Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
มีเวลาสักห้านาทีมั้ย
•
ติดตาม
25 ม.ค. 2020 เวลา 03:30 • ประวัติศาสตร์
Remembering Hillsborugh
ตอนที่ 6 - ตอนจบ
ในการประชุมภายในของตำรวจเซ้าท์ยอร์คไชร์ หัวข้อสำคัญคือการหาหลักฐานเพื่อระบุให้ได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร ตำรวจชั้นผู้น้อยได้รับคำสั่งให้สอบสวนแฟนฟุตบอลที่เข้าชมในวันนั้นว่ามีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้าสนามหรือเปล่า
การสัมภาษณ์แฟนบอลต้องเขียนลงบนกระดาษเปล่าเท่านั้น พวกตำรวจถูกสั่งไม่ให้จดลงบนสมุดบันทึกประจำตัวตามระเบียบปกติ
ตำรวจอีกกลุ่มถูกสั่งให้เดินลงพื้นที่ตั้งแต่เช้าเพื่อถ่ายภาพถังขยะละแวกเลปปิ้งส์เลน คำสั่งเน้นให้ถ่ายภาพขวดหรือกระป๋องเบียร์ให้ได้มากที่สุดเพื่อนำมาเป็นหลักฐานว่าคนเมาเป็นผู้ก่อเรื่อง
ยิมเนเซียมของฮิลส์โบโรถูกใช้เป็นสถานที่เก็บศพชั่วคราว ญาติ ๆ ของผู้เสียชีวิตถูกเรียกให้มายืนยันศพจากภาพถ่ายโพลาลอยด์ หลายคนไม่ได้ดูศพจริงโดยตำรวจอ้างว่าศพเหล่านั้นเป็นสมบัติของทางการจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสมบูรณ์ พวกเขาถูกซักถามถึงช่วงเวลาก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะมาถึงสนาม ทานอะไรเป็นอาหารเช้า มีดื่มไวน์หรือเปล่า หรือว่าเบียร์ ปกติพฤติกรรมของผู้เสียชีวิตเป็นคนชอบความรุนแรงหรือไม่ ฯลฯ
ดร.สเตฟาน ป็อปเปอร์ หมอชันสูตรศพประจำเซ้าท์ยอร์คไชร์รับหน้าที่ตรวจร่างกายผู้เสียชีวิต เขาสั่งลูกน้องให้ตรวจระดับแอลกอฮอล์จากทุกร่างที่นอนเรียงรายอยู่ในถุงบนพื้นของโรงยิมทั้งหมด ทุกร่างไม่เว้นแม้กระทั่งจอน-พอล กิลฮูเลย์ที่เพิ่งมีอายุได้สิบขวบ
เป็นที่ทราบกันดีว่า ดร.ป็อปเปอร์มีความสนิทสนมกับตำรวจเซ้าท์ยอร์คไชร์เป็นพิเศษ
มาร์กาเร็ต แทตเชอร์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษมาตรวจและแสดงความไว้อาลัยที่สนาม ผู้กำกับดักเคนฟิลด์ให้การต้อนรับและรายงานข้อมูลให้เธอทราบ สิ่งที่ดักเคนฟิลด์รายงานไม่ต่างจากที่เขาบอกเคลลีก่อนหน้านี้
“มีคนมากเกินไปในคอก 3 และ 4 พวกนั้นเมาและพังประตูเข้ามาทั้ง ๆ ที่ไม่มีตั๋ว”
แย่จริง ๆ ไอ้พวกอันธพาลพวกนี้ ท่านผู้นำนึก
ความเห็นใจของนายกรัฐมนตรีอังกฤษโอนเอียงไปในทางตำรวจอย่างชัดเจน เธอจะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องแปดเปื้อน ผู้รักษากฎหมายต้องคงความศักดิ์สิทธ์ เธอยังขายหน้าไม่หายจากเรื่องที่สนามเฮย์เซล มันน่าอายมากที่อังกฤษมีพวกนี้อยู่ด้วย อันธพาลยังไงก็เป็นอันธพาลอยู่วันยังค่ำ
ภายในสี่สิบแปดชั่วโมงลอร์ด ปีเตอร์ เทย์เลอร์ อธิบดีผู้พิพากษาของอังกฤษได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าทีมสืบสวน เขารวบรวมข้อมูลทุกอย่างทั้งวิธีการจัดการฝูงชน จำนวนที่นั่งในสนามเทียบกับจำนวนแฟนบอล ระบบประตูหมุนรวมถึงแบบแปลนของสนามมาวิเคราะห์อย่างละเอียด
19 เมษายน 1989
เด็กชายลี นิโคล อายุสิบสี่ปีเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหลังจากแพทย์พยามยื้อชีวิตของเขาไว้แต่ไม่สำเร็จ ลีถูกนับเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 95 ของเหตุการณ์ฮิลส์โบโร
