17 ม.ค. 2020 เวลา 15:18 • ไลฟ์สไตล์
จบมหาวิทยาลัย👩🎓ทำไมมาขับแท็กซี่?👮♀️part2
จุดเริ่มที่คนรู้จักคือโพสนี้ที่เพื่อนแชร์ในทวิตเตอร์
⚠️คำเตือน : บทความนี้มีความยาว และเป็นการบรรยายสภาพจิตใจช่วงที่จมดิ่ง เกรี้ยวกราด และ หมดไฟ ใครที่กำลังเครียด ซึมเศร้า อาจจะข้ามบทความนี้ไปก่อนได้นะคะ
ก่อนแก้วจะออกจากงานประจำมาขับแท็กซี่
มีหลายคำถามเกิดขึ้นในใจ และวนเวียนอยู่ยาวนาน หาคำตอบไม่ได้เสียที
ถ้าร่างกายส่งสัญญาณเตือนครั้งแล้วครั้งเล่าว่าขอหยุดพัก แต่คุณยังดื้อ ทำงานวันละ16 ชั่วโมง ตี 2 ไลน์สั่งงานดังยังตื่นมาดู จนสุดท้ายร่างล้มทั้งยืน
คุณยังจะฝืนทำต่อไหม?
ถ้าทุกๆคืน ฝันถึงแต่งานที่ต้องส่ง
เห็นลิสต์รายชื่อคนที่ต้องโทรหายาวไม่สิ้นสุด
และที่เหมือนฝันร้าย คือ เห็นตัวเองนั่งทำข้อสอบ
ที่ตอบไม่ได้สักข้อ นั่งมึนจนหมดเวลา
เลยต้องส่งกระดาษเปล่า
พอตื่นมาก็เพลีย จำฝันได้ทุกอย่างราวกับเรื่องจริง แล้วจะมีคืนไหนบ้างที่คุณได้นอนหลับเต็มตา?
ถ้าตอนเช้าคุณตื่นขึ้นมาแล้วลุกไม่ไหว
อยากจะนอนซุกในผ้าห่มตลอดกาล
ไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากเข้าห้องน้ำ
ไม่อยากกินข้าว แต่วันนี้มีประชุมเช้า ยาวถึงดึก ถ้านั่งรถไฟฟ้าไปต้องเผื่อเวลา 2 ชม. และเสี่ยงไม่มีรถกลับ แต่ถ้าขับรถไปเองเหลือแค่1ชั่วโมง
งั้นนอนต่อดีกว่าไหม แต่ขับรถไปก็เบื่อรถติดจัง กลัวจะหลับใน
คุณจะเอาชนะความขัดแย้งในใจอย่างไรดี?
ถ้าคุณไปทำงานสายอีกแล้ว ฟังเจ้านายดุเรื่องเดิมแต่ไม่เคยแก้ไขได้ นายบ่นไม่อยากคุยด้วย เพราะช่วงนี้ชอบพูดตรงๆ แรงๆ ทำร้ายจิตใจ
ไล่คุณไปนั่งไกลๆ เพราะเห็นหน้าอมทุกข์ของคุณแล้วเครียด เค้าก็มีเรื่องเครียดมากพอแล้ว
ทีนี้คุณควรจะพิจารณาตัวเองไหมว่ายังเป็นเลขาที่ดีได้หรือเปล่า?
ถ้าคุณทำงานทุ่มสุดตัว อยากให้เนื้องานออกมาสมบูณ์100% แต่ในความจริง ด้วยงบและเวลาบีบให้งานออกมาได้เพียง 80% คุณรับไม่ได้ เถียงสู้ไม่ยอมปล่อยผ่าน จนนายต้องเรียกมาคุย
ว่าเค้าเป็นเจ้าของยังต้องยอม แล้วคุณเป็นใคร
ปลงเสียเถิด แต่สุดท้าย คุณก็ยังผิดหวังกับผลงานอยู่ดี ไม่รู้ต้องทำใจอย่างไร?
ถ้าคุณกลับบ้านมาตอนดึก พบว่ากระต่ายของคุณนอนนิ่งไปอีกตัวแล้ว วันก่อนก็จากไปตัวหนึ่ง อาทิตย์ก่อนก็อีกตัวหนึ่ง กระต่ายถูกทิ้งที่คุณอุตส่าห์พากลับมาเลี้ยงที่บ้าน เริ่มจาก 4 ตัว แต่ทำหมันไม่ทันจึงออกลูกมาเป็น 10 กว่าตัว
ต่อมาก็ค่อยๆ ทยอยจากไป เพราะคุณดูแลไม่ดี?
เพราะไปหาหมอไม่ทัน? ถ้ามีเวลาให้เขามากกว่านี้ เด็กๆ จะมีชีวิตที่ดีขึ้นไหม? เรากำลังช่วยชีวิตเขา หรือทำบาปกันแน่?
