Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
มีเวลาสักห้านาทีมั้ย
•
ติดตาม
17 ม.ค. 2020 เวลา 03:30 • ประวัติศาสตร์
John Wayne Gacy – The Killer Clown
ตอนที่ 4 - ตอนจบ
เวลาผ่านไปจนดึกมากแล้วเมื่อลูกชายยังไม่กลับมาร่วมงานวันเกิด ด้วยความเป็นห่วงอลิซาเบธขับรถพาสมาชิกครอบครัวที่เหลือทั้งหมดมาถึงร้านขายยาแต่ไม่พบใคร เธอขับรถตระเวนหาทั่วเมืองแต่ก็ไร้ผล เป็นค่ำคืนแห่งความกระวนกระวายของทั้งครอบครัว โรเบิร์ตไม่เคยเป็นแบบนี้ เขาไม่น่าใช่คนประเภทที่จะหนีออกจากบ้าน หิมะที่พร่างพรูลงมายิ่งสร้างความกังวลให้เพิ่มขึ้น
12 ธันวาคม 1978
อลิซาเบธรีบแจ้งตำรวจซึ่งนำไปถึงการตามตัวเพื่อนร่วมงานมาถาม เพื่อนของโรเบิร์ตยืนยันว่าช่วงหลังเลิกงานเขาเห็นโรเบิร์ตนั่งคุยกับชายผู้รับเหมาในรถ ตำรวจจึงติดต่อไปที่เจ้าของร้านขายยาผู้บอกว่าผู้รับเหมาคนนั้นชื่อจอห์น เวนย์ เกซี่
ตำรวจตรวจประวัติของเขาจากฐานข้อมูล และพบว่าอดีตของเกซี่ไม่ได้ขาวสะอาดเท่าไหร่ นักสืบโคเซนแซคเจ้าของคดีพยามติดต่อเกซี่แต่ไม่เจอตัวจึงฝากข้อความให้โทรกลับ
23.00: เกซี่โทรเข้ามาที่สถานี
“นี่พวกคุณยังอยากเจอผมอยู่ใช่มั้ย?”
“แน่นอน คุณมาที่นี่ได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่?” โคเซนแซคถาม
“ขอเวลาผมครึ่งชั่วโมง” เกซี่บอกแล้ววางสาย
นักสืบจนถึงตีหนึ่งแต่ไร้เงาของเกซี่
หลังจากวางสาย เกซี่รู้แล้วว่าเขาทำพลาด ก่อนหน้านี้เขาจะนัดเหยื่อมาที่บ้านที่ซึ่งเขาอาศัยอยู่คนเดียว ไม่มีพยานไม่มีผู้รู้เห็น แต่คราวนี้มีคนเห็นเขากับโรเบิร์ต เพียสต์อยู่ด้วยกันก่อนที่เด็กจะหายตัวไป เวลามีไม่มากเขาต้องทำลายหลักฐานก่อนที่ตำรวจจะมาเจอ
ก่อนเที่ยงคืนท่ามกลางละอองหิมะที่ตกโปรยปราย เกซี่อุ้มศพล่าสุดของเขาใส่ท้ายรถแล้วมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ ที่สะพานร่างไร้วิญญาณของโรเบิร์ต เพียสต์ถูกโยนลงแม่น้ำที่เย็นเฉียบ
เกซี่ขับรถกลับเข้าเมือง แต่วันนี้ไม่ใช่วันของเขา โชคที่มีอยู่ดูเหมือนจะหมดไปแล้ว รถของเกซี่ลื่นเพราะน้ำแข็งบนพื้นถนน มันไถลออกข้างทางและติดหล่ม
13 ธันวาคม 1978
02.00: รถลากมาถึงและลากโอลส์โมบิลของเขาขึ้นมา เกซี่ขับรถกลับเข้าเมือง
.
03.20: เคซี่มาถึงสถานีตำรวจและขอพบกับนักสืบโคเซนแซค แต่เขากลับบ้านไปแล้ว ร้อยเวรผู้บอกให้เขากลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้จำได้ว่าเกซี่ดูโทรมมาก รองเท้าและเขากางเกงของเขาเต็มไปด้วยโคลน
เกซี่กลับมาตามนัดในตอนเช้าและได้พบกับโคเซนแซคผู้ซักถามเกซี่ถึงสถานที่อยู่เมื่อคืน หลังจากนั้นดึงหมายค้นออกมาให้เขาดู
.