กองกำลังตำรวจเซ้าท์ยอร์คไชร์ออกแถลงข่าวอย่างเป็นทางการซึ่งนำไปสู่การพาดหัวข่าวของหลายสำนักทั่วประเทศ
‘แฟนฟุตบอลขี้เมาคือต้นเหตุ – ตำรวจ’
หนังสือพิมพ์เดอะซันพาดหัวข่าวตามวิสัยอย่างเมามัน
‘แฟนบอลทำร้ายตำรวจ’
‘แฟนบอลฉี่ใส่ตำรวจ’
‘แฟนบอลขโมยทรัพย์สินของผู้บาดเจ็บ’
‘แฟนบอลวัยรุ่นเล่นพิเรนทร์กับศพของหญิงสาว’
ญาติผู้สูญเสียหลายคนประณามเดอะซันเลิกซื้อเศษกระดาษเปื้อนหมึกชิ้นนั้นตลอดชีวิต
1 สิงหาคม 1989
ลอร์ด เทย์เลอร์นำส่งรายงานฉบับชั่วคราวให้กับคณะกรรมการสอบสวน มันระบุถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ในวันนั้นและกล่าวถึงบทสรุปอย่างคร่าว ๆ ต่อมาในวันที่ 19 มกราคม 1990 รายงานฉบับเต็มจึงเสร็จสมบูรณ์ มันถูกเรียกว่าเทย์เลอร์รีพอร์ต
เทย์เลอร์รีพอร์ตสรุปว่าเหตุการณ์น่าเศร้าในวันนั้นเกิดจากความล้มเหลวในการจัดการของตำรวจ การตัดสินใจที่ผิดพลาดในการเปิดประตูทางออก C การไม่เตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยชี้ทางให้แฟนบอลเดินไปคอกที่ยังว่าง และการไม่ยอมเลื่อนการแข่งขันออกไปก่อนอย่างที่เคยทำมาแล้วในการแข่งขันอื่น ๆ ก่อนหน้านี้
รายงานยังตำหนิเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ที่ไม่จัดทางเข้าให้สมดุลกับจำนวนแฟนฟุตบอล คานกั้นคนในคอกที่เสื่อมสภาพ นอกจากนั้น จำนวนผู้ชมอย่างเป็นทางการที่สองคอกกลางสามารถรับได้คือ 1,693 คนในขณะที่มีคนประมาณ 3,000 คนอยู่ในคอกทั้งสองเมื่อเวลาบ่ายสามโมงตรง
เมื่อมีคนปีนรั้วลงมาที่สนามทางหอควบคุมมองว่านั่นคือพวกก่อกวนแม้ว่าเกมเพิ่งจะเริ่ม ทั้งที่โดยมากแล้วพวกก่อกวนจะรอให้เกมผ่านไปสักระยะหนึ่งก่อนแล้วค่อยเล็ดลอดลงมา อีกอย่างคือผู้ที่ปีนรั้วออกมาไม่ได้แสดงท่าทางว่าจะรุกรานเข้ามาในพื้นที่สนาม การสรุปเอาว่าผู้หนีตายคือพวกก่อกวนนั้นเกิดจากอคติ หอควบคุมไม่ได้แสดงให้เห็นถึงภาวะผู้นำที่มีประสิทธิภาพ ไม่มีการให้คำสั่งอันชัดเจนเพื่อบรรเทาการเบียดเสียดในพื้นที่อันตรายตรงนั้น
และ...การที่หอควบคุมมัวแต่กังวลเรื่องสนามจะถูกบุกรุกทำให้ไม่ใส่ใจต่อเหตุการณ์การเบียดเสียดที่ร้ายแรงซึ่งสุดท้ายนำไปสู่หายนะอย่างที่เกิดขึ้น
บทสรุปของรายงานนี้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง มันบอกว่า ‘มันไม่เกี่ยวว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนฝั่งถนนเลปปิ้งส์ที่แคบ แต่หายนะอาจเกิดขึ้นกับอัฒจันทร์ฝั่งฟอเรสต์ได้เหมือนกันหากต้องเจอกับการจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพเช่นนี้’
ในส่วนของการสืบสวนด้านแฟนบอลของทีมลิเวอร์พูล รายงานระบุว่าการกล่าวหาว่ามีพวกที่เมาเหล้ามาก่อกวนไม่เป็นความจริง มีเฉพาะส่วนน้อยเท่านั้นที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้าสนาม และไม่มีใครเมาขนาดอาละวาดด้วย การที่ตำรวจจำเพาะเจาะจงจะเอาเรื่องการดื่มขึ้นมาเป็นประเด็นก็เพียงเพื่อลดแรงเสียดทานในฝั่งของตนเองเท่านั้น
