ข้ามหิมาลัยไต่หลังคาโลก ตอนที่ 9
ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่
หลังจากพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่มีความกดอากาศและออกซิเจนต่ำ คณะเดินทางบางส่วนยังอ่อนระโหยโรยแรงจากการเดินทาง แต่ใจยังสู้เพราะไหน ๆ ก็อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลข้ามภูเขามาจนถึงกรุงลาซาหมุดหมายสำคัญของการเดินทาง
เพื่อเป็นการบำรุงขวัญและกำลังใจ ผู้นำคณะเดินทางได้จัดให้มีการถวายสังฆทานโดยมีพระภิกษุที่ร่วมคณะเป็นผู้รับสังฆทานและจะนำไปทำบุญยังวัดในกรุงลาซาต่อไป
ระหว่างประกอบพิธีกล่าวถวายสังฆทาน ผู้นำกล่าวคำถวายมีอาการแปลก ๆ และพูดถึงนิกายมหายาน กับ เถรวาท ว่าเป็นของคู่กัน ดังนกที่มีสองปีก การจะบินไปได้ก็ต้องอาศัยทั้งสองปีก อย่าได้แตกแยกกัน และพูดถึงมีบางคนอาจดูหมิ่นดูแคลนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาจจะโดยไม่ตั้งใจ หรือโดยประมาทพลาดพลั้ง ศัพท์แสงที่ผู้นำกล่าวคำถวายกล่าวออกมาเป็นคำที่ใช้ในศาสนจักรที่ต้องเป็นผู้ศึกษาพุทธศาสน์อย่างลึกซึ้ง
ผมเองในฐานะที่เป็นนักเขียนบทสารคดีเกี่ยวกับพุทธศาสนาก็อดฉงนสนเท่ห์ไม่ได้ จึงเดินอ้อมไปดูหลังโพเดี้ยมที่ใช้ยืนพูดว่ามีโพยหรือร่างคำกล่าววางไว้หรือไม่ แต่ก็ไม่ปรากฏ เท่าที่สดับรับฟังเป็นการกล่าวออกมาแบบด้นสด ๆ และลงท้ายประมาณว่า...”พวกท่านได้รับทุกขเวทนามามากแล้ว ขออโหสิกรรม” จากนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดคือผู้นำกล่าวคำถวายและกล่าวถ้อยคำดั่งธรรมโอวาทซึ่งรูปร่างค่อนข้างอ้วนน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัมสปริงตัวขึ้นแล้วล้มหงายหลังลงลงพื้นเสียงดังได้ยินไปทั่วห้อง จากนั้นค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนแบบ งง ๆ
..........ท่ามกลางความตกตะลึงของคณะเดินทาง เมื่อตั้งสติกันได้ก็ดำเนินการต่อด้วยการกรวดน้ำอุทิศบุญกุศล
ผมกระซิบถามผู้ชำนาญการด้านศาสนคดี....ท่านยิ้ม ๆ ก่อนเอ่ยว่า
......“ พระลามะชั้นผู้ใหญ่ ท่านเมตตามาโปรด”
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
