19 ม.ค. 2020 เวลา 03:43 • ครอบครัว & เด็ก
👉 เมื่อภาษาอังกฤษฉันดีขึ้นได้.....เพราะลูก
👉 เรื่องดีๆที่อยากจะแชร์
🙏 สวัสดีเพื่อนๆชาว Blockdit ทั้งหลาย โพสต์นี้เป็นโพสต์แรกของเพจ ที่ต่ายอยากจะมาแชร์เรื่องราวภาษาอังกฤษของตัวเองและการเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กสองภาษา ซึ่งต่ายคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคน
เรื่องนี้มาจากประสบการณ์จริงของตัวต่ายเอง จริงๆแล้วต่ายเรียนจบเอกภาษาอังกฤษมาโดยตรง เริ่มเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ 5 จนถึงมหาวิทยาลัยรวมระยะเวลา 12 ปี โฟนิกส์ โฟเนติกส์ ต่ายเรียนมาหมดค่ะ แต่เพื่อนๆเชื่อมั๊ยคะว่าต่ายพูดและฟังภาษาอังกฤษไม่ได้เลย
ต่ายถนัดแต่อ่านกับเขียน ฟังและพูดไม่ได้เรื่องเอามากๆเลยค่ะ ถ้าคะแนนเต็ม 10 ต่ายให้คะแนนตัวเองที่ระดับ 2-3 พอค่ะ มันแย่ขนาดนั้นเลยจริงๆ เพราะตอนสมัยเรียนต่ายไม่เคยดูหนังฝรั่ง ไม่เคยฟังเพลงสากล ฟังแต่เพลงค่ายอาร์เอส ดูแต่ละครช่อง7
อีกอย่างในสมัยนั้นยังไม่มียูทูปเหมือนสมัยนี้ เลยไม่มีสื่อให้เราได้ศึกษาเหมือนตอนนี้ ยิ่งกว่านั้นต่ายไม่กล้าที่จะเข้าไปพูดภาษาอังกฤษกับฝรั่งเลย รู้สึกว่าไม่มั่นใจในตัวเอง กลัวพูดผิด ไม่กล้า มีครบทุกคุณสมบัติที่ทำให้ภาษาอังกฤษของตัวเองแย่ได้ขนาดนี้
ยิ่งตอนทำงานที่แรก เวลารับโทรศัพท์จากลูกค้าต่างประเทศนี่อยากจะร้องไห้มาก ลูกค้าพูดอะไรมาไม่รู้เรื่องเลย หัวหน้าเห็นแล้วต้องส่ายหน้าหงิกๆ ทุกครั้ง คงงงอยู่เหมือนกันว่าแกจบเอกภาษามาได้ไงว๊า ยิ่งตอกย้ำทำให้เรารู้สึกว่าทำไมภาษาเราแย่ขนาดนี้ทั้งๆที่เราเรียนมาก็เยอะนะ
มันทำให้เรารู้สึกสูญเสียความมั่นใจมากๆ
จนมาถึงจุดเปลี่ยนของตัวเองเมื่อตอนมีลูก ไม่อยากให้ลูกเป็นเหมือนเรา อยากให้เค้าพูดภาษาที่ 2 ได้ก่อนไปโรงเรียน เพื่อจะได้ไปต่อภาษาที่ 3 4 ในโรงเรียนได้อย่างสบายใจต่อไป เลยตั้งใจว่าจะพูดภาษาอังกฤษกับลูกตั้งแต่เล็ก
หลังจากมีลูกก็เริ่มจากการเรียนรู้คำศัพท์ต่างๆเหมือนเริ่มเรียนใหม่ไปพร้อมๆกับลูก คำศัพท์บางคำก็เพิ่งมารู้จักตอนสอนลูกเนี่ยแหละค่ะ ชี้นั่นชี้โน่นชี้นี่แล้วพูดเป็นภาษาอังกฤษกับลูก ลูกพูดไม่ได้ก็พูดเองถามเองตอบเองเหมือนพูดอยู่คนเดียวเลยค่ะ จดจำประโยคพูดที่เจ้าของภาษาใช้พูดกันจริงๆแล้วนำมาพูดกับลูก
ตอนพูดแรกๆก็ไม่ค่อยจำหรอกค่ะว่าถ้าทำแบบนี้จะพูดยังไง จะพูดอะไรกับลูกแต่ละทีก็ต้องนึกภาษาไทยก่อนและประมวลผลเป็นภาษาอังกฤษออกมาอีกที กว่าจะพูดออกมาก็ใช้ระยะเวลาพอสมควรเสียเวลาไปหลายนาที  แต่พอจะพูดออกมาที อ้าวเห้ยลูกเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแล้วแม่ยังไม่ทันได้พูดประโยคนี้เลยลูก
นอกจากพูดกับลูกแล้วก็มีอ่านนิทานให้ลูกฟัง ต่ายได้ประโยคพูดจากการอ่านหนังสือไปพูดกับลูกเยอะมาก นอกจากนั้นต่ายก็เริ่มฟังเยอะขึ้น ฟังเพลงเด็กที่เปิดให้ลูกฟังได้คำศัพท์ใหม่ๆเยอะแยะมากมาย ฟัง Peppa Pig ฟังซีรีย์ของอังกฤษ Extra English และ Topsy and Tim และอีกหลายๆเรื่อง
ผลลัพธ์จากการฟังเยอะนั้นมันได้ผลดีมากๆๆๆๆเลยทีเดียวค่ะ มันทำให้เราคุ้นสำเนียงเจ้าของภาษา ฟังออกมากขึ้นและหลังจากที่ฟังบ่อยๆ เริ่มรู้สึกว่าฟังง่ายขึ้นเข้าใจง่ายขึ้น และที่สำคัญเวลาต่ายพูดภาษาอังกฤษต่ายไม่ต้องคิดเป็นไทยอีกแล้วค่ะ คิดเป็นอังกฤษแล้วก็พูดออกมาเองโดยธรรมชาติมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
แต่ต่ายก็ยังไม่ถึงขั้นเก่งอะไรมากมายนะคะ แค่รู้สึกว่าภาษาอังกฤษของตัวเองดีขึ้นกว่าแต่ก่อนตอนที่ยังไม่มีลูก มันทำให้เรารู้สึกว่าถ้าไม่มีลูก เราคงไม่มีแรงบันดาลใจที่พัฒนาภาษาอังกฤษของเราอย่างจริงจังขนาดนี้ ตอนนี้ต่ายมีลูกไว้เป็นบัดดี้คอยพูดภาษาอังกฤษกับต่ายเกือบ 70-80% ทำให้การพูดภาษาอังกฤษเป็นเรื่องปกติและไม่อายที่จะต้องพูดมันออกมาสำหรับบ้านเราไปแล้ว
อีกอย่างต่ายจะพยายามจดสำนวนใหม่ๆที่ได้จากการฟังหรืออ่านลงสมุดทุกครั้งและพยายามหาโอกาสนำมาใช้เวลาเขียนโพสต์อะไรในเฟสบุ๊คก็พยายามเขียนเป็นภาษาอังกฤษซึ่งมันจะช่วยให้เราจำได้มากขึ้น ถ้าเราทำได้บ่อยแค่ไหน มันก็จะทำให้เราพัฒนามากขึ้นเท่านั้น
ถ้าเราพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ต่ายคิดว่าเราจะเก่งในทุกๆเรื่องได้ไม่ยากค่ะ
ฝากเป็นกำลังใจให้เราสองแม่ลูกและฝากกดติดตามด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ 💕🙏🙏
โฆษณา