การไต่สวนพิจารณาคดีกินเวลาหลายเดือน ทนายฝ่ายตำรวจพยายามชี้ให้เห็นว่าเหตุที่เกิดขึ้นมาจากแฟนบอลที่ก้าวร้าว เมาสุรา และเข้ามาในสนามโดยไม่มีบัตรผ่านประตูรวมถึงการเปิดประตูทางออก C กันเองโดยไม่ได้รับอนุญาต
30 สิงหาคม 1990
อัยการแจ้งว่าจะไม่มีการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจรายใดทั้งสิ้นเนื่องจากหลักฐานการกล่าวหามีไม่เพียงพอ การไต่สวนดำเนินต่อไป
28 มีนาคม 1991
คณะลูกขุนส่งคำวินิจฉัยสรุปคดีว่า ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ฮิลส์โบโรนั้นเกิดจาก ‘อุบัติเหตุ’
ความไม่พอใจของญาติผู้เสียชีวิตที่มีมากอยู่แล้วกระพือรุนแรงยิ่งขึ้น นี่มันไม่ยุติธรรมเลย มันเหลวไหลสิ้นดี พวกเขากำลังหนีความผิด
29 ตุลาคม 1991
เดวิด ดักเคนฟิลด์ลาออกจากราชการด้วยสาเหตุสุขภาพและความเครียด
5 พฤศจิกายน 1991
อัยการพิจารนาคำร้องของตัวแทนครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มีเทรเวอร์ ฮิกส์เป็นแกนนำ ในคำร้องคณะตัวแทนขอให้ศาลพิจารณาหักล้างคำตัดสินก่อนหน้าและนำหลักฐานใหม่ขึ้นมาพิจารณา ผู้พิพาษาแมคโควานพิจารณาว่าคำตัดสินก่อนหน้านี้ชอบแล้ว...พวกเอ็งมาเล่นอะไรแถวนี้?
ครอบครัวผู้เสียชีวิตยังไม่ยอมแพ้ พวกเขาทำการรณรงค์เพื่อคนที่พวกเขารักต่อไป
>>> ถอดปลั๊ก <<<
3 มีนาคม 1993
เป็นเวลานานที่ครอบครัวของโทนีและคณะแพทย์ได้ทำการต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อปล่อยให้โทนีพ้นทรมาน สุดท้ายศาลตัดสินยอมรับตามคำร้อง หลังจากทุก ๆ วันที่พ่อและแม่ของโทนีผลัดกันนั่งเฝ้าเขาข้างเตียง กุมมือแบะบีบเฟ้นร่างกายที่ไม่มีความรู้สึกของเขาด้วยความเศร้า
แพทย์ที่ดูแลถอดเครื่องช่วยหายใจและท่ออาหารจออกจากร่างของเขา แอนโทนี เดวิด แบลนเสียชีวิตอย่างสงบหลังจากเกือบสี่ปีที่นอนอยู่บนเตียงโดยไม่บ่งบอกสัญญาณการรับรู้ใดใดทั้งสิ้น
โทนีถือเป็นรายแรกของอังกฤษที่ถูกตัดสินให้ได้รับการการุนฆาต และเขาถูกบันทึกว่าเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 96 จากเหตุการณ์ฮิลสโบโร
12 กันยายน 2012
หลังจากศึกษาเอกสาร 450,000 ฉบับ คณะครอบครัวญาติผู้เสียชีวิตจากฮิลส์โบโรยื่นเอกสารเกี่ยวกับการปกปิดข้อมูลของตำรวจ รวมถึงบันทึกคำให้การของแฟนบอลที่ถูกตำรวจบิดเบือนให้กับรัฐบาล นางเทเรซา เมย์ รัฐมนตรีมหาดไทยตรวจสอบและสุดท้ายเธอยอมรับรายงานชิ้นนั้น เมย์สั่งให้มีการไต่สวนเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง สภาอิสระผู้ดูแลและรับเรื่องร้องเรียนของตำรวจรับหน้าที่ดำเนินการ
19 ธันวาคม 2012
ศาลพิจารณาจากรายงานของสภาอิสระพบว่า มีการปกปิดและบิดเบือนข้อมูลในการส่งสำนวนครั้งก่อนหน้าอย่างชัดเจน
การที่ตำรวจถูกสั่งให้เขียนบันทึกลงบนกระดาษเปล่าก็เพื่อให้แก้ไขได้ก่อนส่งข้อมูลให้กับอัยการ ต่างจากการบันทึกลงบนสมุดบันทึกประจำตัวซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ การตัดสินครั้งก่อนหน้าได้ถูกพิจารณาจากปัจจัยที่และวิธีการที่ไม่เหมาะสม ศาลสั่งให้คำตัดสินก่อนหน้าตกไป
นับเป็นสัญญาณที่ดี เหล่าผู้ต่อสู้เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
31 มีนาคม 2014
การไต่สวนเหตุการณ์ฮิลส์โบโรเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาสู้มานานขนาดนี้แล้วและจะสู้ต่อไป ครั้งนี้มันกินเวลาต่ออีกสองปี
26 เมษายน 2016
ลูกขุนยื่นสรุปคำพิจารณาคดีให้ศาล ศาลอ่านคำพิจารณา
* มีการปกปิดข้อมูลหลายอย่าง รวมถึงแก้ไขข้อมูลเพื่อประโยชน์ต่อฝ่ายตำรวจในการพิจารณาคดีครั้งก่อน
* ผู้คนจากเหตุการณ์ฮิลส์โบโรจำนวน 96 คนถูกทำให้เสียชีวิตอย่างผิดกฎหมาย ไม่ใช่ด้วยอุบัติเหตุ
* พฤติกรรมของแฟนบอลทีมลิเวอร์พูลไม่มีส่วนในสถานการณ์อันตรายที่เกิดขึ้น
* สภาพสนามและการออกแบบมีผลให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตของผู้ชม
* ความละเลยและประมาทของตำรวจนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้คนในวันนั้น
ยี่สิบเจ็ดปีหลังจากความโศกเศร้า พวกเขาต้องทนกับการถูกหยามประณามจากคำกล่าวหาที่ไม่จริง ยี่สิบเจ็ดปีที่พวกเขายืนเคียงบ่าเคียงไหล่ไม่ยอมแพ้ ให้ความช่วยเหลือกันและกันตลอดมาเพื่อต่อสู้กับอำนาจและวิธีการเอาตัวรอดแบบสกปรกขององค์กรแห่งรัฐ รัฐแห่งประเทศโลกที่หนึ่งซึ่งถูกเรียกว่าเจริญแล้ว
หลังจากยี่สิบเจ็ดปี ครอบครัวลิเวอร์พูลก็สามารถยิ้มได้ พวกเขาปลดแอกการกล่าวหาอันไม่เป็นธรรมที่ถูกยัดเยียดให้กับพวกเขาออก และที่มากกว่าชัยชนะที่ได้มา มันคือความยุติธรรม
หลังจากยี่สิบเจ็ดปี พวกเขาเป็นอิสระ
>>> เรารู้อะไรบ้าง? <<<
* หลังจากเหตุการณ์ฮิลส์โบโร สนามในสองลีคสูงสุดของอังกฤษถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นสนามที่มีเฉพาะม้านั่ง
* เทรเวอร์ ฮิกส์ และ เจนี ฮิกส์ หย่าขาดจากกันหลังจากสูญเสียลูกสาวเนื่องจากความเครียด พวกเขายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
* มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 96 คนแต่ไม่ถูกนับ เขาเหล่านั้นจบชีวิตของตัวเองด้วยความเครียด หนึ่งในนั้นคือสตีเวน วิทเทิลผู้ซึ่งถือตั๋วยืนของเกมวันที่ 15 เมษายน แต่ด้วยงานที่มีเข้ามากะทันหันทำให้เขาต้องขายตั๋วต่อให้กับเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนของวิทเทิลดีใจมากและรับซื้อตั๋วใบนั้น เขาเป็นหนึ่งใน 96 คนที่ไม่ได้กลับบ้าน หลังจากแบกรับความรู้สึกผิดมาสองทศวรรษ สตีเวน วิทเทิลฆ่าตัวตาย เขาทิ้งเงิน 61,000 ปอนด์ไว้ให้กองทุนของครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อต่อสู้คดี
* คดีฮิลส์โบโรถือเป็นคดีที่มีการพิจารณายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ
* จอน-พอล กิลฮูเลย์เสียชีวิตในขณะอายุ 10 ปี เจ้าหนูคือผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุดของเหตุการณ์นี้
วันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน 1989
วันรุ่งขึ้นหลังจากเหตุการณ์ฮิลส์โบโร
08.30:
ปัง ๆ ๆ ๆ เสียงทุบประตูบ้านดังกังวาน สตีเวนวิ่งลงบันไดทั้งที่ยังใส่ชุดนอน เมื่อคืนเขานอนไม่หลับ ข่าวแย่ ๆ ของเมื่อวานทำให้เขากลัว เขาอายุแค่แปดขวบและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในสนาม แต่เขารู้ว่ามีคนตายหลายคน สตีเวนกลัวจริง ๆ
สตีเวนปลดล็อกประตู มันเปิดออก เขาเงยหน้ามองชายร่างใหญ่ที่เดินเข้ามาด้วยฝีเท้าหนักอึ้ง หน้าตาของผู้มาเยือนหมองหม่น
“สวัสดีครับคุณตา” สตีเวนทัก เขามองขึ้นไปสบตาสีเทาที่ว่างเปล่าคู่นั้น
ชายชราคุกเข่าลงข้างหน้า จับไหล่สองข้างของเด็กชายไว้แล้วกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง
“สตีวี ตามีข่าวร้ายจะบอก จอน-พอลตายแล้ว”
ทุก ๆ วันที่เขาขับรถเข้าสนามแอนฟิลด์ สตีเวน เจอร์ราร์ดจะมองไปที่ป้ายรายชื่อด้านหน้า เขารู้ว่าหนึ่งในเก้าสิบหกรายชื่อที่สลักบนป้ายหินนั้นคือ จอน-พอล กิลฮูเลย์ ญาติผู้พี่ที่เขารัก แม้พวกเขาจะไม่ได้เล่นฟุตบอลด้วยกันอีกแล้ว แต่เจอร์ราร์ดสัญญาว่าเขาจะทำให้จอน-พอลภูมิใจให้ได้ เขาตั้งใจจะทำอย่างที่คนรักลิเวอร์พูลด้วยกันคนหนึ่งจะทำได้
แล้วเขาก็ทำได้จริง ๆ
จบบริบูรณ์
ขอบพระคุณที่ติดตามครับ
= = = = = = = = = = = = = = = = = =
อ้างอิง
http://www.bbc.co.uk/liverpool/content/articles/2009/04/03/hillsborough_timeline_feature.shtml
https://edition.cnn.com/2016/04/25/world/hillsborough-disaster-fast-facts/index.html
https://en.wikipedia.org/wiki/Heysel_Stadium_disaster
https://en.wikipedia.org/wiki/Hillsborough_disaster#Timeline
https://en.wikipedia.org/wiki/Tony_Bland
https://en.wikipedia.org/wiki/Valley_Parade
https://www.bbc.com/news/uk-19545126
https://www.bbc.com/news/uk-england-27150365
https://www.bbc.com/news/uk-england-27224172
https://www.bbc.com/news/uk-england-merseyside-47358862
https://www.bbc.com/news/uk-england-merseyside-47358862
https://www.independent.co.uk/news/uk/hillsboroughs-legacy-of-grief-five-years-on-jenny-hicks-who-lost-two-daughters-when-95-liverpool-1370083.html
https://www.irishtimes.com/sport/soccer/english-soccer/liverpool-marks-30-years-since-hillsborough-disaster-as-fight-for-justice-goes-on-1.3862184
https://www.reifflawfirm.com/hillsborough-disaster-preventable-tragedy/
https://www.telegraph.co.uk/news/0/happened-hillsborough-1989/
https://www.telegraph.co.uk/news/2016/04/27/trevor-hicks-on-the-deaths-of-his-daughters-at-hillsborough-ther/
https://www.theguardian.com/football/2012/sep/22/steven-gerrard-hillsborough-tragedy
https://www.theguardian.com/football/2015/may/13/youngest-hillsborough-victim-pulled-from-horrific-scene-inquests-hear
https://www.theguardian.com/football/2015/may/13/youngest-hillsborough-victim-pulled-from-horrific-scene-inquests-hear
https://www.theguardian.com/football/2016/apr/26/hillsborough-disaster-deadly-mistakes-and-lies-that-lasted-decades
https://www.theguardian.com/football/2017/jun/28/long-road-justice-hillsborough-inquest-timeline
https://www.theguardian.com/uk-news/2015/oct/16/hillsborough-inquests-teenager-thrown-on-top-of-man-in-ambulance
https://www.wsws.org/en/articles/2017/06/30/time-j30.html
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย