซี่ใช้กางเกงชั้นในอุดปากและปิดด้วยเทปกาวไม่ให้ส่งเสียง
เมื่อเหยื่อถูกพันธนาการจนแน่นหนาแล้ว เกซี่จะเปลี่ยนเป็นชุดตัวตลกสุดโปรดของเขาก่อนจะลงมือข่มขืนเหยื่อที่ไม่มีทางสู้ทางด้านหลัง ระหว่างนั้นเขาจะใช้แรงดึงโซ่ที่รัดคอไปด้วยจนกระทั่งเหยื่อขาดใจตาย
จำนวนศพที่ถูกฝังใต้ถุนบ้านของเกซี่เพิ่มจำนวนมากขึ้นจนกระทั่งเพื่อนบ้านเริ่มบ่นเรื่องกลิ่นแปลก ๆ ที่โชยมาจากบ้านของเขา เกซี่อ้างว่าน่าจะเป็นท่อน้ำเสียแตก เขาสัญญาว่าจะหาทางแก้ไข เพื่อนบ้านต่างพากันเชื่อเพราะเกซี่เป็นขวัญใจของชุมชน
เกซี่ยังสนุกกับการล่าเหยื่อ เขามั่นใจว่าอะไรก็หยุดเขาไม่ได้
>>> ติดปีกบิน <<<
พฤษภาคม 1975 เกซี่บอกกับแครอลว่าเขาและเธอจะไม่มีเซ็กส์กันอีกต่อไป เขาไม่ได้ต้องการเธอในเรื่องบนเตียง
.
“ผมชอบเด็กผู้ชาย” เกซี่ยอมรับกับภรรยาตรง ๆ
นั่นไม่ได้ทำให้แครอลแปลกใจ ช่วงเวลาที่อยู่กับเขา เกซี่มักจะวางหนังสือโป๊ที่หรือภาพถ่ายของเด็กชายเปลือยไปทั่วบ้าน บ่อยครั้งที่เธอเห็นเด็กหนุ่มเปลี่ยนหน้าเข้ามาที่บ้าน ทุกคนเข้าไปขลุกอยู่กับเกซี่ในห้องทำงานเป็นเวลานานและนั่นทำให้ความอดทนของเธอถึงที่สุด เดือนตุลาคมแครอลฟ้องหย่าสามีและพาลูกสาวสองคนย้ายออกไป
สมบูรณ์แบบ นั่นให้ทุกอย่างยิ่งง่ายขึ้นเขามีอิสระและความคล่องตัวที่จะทำอะไรก็ได้ เกซี่ทุ่มเวลาให้กับงานของชุมชนเต็มที่กว่าเดิมซึ่งสร้างความสะดวกโยธินให้เขาในการเข้าถึงเด็กวัยรุ่นชาย จำนวนศพใต้ถุนบ้านเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เขาพาใครก็ตามกลับมาบ้าน
เมื่อถึงศพที่ 26 พื้นที่บริเวณใต้ถุนก็แออัดจนไม่มีที่ว่างอีกต่อไป เกซี่ใช้เวลาช่วงกลางดึกขุดหลุมที่สนามหญ้าหลังบ้านแล้วฝังศพที่ 27…28 และ 29 แต่ศพจำนวนมากในที่เดียวกันดูจะมากเกินไปสักหน่อย ไหนจะเรื่องกลิ่นและความเสี่ยงที่จะมีคนมาเห็นเขาขุดหลุมบนสนามหญ้าอีก เขาต้องหาทางออก เกซี่ตัดสินใจนำศพที่เขาฆ่าหลังจากนั้นใส่ท้ายรถไปที่สะพานนอกเมืองแล้วทิ้งลงแม่น้ำเดส โมอิเนส…
30…
31…
32…
.
.