“เราต้องการกุญแจบ้านของคุณ” โคเซนแซคแบมือ
“พวกคุณไม่เห็นต้องทำอย่างนี้เลย” เกซี่ประท้วงด้วยสีหน้าไม่พอใจแต่สุดท้ายเขามอบกุญแจให้นักสืบ
ตำรวจที่เข้าค้นบ้านพบของหลายอย่างที่ดูแล้วเกซี่ไม่น่าจะเป็นเจ้าของ แหวนรุ่น 1975 ของโรงเรียนมัธยม เสื้อผ้าที่มีขนาดของเด็กวัยรุ่น เสื้อแจ็คเก็ตที่มีใบเสร็จรับเงินร้านถ่ายรูปอยู่ในกระเป๋า ตำรวจยังรวบรวมของได้อีกหลายชิ้นเช่น ตราตำรวจปลอม ปืนพร้อมกระสุน กุญแจมือ หนังสือโป๊ พวกเขาตัดเอาพรมในห้องของเกซี่มาส่วนหนึ่งด้วย
เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งลงไปค้นใต้ถุนบ้าน แต่ต้องรีบกลับขึ้นมาเพราะทนกลิ่นเหม็นไม่ไหว เพื่อนบ้านบอกว่านั่นเกิดจากท่อน้ำเสียแตกและเกซี่ยังไม่ได้ซ่อม ตำรวจไม่สงสัยอะไรและพากันเดินทางกลับ
การค้นบ้านของเกซี่ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
.
ที่สถานี โคเซนแซคถามเรื่องที่มีคนเห็นเขาคุยกับโรเบิร์ตเป็นคนสุดท้ายก่อนหายตัว เกซี่ปฏิเสธ
.
“ผมไปที่ร้านขายยาจริง ผมได้งานรับเหมาที่นั่น แต่ผมไม่ได้คุยกับเด็กคนนั้นเลย ไม่รู้จักด้วยซ้ำ”
คำปฏิเสธของเกซี่ขัดแย้งกับสิ่งที่ตำรวจรู้มาจากเพื่อนของโรเบิร์ต นั่นสร้างความสงสัยเป็นอย่างมากจึงควบคุมตัวเขาไว้ จนกระทั่ง 23.00 น.เมื่อไม่สามารถโยงหลักฐานใดใดที่ได้จากบ้านของเขากับการหายตัวไปของโรเบิร์ต เพียสต์ได้ เกซี่ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระ
โคเซนแซครู้ว่าเกซี่คือคนที่น่าสงสัยที่สุด เขาสั่งให้เจ้าหน้าที่ขุดประวัติขึ้นมาแล้วยิ่งมั่นใจว่าเกซี่ต้องมีส่วนกับการหายตัวไปของเด็กหนุ่ม นักสืบแบ่งเจ้าหน้าที่ออกเป็นสองทีม ทีมแรกจะผลัดกันเฝ้าเกซี่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ติดตามเขาไปทุกแห่งแล้วรายงานเข้ามา อีกทีมหนึ่งทำการค้นหาโรเบิร์ต เพียสต์ผู้ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะไม่เหลือชีวิตแล้ว
เกซี่รู้ว่าเขาถูกเฝ้าดูและดูเหมือนจะสนุกกับมันเสียด้วยซ้ำ วันหนึ่งเขาเชิญตำรวจสองคนที่จอดรถซุ่มอยู่หน้าบ้านให้เข้ามาทานอาหารเช้าด้วยกัน ตำรวจทั้งสองนายรายงานว่าบ้านของเกซี่เหม็นมาก
วันที่แปดหลังจากโรเบิร์ตหายตัวไป ตำรวจไปที่บ้านเพียสต์เพื่อรายงานความคืบหน้า อลิซาเบธแม่ของโรเบิร์ตถามว่าตำรวจได้เก็บเสื้อแจ็คเก็ตของลูกชายไว้หรือไม่ เพื่อนของโรเบิร์ตฝากใบเสร็จล้างรูปให้เขาไปรับแทน ใบเสร็จอยู่ในกระเป๋าเสื้อ ตำรวจรีบนำเสื้อแจ็คเก็ตตัวนั้นมาให้เธอดู อลิซาเบธยืนยันว่านั่นคือเสื้อที่ลูกชายเธอสวมในวันที่หายไป
นั่นคือสิ่งยืนยันว่าโรเบิร์ต เพียสต์เคยอยู่ในบ้านหลังนั้น เกซี่โกหก โคเซนแซคยังได้รายงานจากบริษัทรถยกว่า พวกเขาให้บริการลากรถของเกซี่ขึ้นจากหล่มหิมะตอนตีสองเมื่อคืนวันก่อน โคเซนแซคสงสัยและให้รถตรวจการณ์ไปสำรวจแถวนั้นแต่ไม่เห็นอะไร
เกซี่รู้ว่าทุกอย่างกำลังงวดเข้ามาและเขาเริ่มกระวนกระวาย ตำรวจที่เฝ้าเขารายงานว่าเกซี่ขับรถไปบ้านเพื่อนหลายแห่ง เพื่อนพวกนั้นเล่าว่าเกซี่มาบอกลา บางคนบอกว่าเกซี่ดูแปลก ๆ และพูดถึงการฆ่าตัวตาย
.