เที่ยงคืน ตีหนึ่ง คุณเพิ่งดูแลสัตว์เลี้ยงเสร็จ
แม่เข้านอนก่อนนานแล้ว
เช้าแม่ก็ออกจากบ้านก่อนคุณตื่น ไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน แต่เมื่อแม่ฝากให้พิมพ์เอกสาร
คุณก็ลืมตลอด ขอเลื่อนไปเรื่อยๆ
แม่บ่นเรื่องทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า เปลี่ยนทรายแมว ล้างกรงกระต่าย คุณก็หงุดหงิด
รู้ว่าต้องทำแต่เหนื่อยไม่อยากทำ จะทำวันหยุด
แม่ขู่จะเอาแมวกระต่ายไปปล่อย คุณกลับลั่นว่าจะพาเด็กๆ ออกจากบ้าน ไปหาที่อยู่อื่น ควบคุมวาจาตัวเองไม่ได้ จนทำให้แม่ร้องไห้เสียใจ
คิดว่าคุณยังเป็นลูกที่ดีอยู่อีกหรือ?
คำถามทั้งหมดรุมเร้า หาคำตอบไม่เจอ
จนเริ่มรับตัวเองไม่ไหว สภาพตอนนั้นไม่ต่างจากซอมบี้ที่พุ่งเข้ากัดทึ้งทุกคนที่อยู่ใกล้ แพร่เชื้อร้ายใส่คนที่เรารัก จึงต้องรีบหาทางบำบัดรักษา
ในที่สุด จึงคิดได้ว่า เมื่อเราเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่ทำให้ป่วย และ เครียดไม่ได้ จึงต้องปรับที่วิถีชีวิต และวิธีคิดของเราเอง
เริ่มจากคุยกับนาย แจ้งลาออกล่วงหน้า
ขอมาทำงานแบบฟรีแลนซ์แทน
หยุดพักผ่อนอยู่กับบ้าน นอนให้เต็มที่ คือสิ่่งแรกที่อยากทำมาตลอด นอนยาวไม่ตั้งนาฬิกาปลุก เพราะเมื่อไหร่แมวหิวจะมาปลุกคุณเอง
ทบทวนความคิดและจิตใจ ว่าต่อไปอยากทำอะไร ทำได้แค่ไหน ศักยภาพตอนนี้ทำอะไรได้บ้าง
ให้เวลา ใส่ใจคนรอบข้างและเด็กๆ ให้มากขึ้น โดยไม่ลืมดูแล และรักตัวเอง อ่านหนังสือ ดูหนังที่ชอบ กินของที่อยากกิน นัดเจอเพื่อน พูดคุยแลกเปลี่ยนทุกข์สุขและการงาน ลงคอร์สอบรม ทำทุกอย่างให้เกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ
นั่งคุยกับแม่อย่างเปิดอกจริงจัง ยอมรับว่าที่ผ่านมาตัวเองป่วยและจิตตก ไม่อยากเป็นอย่างนี้อีก ต่อไปจะทำอะไรต่อ หาเงินอย่างไร
หลังจากนอนกลิ้งอยู่บ้านเฉยๆ 2 เดือน ก็สรุปได้ว่า ระหว่างรองานฟรีแลนซ์ จะลองขับแท็กซี่ เหมือนที่เห็นแม่ทำมาตลอด 10 กว่าปี และแม่มีรายได้มั่นคง สุขภาพก็ดีขึ้น เมื่อมีใบขับขี่สาธารณะอยู่แล้ว จึงไปทำบัตรประจำตัวผู้ขับขี่รถสาธารณะ หรือใบเหลือง รอ 1 เดือน จึงได้ใบมา
แต่เมื่อเริ่มขับวันแรก งานฟรีแลนซ์ก็เข้ามาพอดี เลยมีเวลาแค่ 2 ชั่วโมง รับคนได้ 2 เที่ยว ได้เงิน 80 บาท ก็ต้องไปประชุมงานต่อ แค่ช่วงเวลาสั้นๆนั้น เกิดความรู้สึกดีๆที่ได้เริ่มต้นใหม่ ทำให้เซลฟี่ตัวเองกับรถแท็กซี่ไว้ แล้วโพสต์บอกเพื่อนพี่น้องในเฟซบุคส่วนตัวว่า จากนี้ไปจะขับแท็กซี่แล้วนะ ไม่ได้รู้สึกอายอะไรเลย และไม่เคยคาดคิดว่าจะมีคนสนใจและสนับสนุนมากมายขนาดนี้
โพสแรกแห่งประวัติศาสตร์
ขอบคุณตัวเองในวันนั้นที่ตัดสินใจแบบนี้
ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุน และส่งกำลังใจมาจากทุกช่องทาง
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านข้อความยาวๆ มาจนถึงบรรทัดนี้ด้วยค่ะ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นนะคะ
ต่อไปจะเป็นบันทึกสั้นๆ ถึงเหตุการณ์ประทับใจเมื่อมาเริ่มขับแท็กซี่แล้ว ฝากติดตามกันต่อด้วยค่า
ขอบคุณภาพ+ข้อความให้กำลังใจของพี่เต้ วิสุทธิ์ค่ะ
โฆษณา