17 ม.ค. 2020 เวลา 08:04 • ความคิดเห็น
ข้อแนะนำจาก 💫Career Expert 💫ของบริษัทกูเกิ้ล เกี่ยวกับ 5 สิ่งที่ควรมีบนเรซูเม่ (resume)💻
ถ้าอยากให้ resume ของคุณปัง💥และโดนใจ❤จนต้องเรียกสัมภาษณ์ต่อ
อย่างที่ทราบกันดีว่า กูเกิ้ล (Google) หรือ ชื่อใหม่คือ อัลฟาเบท (Alphabet) เป็นหนึ่งในองค์กรยักษ์ใหญ่แห่ง IT ของโลก หรือที่เรียกกันว่า Tech Giants หรือบางคนก็เรียก Big Four เพราะมีการจัดอันดับโลกของบริษัท IT และ กูเกิ้ล ก็เป็นหนึ่งในสี่นั้นด้วย
และเมื่อเป็นบริษัทดังก็ย่อมเป็นบริษัทในฝัน (Dream Company) ของใครหลายๆคนเป็นธรรมดา และเชื่อมั้ยว่าแต่ละสัปดาห์มีคนส่งเรซูเม่ (Resume) มาสมัครงานกับ กูเกิ้ล ถึง 50,000 คน (ว้าว🤩😲 มั้ยล่ะ! แต่ตัวนี้เลขนี้ก็หมายถึงทุกตำแหน่งทุกงานรวมกันแหละนะ) ฉะนั้น มันไม่ง่ายเลยที่เราจะผ่านด่านอยู่ใน shortlist หรือเข้าไปเป็น 1 ในคนที่ถูกเรียกสัมภาษณ์ สำหรับฝั่ง HR หรือ Recruiter เองก็คงจะกุมหัวไม่น้อย เพราะต้องเลือกเฟ้นกันจากข้อมูลที่มีมากมายขนาดนี้
ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญจากกูเกิ้ลจึงออกมาแนะนำว่าก่อนส่ง resume ก็ควรตรวจทานหลายครั้งนิดนึง แก้ไขคำผิดต่างๆให้เรียบร้อย และถ้าอยากจะให้คนอ่านสะดุดตาจนต้องดึง Resume ของเราออกมาอ่านและมีโอกาสจะได้สัมภาษณ์งานดีๆ ต้องควรมี 5 สิ่งบน resume ดังนี้
1. Focus on impact
พยายามเน้นผลงานเด่นๆที่เราเคยทำแล้วมีผลชัดเจน (impact) ต่อองค์กร ผู้เชี่ยวชาญการสรรหาบุคลากรของกูเกิ้ลกล่าวว่า สิ่งที่องค์กรสนใจไม่ใช่เพียงแค่ความสำเร็จสารพัดสิ่งที่คุณเคยทำมา แต่องค์กร/บริษัทให้ความสนใจว่าความสำเร็จที่ว่านั้นมีผลอะไรต่อองค์กร เช่น ผลงานที่คุณเคยสร้างสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างไร หรือคุณเคยคิดค้นวิธีไหนที่ทำให้ได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น เป็นต้น
2. Data and examples
ใส่รายละเอียดและตัวอย่างของผลงานที่เคยทำให้ชัดเจน เช่นระบุตัวเลข หรือรายละเอียดของผลงานที่สร้าง impact ต่อบริษัทของคุณ เพื่อให้คนอ่านรู้ว่าคุณเข้าใจและได้ทำมาจริงๆ
3. A clean and consistent format
รูปแบบต้องดูสะอาดไม่รกรุงรัง และต้องมีความคงที่ คำว่า "คงที่" ก็คือ เสมอต้นเสมอปลาย รูปแบบการเขียนต้องเหมือนกัน สอดคล้องกันทั้งหน้า ใช้ตัวหนังสือดำ พื้นขาว เว้นคั่นหน้า-คั่นหลัง ครึ่งนิ้ว ทุกคอลัมภ์ให้ตรงกัน รูปแบบตัวอักษร ขนาดตัวอักษร และช่องว่างให้เหมือนกัน และพยายามทำให้ resume กระชับ ซึ่งก็คือ สั้นแต่เก็บใจความสำคัญครบ และเมื่อคุณถูกเรียกสัมภาษณ์แล้ว รายละเอียดอื่นๆค่อยไปว่ากันในที่สัมภาษณ์อีกที
4. Relevance to job description (tailor your resume to each position) เนื้อหาใน resume ควรจะต้องสอดคล้องและตรงกันกับเนื้อหาของงานที่เราสมัคร นั่นหมายถึงให้ใส่เฉพาะสิ่งที่เกี่ยวข้องกับงาน และถ้าหากสมัครหลายงาน หลายตำแหน่งก็ควรต้องทำ resume แยกเฉพาะของแต่ละงาน โดยปรับเนื้อหาของ resume ให้ตรงกับงาน
5. Be fearless ในข้อสุดท้ายนี้ ผู้เชี่ยวชาญกูเกิ้ล บอกว่า อย่ากลัวที่จะต้องโม้ (don't be afraid to brag) คือให้โม้ความเก่ง ความสามารถทรงพลังสารพัดของเราไปให้เต็มที่เพราะการอายที่จะโม้ใน resume ไม่ช่วยให้ resume ของเราเจ๋งสุดได้ (ว่าแต่จะโม้อะไรก็ต้องคำนึงถึงความเป็นจริงด้วยนะจ๊ะ)
นอกจากนี้ จากประสบการณ์ตรงในสายงาน HR ของผู้เขียน ก็อยากจะบอกเพิ่มเติมว่า หลายบริษัทใหญ่ๆในฝั่งอเมริกาและยุโรปเค้ายังใช้โปรแกรมในการจับคำบน resume เพื่อดูว่าเนื้อหาบน resume ของเราตรงกับเนื้อหาของงานที่เราสมัครแค่ไหน หรือกี่ % ด้วยนะ
สำหรับ resume ที่ตรงกับงานน้อยกว่า % ของที่บริษัทกำหนดไว้บนโปรแกรมก็จะถูกคัดทิ้งอัตโนมัตไปเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาของ rectuiters ด้วย ดังนั้น การเขียนresume ให้ตรงกับเนื้องานที่สมัครจึงสำคัญมากๆนะจ๊ะ
โฆษณา