>>> การค้นพบ <<<
เกซี่โดนตำรวจเรียกให้หยุดเพื่อค้นรถเพราะเห็นเขาแวะซื้อยาเสพติดจากพ่อค้ายาข้างทาง เขาถูกนำตัวไปคุมขัง ตำรวจแจ้งเขาว่าพวกเขาได้หมายศาลฉบับใหม่และการค้นบ้านครั้งที่สองกำลังจะเริ่มขึ้น เกซี่เข่าอ่อนและมีอาการเจ็บหน้าอก เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ระหว่างเกซี่อยู่ในห้องฉุกเฉิน ทีมของตำรวจชิคาโกทำการค้นบ้านของเกซี่อย่างละเอียด คราวนี้พวกเขาใส่ใจกับใต้ถุนบ้านเป็นพิเศษ ตำรวจหวังว่าจะพบร่างของโรเบิร์ต เพียสต์ข้างใต้นั้น
แต่ไม่ ตำรวจไม่พบร่างของเด็กหนุ่มตระกูลเพียสต์ ที่พบคือร่างที่เน่าเปื่อยของเด็กอื่น ๆ อีกยี่สิบเก้าคน
.
มันคือสุสานดี ๆ นี่เอง
เกซี่ถูกนำตัวกลับมาที่สถานีและให้การสารภาพ เขาเล่าให้ฟังตั้งแต่ต้นถึงกระบวนกาล่อลวงเด็กมาที่บ้าน การหลอกให้ใส่กุญแจมือและวิธีรัดคอให้ตายระหว่างเขาลงมือข่มขืน เกซี่บอกอีกว่ายังมีอีกสี่ร่างที่เขาทิ้งลงแม่น้ำ โรเบิร์ตเป็นร่างสุดท้ายที่เขาเพิ่งทิ้งลงจากสะพานเมื่อวันก่อน
โคเซนแซคเขียนไว้ในรายงานว่า เกซี่ใช้สรรพนามบุรุษที่สามแทนตัวเองขณะเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้ตำรวจฟัง
.
“จอห์นชอบเด็กผู้ชาย, จอห์นมักจะล่อเด็กมาที่บ้าน, จอห์น...”
การขุดเอายี่สิบเก้าร่างขึ้นมาใช้เวลานานหลายวัน เจ้าหน้าที่แบกถุงห่อศพออกจากบ้านของเกซี่ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บและสายตาของชาวบ้านที่มามุงดู วันละสองสามศพบ้าง...สี่ห้าศพบ้าง การค้นสี่ร่างตามแม่น้ำที่เย็นเฉียบใช้เวลานานกว่านั้น
สุดท้ายตำรวจค้นพบ 33 ร่าง ยี่สิบเก้าจากที่บ้านและอีกสี่จากแม่น้ำ เด็กยี่สิบสี่คนถูกระบุตัวตนจากพิมพ์ฟันซึ่งรวมถึงโรเบิร์ต เพียสต์ อีกเก้าคนไม่สามารถระบุได้จนกระทั่งอีกหลายปีต่อมาเมื่อโลกเริ่มมีวิวัฒนาการเพียงพอที่จะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรียกว่า DNA
>>> ตัดสิน <<<
การไต่สวนคดีของเกซี่กินเวลาสองปี ทนายของเขาพยายามอ้างถึงความไม่ปกติทางจิตของลูกความเพื่อลดหย่อนโทษให้กับเขา คดีถูกติดตามจากคนทั่วอเมริกา หลายคนอยากเห็นเขาตาย หลายคนต่อต้านการประหารชีวิต
ภาพวาดของเกซี่ตอนที่อยู่ในเรือนจำถูกนำออกมาประมูล นักสะสมบางคนสนใจ แต่มีอีกหลายคนสู้ราคาจนได้ภาพเหล่านั้นไป มันถูกนำไปให้ครอบครัวเพียสต์เพื่อเผาทิ้ง
13 มีนาคม 1980 ผู้พิพากษาหลุยส์ การิปโปนั่งบัลลังก์ว่าความ เนื่องจากเป็นคดีที่มีความรุนแรงและการนำเสนอภาพที่สะเทือนใจ เด็กต่ำกว่าสิบหกไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าฟังการพิจารณา
ผ่านไปสองชั่วโมงคณะลูกขุนที่ประกอบด้วยหญิงห้าคนชายเจ็ดคนตัดสินว่าเกซี่มีความผิด ผู้พิพากษาการิปโปตัดสินให้ประหารชีวิตจำเลย
.
