18 ม.ค. 2020 เวลา 05:01 • ประวัติศาสตร์
หลี่ซือซือ...ยอดหญิงงามเมืองที่แม้แต่โอรสสวรรค์ยังหลงรัก
หลี่ซือซือ {ภาพประกอบอาจติดเรท 18+}
.......ถึงขนาดที่ว่า องค์จักรพรรดิลงทุนขุดอุโมงค์จากพระตำหนักไปหาถึงที่ ณ หอนางโลม
จักรวรรดิต้าซ่งสมัยศตวรรษที่ 12 ในรัชสมัยของจักรพรรดิซ่งฮุยจง เป็นยุคของราชวงศ์ซ่งเหนือโดยจีนมีราชธานีอยู่ที่นครไคเฟิง บ้านเมืองในครานั้น มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงยอดหญิงงามเมืองผู้เลอโฉม ใครต่อใครก็ร่ำลือถึงความงาม ความสามารถในการร่ายรำและขับกล่อมเสียงดนตรี นางนั้นมีนามว่า "หลี่ซือซือ"
กิตติศัพท์ของนาง เลื่องลือไปทั่วไม่เว้นแม้กระทั่งในรั้ววังหลวง จักรพรรดิซ่งฮุยจง ฮ่องเต้รัชกาลที่ 8 ของต้าซ่ง (เป่ยซ่ง) โอรสสวรรค์ที่ไม่ถูกกับการเมืองการปกครองหรือการศึกสงคราม แต่งานอดิเรกที่ถนัดเชี่ยวชาญกลับเป็น งานศาสตร์ศิลป์ กวีและดนตรี นอกจากนั้นก็โปรดสาวงาม ฮ่องเต้มีพระประสงค์อยากพบปะกับนางสักครั้ง ถึงขนาดปลอมพระองค์เป็นสามัญชน ลอบหนีออกจากพระราชวังแล้วไปที่หอนางโลมที่นางบริการ
....'รักแรกพบแท้จริงเป็นอย่างไร เพราะเธอใช่หรือไม่ เปิดใจใครที่ฉันเป็น'.... เพียงฮ่องเต้ได้เห็นใบหน้าของนางก็ต้องรักหลง ชื่นชมในความงามแลประทับใจความสามารถของนางเป็นอย่างมาก หลี่ซือซือ ในเพลานั้นไม่ได้เอะใจสักนิดว่าลูกค้าที่นางปรนนิบัติเป็นถึงเจ้าเหนือหัวของผู้คนทั้งแผ่นดิน
ฮ่องเต้ซ่งฮุยจงปลอมเป็นสามัญคนในฐานะคหบดี ใช้บริการกับนางหลี่ซือซือครั้งแรกใน ปีต้ากวนที่ 3 (ค.ศ. 1109) หลังจากนั้นก็ทรงเป็นลูกค้าขาประจำเรื่อยมา อย่างไรก็ดี ความก็ไปถึงพระเนตรพระกรรณของ จักรพรรดินีเสี่ยนซู่หวงโฮ่ว ฮองเฮาของจ้าวจี๋ เจิ้งฮองเฮาทูลต่อฮ่องเต้ พระสวามีว่าอย่าเที่ยวหนีออกจากวังไปหาหอนางโลมอีก สาเหตุประการแรก หากมีพวกหยาบช้าคิดปองร้ายองค์จักรพรรดิ จะเป็นอันตราย ประการสอง นางเป็นเพียงหญิงคณิกาชนชั้นต่ำ หาได้คู่ควรกับประมุขจักรวรรดิ เจ้าชีวิตของราษฎรทั่วหล้าไม่ จ้าวจี๋จำพระทัยรับปากตกลง ตั้งแต่นั้นก็ไม่ได้แวะมาเยี่ยมเยียนนางหลี่ซือซืออีกเลย
จนกระทั่ง 10 ปีผ่านไป ที่สุดแล้วจ้าวจี๋อดคิดถึงนางผู้เป็นที่รักมิได้เลย ขันทีคนสนิทชี้แนะให้ขุดอุโมงค์จากพระราชวังตรงไปถึงที่ตั้งของหอนางโลม ทั้ง 2 จากกันนับทศวรรษเมื่อได้พบกันใหม่ ฮ่องเต้รับรู้ว่า กาลเวลามิอาจพรากความงามของนางหลี่ซือซือไปได้เลย นับจากนี้ต่อไป ฮ่องเต้ซ่งฮุยจงก็ใช้เส้นทางนี้ลอบหาสู่กับนางเสมอ
กาลต่อมา จักรพรรดิซ่งฮุยจงสละราชสมบัติ ดำรงพระองค์ในฐานันดรไท่ซ่างหวง สถานะพระชนกนาถแห่งจักรพรรดิ พระราชโอรส จ้าวหวน เถลิงราชย์เป็นจักรพรรดิซ่งชินจง ฮ่องเต้รัชกาลที่ 9 ของเป่ยซ่ง จีนเปลี่ยนรัชศกจากเซวียนเหอไปเป็นรัชศกจิ้งคัง
ยุคสมัยนั้น ทางตอนเหนือแผ่นดินจีนมีอาณาจักรหนึ่งกำลังเรืองอำนาจ นั่นก็คือ อาณาจักรต้าจิน หรือ ราชวงศ์จิน หรือที่รู้จักกันดีในนามของ กิมก๊ก เป็นรัฐของชาวหนี่เจินซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวแมนจูที่สถาปนาราชวงศ์ชิง ฮ่องเต้องค์ใหม่ จักรพรรดิซ่งชินจงครองราชย์ได้เพียงปีเดียว ในที่สุด เมื่อปี ค.ศ. 1127 กองทัพต้าจินกรีธาทัพบุกต้าซ่ง จนประชิดพระนคร สามารถยึดนครไคเฟิง เมืองหลวงเอาไว้ได้ ฮ่องเต้ซ่งชินจง (จ้าวหวน) ไท่ซ่างหวงหรืออดีตฮ่องเต้ซ่งฮุยจง (จ้าวจี๋) พระราชวงศ์แซ่จ้าว รวมทั้งข้าราชบริพารกว่าหมื่นคนถูกต้อนกลับไปเป็นเชลยศึกที่ต้าจินหรือบริเวณเมืองฮาร์บินในปัจจุบัน จ้าวจี๋ถูกเนรเทศไปที่เฮยหลงเจียงและสิ้นพระชนม์ ณ ที่แห่งนั้น ในปี ค.ศ. 1135 สิริพระชนมายุ 52 พรรษา
ส่วนเรื่องของนางหลี่ซือซือ มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับชะตากรรมของนางอยู่ 3 กระแส
1. นางสามารถหลบหนีออกจากไคเฟิงได้ แล้วบวชเป็นนักพรตลัทธิเต๋าตลอดชีวิต
2. จักรพรรดิแห่งอาณาจักรจินสามารถไล่จับนางได้ บังคับให้เป็นนางบำเรอ หลี่ซือซือไม่ยินยอมให้ศัตรูมาหยามเกียรติ นางจึงกลืนปิ่นปักผมเป็นการฆ่าตัวตาย
3. หลี่ซือซือ หนีไปอาศัยจักรวรรดิซ่งใต้ (หนานซ่ง) ได้สำเร็จ แต่ผู้คนต่างกล่าวโทษว่า นางเป็นหญิงงามล่มเมือง จึงไม่มีใครคบค้าสมาคมด้วย ชีวิตนางตกระกำลำบาก แต่แล้วก็เป็นเมียน้อยของพ่อค้าคนหนึ่ง อย่างไรเสีย สุดท้ายก็จบชีวิตด้วยการกระโดดลงแม่น้ำเฉียนถัง
...และนี้ก็คือเรื่องราวของ หลี่ซือซือ โสเภณีที่แม้แต่องค์จักรพรรดิยังหลงใหล ขณะที่บ้านเมืองอยู่ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน...
เจมส์ เซิ่งจู่
แฟนพันธุ์แท้ ราชวงศ์จีน
จักรพรรดิซ่งฮุยจง (จ้าวจี๋) ฮ่องเต้รัชกาลที่ 8 ของจักรวรรดิเป่ยซ่ง (ราชวงศ์ซ่งเหนือ)
โฆษณา