>>> ศพที่ 33 <<<
ในยุค 70 ถือเป็นยุคที่มีเด็กหนีออกจากบ้านจำนวนมาก หลายคนออกไปแสวงหาตัวตน หลายคนติดยาเสพติด อีกหลายคนหายสาบสูญไปจากโลกนี้จริง ๆ ทางการได้รับแจ้งจากครอบครัวมากมายให้ตามหาลูก ๆ ของพวกเขา แต่ตำรวจทำอะไรมากไม่ได้เพราะมีคนหายอยู่ทุกวัน วันละหลายคน
เหยื่อของเกซี่ส่วนใหญ่ก็ถูกเชื่อว่าเป็นความตั้งใจของเด็กเองที่หนีไป ไม่อยากให้ใครพบเจอจึงไม่ติดต่อกลับบ้าน นั่นทำให้การทำงานของตำรวจไม่มีความเข้มข้นเพียงพอซึ่งส่งผลให้เกซี่เหิมเกริมยิ่งกว่าเดิม
วันที่ 11 ธันวาคม 1978 เป็นวันเกิดครบรอบ 46 ปีของอลิซาเบธ เพียสต์ คืนวันนี้ทุกคนในครอบครัวนัดกันว่าจะมาร่วมงานวันเกิดของเธอที่บ้าน อลิซเบธตั้งใจจะขับรถไปรับโรเบิร์ต ลูกชายวัยสิบห้าที่ทำงานในร้านขายยานิสสัน ฟาร์มาซีในเดส โมอิเนสหลังเลิกงาน
ร้านขายยามีแผนจะตกแต่งร้านใหม่ เจ้าของร้านจึงเรียกผู้รับเหมามาดูหน้างานเพื่อตีราคา PDM Contractors ถูกเลือกให้มาทำงานนี้เพราะชื่อเสียงดูไว้ใจได้ เกซี่ขับรถมาถึงร้านและปรึกษากับเจ้าของร้านถึงรูปแบบร้านใหม่ที่จะต้องทำ เมื่อทราบความต้องการของลูกค้าแล้วเขาปลีกตัวไปใช้ตลับเมตรวัดขนาดพื้นที่เพื่อคำนวณงบประมาณ
เด็กหนุ่มโรเบิร์ตเห็นเจ้าของร้านเสร็จการพูดคุยกับผู้รับเหมาแล้วจึงเดินเข้าไปหา
.
“เจ้านายครับ ผมมีเรื่องอยากคุยด้วย”
เจ้าของร้านหันมา
“คือ...ผมทำงานที่นี่มาหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่สัปดาห์หน้าผมขอเพิ่มค่าจ้างหน่อยได้ไหมครับ ผมจำเป็นต้องใช้ช่วงซัมเมอร์?”
“ที่แกได้อยู่ก็มากแล้วนะ นี่ดูสิ” เขาชี้ไปที่เกซี่ผู้กำลังจดขนาดพื้นที่ "ฉันกำลังจะปรับปรุงร้านและต้องใช้เงินอีกเยอะเลย รออีกซักพักเถอะ”
เด็กหนุ่มหน้าหมองแต่เขาทำอะไรไม่ได้ งานในเมืองนี้ไม่ได้หาง่าย ๆ เสียด้วย แผนซัมเมอร์นี้คงต้องเลื่อนไปก่อน
บทสนทนาทั้งหมดเข้าหูเกซี่ เขารอจังหวะที่เจ้าของร้านขายยาเดินไปที่อื่นแล้วเข้าประชิดเด็กหนุ่ม
.
“เธอชื่ออะไร?”
“เพียสต์ครับ โรเบิร์ต เพียสต์”
“ฉันชื่อเกซี่ เธออยากได้งานที่จ่ายเงินดี ๆ ใช่มั้ย สนใจมาทำกับฉันหรือเปล่า?”
นั่น ทำให้โรเบิร์ตสนใจทันที
“ฉันจ่ายได้มากกว่าที่นี่แน่นอนแต่งานก็หนักขึ้นด้วย งานก่อสร้างน่ะเธอก็น่าจะรู้ คิดว่าไหวหรือเปล่า?”
“ไหวแน่นอนครับ”
“งั้นเลิกงานฉันจะกลับมาคุยรายละเอียดกับเธอ อย่าเพิ่งกลับบ้านล่ะ”
โรเบิร์ตโทรฯบอกแม่ของเขาว่าไม่ต้องมารับ เขามีนัดคุยเรื่องงานใหม่กับผู้รับเหมาหลังเลิกงาน เขาจะกลับบ้านเองหลังจากนั้น
.
“เขาให้ชั่วโมงละตั้งห้าเหรียญแน่ะแม่” อลิซาเบธได้ยินลูกบอกทางโทรศัพท์
.
นั่นคือครั้งสุดท้ายที่เธอได้ยินเสียงลูกชาย
.
จบตอนที่ 3
==============================
โฆษณา