เสียงปรบมือและโห่ร้องดังกึกก้องไปทั่วห้อง
>>> ประหารชีวิต <<<
การประหารชีวิตจอห์น เวย์น เกซี่ด้วยการฉีดยาถูกกำหนดให้มีขึ้นในวันที่ 9 พฤษภาคม 1991 เลื่อนจากกำหนดเดิมมานานเนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวโยงมากกว่าหนึ่งรัฐ เกซี่สั่งอาหารมื้อสุดท้ายของเขาซึ่งก็คือไก่ทอด KFC
ม่านเปิดขึ้นมา ทุกคนในห้องมองไปที่ร่างของเกซี่ซึ่งถูกสายรัดหนังห้าเส้นตรึงอยู่กับเตียง คนชุดขาวภายใต้หน้ากากอนามัยรายล้อมเขาอยู่ สายยางสองเส้นต่อเข้าแขนสองข้างของเขาโยงเข้ากับขวดยาสองขวดแตกต่างกัน เกซี่ดูสงบและนิ่ง
.
เมื่อทุกอย่างพร้อมพิธีก็เริ่มขึ้น
“เดี๋ยวก่อน”
“..............”
“น้ำยาแข็งตัว สายยางเส้นหนึ่งตัน”
“........................”
ม่านปิดลง
สิบแปดนาทีให้หลัง ม่านถูกเปิดขึ้นมาใหม่
“เราพร้อมแล้ว”
.
ตัวยาไหลช้า ๆ ตามสายยางเข้าสู่แขนของเกซี่ หน้าจอแสดงการเต้นของหัวใจซึ่งมีจังหวะช้าลงตามเวลาที่ผ่านไป
.
00.58: ก่อนความรู้สึกจะหลุดลอยออกจากร่าง จอห์น เวย์น เกซี่ เอ่ยคำพูดสุดท้ายของเขา
.
“Kiss My Ass”
>>> เรารู้อะไรบ้าง <<<
•ทิโมธี แจ็ค แมคคอย เป็นเหยื่อคนเดียวที่เสียชีวิตด้วยการถูกแทง คนที่เหลือทั้งหมดถูกทำให้ตายด้วยการรัดคอ
•หลังจากศพทุกศพถูกขุดขึ้นมาหมดแล้ว ศาลสั่งให้ทำลายบ้านของเกซี่ทิ้ง
•ตำรวจนำทรัพย์สินของเหยื่อซึ่งมีจำนวนมากออกมาแสดง นักจิตวิทยากล่าวว่าของเหล่านั้นคือถ้วยรางวัลของฆาตกร เกซี่เก็บมันไว้เพื่อเขาจะได้รู้สึกว่าเขาเป็นเจ้าของเด็กหนุ่มเหล่านั้น เด็กเหล่านั้นไม่ใช่มนุษย์สำหรับเกซี่ พวกเขาเป็นแค่สิ่งของมีไว้เพื่อครอบครอง
•เกซี่เป็นสมาชิกของ Jolly Joker Clown Club ซึ่งให้บริการรับจ้างตัวตลกออกงานรื่นเริงต่าง ๆ
•หลังจากที่ทนายได้ฟังเกซี่เล่าทุกอย่างให้ฟังอย่างละเอียด เขาหนักใจและเครียดมากแต่กฎหมายไม่อนุญาตให้เขาเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังได้ วันหนึ่งเขาบอกอัยการของคดีว่า ‘อย่าปล่อยเกซี่ไปเด็ดขาด’
•นักจิตวิเคราะห์กล่าวว่า ฆาตกรต่อเนื่องเป็นบุคคลธรรมดา คนที่เราเจอได้ทุกวัน เหมือนเพื่อนที่ทำงาน คนที่เราเจอในซูเปอร์มาร์เก็ต จากภายนอกเขาไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากเราเลย พวกเขามักจะเป็นคนฉลาด เขารู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่และพอใจที่เป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์ได้ ข้อเสียคือพวกเหล่านี้มักจะคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนอื่น จอห์น เวย์น เกซี่เข้ากับรูปแบบเหล่านี้ทั้งหมด
.
จบบริบูรณ์
ของคุณที่ติดตามครับ
==============================
อ้างอิง
https://www.nbcchicago.com/news/local/40-years-later-secrets-of-the-john-wayne-gacy-case-503233821.html
https://www.insideedition.com/who-was-killer-clown-john-wayne-gacy-52448
https://listverse.com/2019/07/06/10-creepiest-facts-about-killer-clown-john-wayne-gacy/
https://www.thoughtco.com/john-wayne-gacy-the-killer-clown-973164
https://en.wikipedia.org/wiki/John_Wayne_Gacy#cite_note-6
https://www.bizarrepedia.com/gacy/
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย