15 ม.ค. 2020 เวลา 09:38 • ธุรกิจ
จีนเปลี่ยนจากประเทศที่ถูกเรียนว่านักก็อป เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีได้ยังไง ?
ย้อนไปในอดีต หากจะกล่าวถึงสินค้าและบริการของประเทศจีน เรามักจะนึกถึงของลอกเลียนแบบ ของไม่ได้คุณภาพ หรือแม้กระทั่งสินค้าที่ถูกทำออกมาเพื่อหลอกลวงผู้บริโภค แต่ทว่าในช่วงเวลาเพียงสองทศวรรษ ประเทศจีนสามารถเปลี่ยนจากผู้ตาม นักลอกเลียนแบบ กลายมาเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกในหลายๆด้านได้อย่างไร ? ลองไปดูปัจจัยต่างๆเหล่านี้กันครับ
1. การยอมรับความเป็นจริง : ในยุคเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ประเทศจีนยอมรับความเป็นจริงในเรื่องของการไม่มีไอเดีย ไม่มีนวัตกรรม หรือองค์ความรู้ในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งวิธีการผลิตต่างๆที่ยังไม่มี Know-how มากนัก สินค้าที่ออกมาจึงยังไม่ได้มาตรฐานและคุณภาพ ดังนั้นกลยุทธ์ของจีนจึงเป็นการเปิดรับเอาแนวความคิด และกรรมวิธีหลากหลายรูปแบบ จากหลากหลายประเทศ และนำมาสร้างสินค้าและบริการที่เป็นของตัวเอง ถึงแม้ในมุมมองของต่างชาติ การกระทำเช่นนี้คือการลอกเลียนแบบ แต่สำหรับประเทศจีนเอง มองว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้
2. ยังไม่ต้องสร้างสิ่งใหม่ แต่พัฒนาของเดิมให้ดีขึ้นก่อน : ถึงแม้หลายๆประเทศ จะพยายามเน้นเรื่องของการ “สร้าง” นวัตกรรมใหม่ๆ แต่สำหรับประเทศจีนมองว่าในยุคนั้น การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆใช้กำลังคนและเงินทุนมหาศาล จึงเน้นในเรื่องของการ “พัฒนา” สิ่งที่มีคนสร้างมาแล้วให้ดียิ่งขึ้น ไม่เฉพาะแค่ตัวสินค้า และบริการ แต่รวมไปถึงกระบวนการผลิต การบริหารจัดการต่างๆ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ประเทศจีนจะกลายเป็นแหล่งผลิตสินค้าอันดับต้นๆของโลกในปัจจุบัน เพราะมีความพยายามในการพัฒนาในเรื่องเหล่านี้ตั้งแต่สองทศวรรษที่ผ่านมา
3. ขนาดตลาดที่ใหญ่ และมีมูลค่ามหาศาล : ไม่ว่าผู้ประกอบการในประเทศจีน จะนำสินค้า หรือบริการใดๆเข้าสู่ตลาด พวกเขาจะมีตลาดขนาดใหญ่ที่จะรองรับสินค้าและบริการนั้นๆ ด้วยจำนวนประชากรถึง 1,400 ล้านคน (20 เท่าของประเทศไทย) ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลการขาย รวมไปถึงการวิเคราะห์ตลาดเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าทุกธุรกิจที่ออกมา จะประสบความสำเร็จเสมอไป แต่ใจความสำคัญอยู่ที่ผู้ประกอบการในประเทศจีนรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าธุรกิจแบบไหน “ไม่เวิร์ค” ต่างหาก
4. เสถียรภาพทางการเมือง : ระบอบการปกครองของจีน เอื้อต่อการพัฒนาในแนวทางนี้ เพราะผู้นำสามารถที่จะกำหนดทิศทางในการดำเนินงานของประเทศได้แทบจะเบ็ดเสร็จ ส่งผลถึงเสถียรภาพในการควบคุมตลาด ควบคุมการแข่งขันภายในประเทศ (ผู้บรรยายแนะนำให้ลองคิดว่าถ้ามีคนประท้วงว่าอยากใช้ Facebook มากกว่า Renren อยู่เรื่อยๆ คงจะวุ่นวายน่าดู)
5. จดทะเบียนในตลาดระดับโลก : หลักจากสินค้าและบริการได้รับการยอมรับมากขึ้น บริษัทของประเทศจีนหลายๆบริษัท มีการจดทะเบียนเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์นอกประเทศจีน เพื่อความคล่องตัวในการระดมทุน, การขยายตลาดไปยังต่างประเทศ, การได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
6. ใช้ทุกสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น ในการก้าวเป็นผู้บุกเบิก : สิ่งที่ประเทศจีนสร้าง ไม่สามารถเกิดได้ในชั่วข้ามคืน แต่ใช้ระยะเวลากว่าสองทศวรรษ กว่าที่ประเทศจีนสะสมองค์ความรู้ในด้านต่างๆ ในเรื่องของนวัตกรรม การบริหารจัดการ การเข้าถึงกลุ่มลูกค้า เมื่อนำมารวมกับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งและความเด็ดขาดจากภาครัฐ จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกในเลยที่ปัจจุบัน ประเทศจีนจะเปลี่ยนจากผู้ตาม ขึ้นมาท้าชิงตำแหน่งผู้นำ และเป็นตัวแปรสำคัญในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่างๆ
หวังว่าทั้งหมดนี้น่าจะช่วยให้ผู้อ่านพอจะเห็นภาพว่าเส้นทางของจีน จาก นักลอกเลียนแบบ มาเป็นผู้บุกเบิก มีที่ไปที่มาอย่างไรเพิ่มมากขึ้นนะครับ
ปล.Valuation ของบริษัทต่างๆในประเทศจีน นับว่าไม่ธรรมดาเลย
โฆษณา