20 ม.ค. 2020 เวลา 01:18
How to train & take care น้องจระเข้ & อัลลิเกเตอร์ ของคุณอย่างมีความสุข
การเลี้ยง อัลลิเกเตอร์ หรือ จระเข้นั้น ก็ต้องมีความระมัดระวังในการเลี้ยง
เป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับ การเลี้ยงสัตว์อันตรายประเภทอื่น คือ ต้องไม่ประมาท แต่ สัตว์เลื้อยคลานยักษ์ใหญ่พวกนี้ ถ้ามีความคุ้นเคยกับผู้เลี้ยงแล้ว ก็มีความปลอดภัยในระดับหนึ่งเหมือนกันครับ จนบางทีอาจจะเรียกมาเกาคอเหมือนน้องแมวก็ได้จริงๆ เหมือนกัน (ฮา)
ถ้ามีความคุ้นเคยกันดีแล้ว ก็สามารถฝึกให้จระเข้น้้นมีความคุ้นเคยกับมนุษย์ได้ดังภาพ
เด็กๆสามารถเล่นกับอัลลิเกเตอร์ตัวเล็กๆได้อย่างค่อนข้างปลอดภัย
สำหรับแนวทางการฝึก หรือ ทำความคุ้นเคย กับ จระเข้ทุกสายพันธุ์นั้น ก็ไม่มีอะไรมาก เราสามารถฝึกให้จระเข้ เข้ามาหา หรือ หยุดได้ โดยการทำสัญลักษณ์มือ หรือ ส่งเสียงเรียก หรือ หยุด แบบง่ายๆเสียงดังฟังชัด จระเข้ หรือ อัลลิเกเตอร์นั้น เป็นสัตว์เลื่อยคลานที่มีขนาดใหญ่ และ มีความฉลาดที่จะจดจำผู้เลี้ยงได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว โดยก่อนที่จะทำความคุ้นเคยกับจระเข้ หรือ อัลลิเกเตอร์นั้น ก็ควรจะป้อนอาหารจระเข้ ให้เขาอิ่มก่อน จนเขาชินว่า เมื่อเข้ามาหาจะอิ่มท้องนั่นเองเด้อครับเด้อ หลังจากนั้น ก็อาจจะเริ่มทำความคุ้นเคย เช่น ลูบจมูกเขา ( จระเข้จะชอบ ) ลูบคอ หรือ อะไรก็ตามที่แสดงความเป็นมิตร โดยต้องสังเกตอากัปกิริยาของเขาด้วย ว่าเขาพอใจหรือไม่ ถ้าจระเข้ นิ่งๆ ทำตาพริ้มๆโดยเราก็สามารถตั้งชื่อของจระเข้ที่เราอยากทำความคุ้นเคยเขาได้ และ เรียกเขาบ่อยๆ ให้เขารู้สึกคุ้นเคยเช่น ตั้งชื่อที่ฟังง่ายๆ แล้ว คุยกับเขา ด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร เช่น ถ้าเป็นชาวต่างชาติ ก็อาจจะเรียกชื่อจระเข้สั้นๆ ด้วยชื่อที่จำง่ายๆ ออกเสียงง่ายๆ เช่น Peter บ้าง , Chester บ้าง หรือ ไม่ก็เรียก Boy หรือ Girl แบบรวมๆ สารพัดชื่อก็ว่ากันไป แต่ถ้าเป็นในไทยเรา ๆ ก็อาจจะตั้งชือง่าย ๆ ให้กับเขาก็ได้ เช่น
" ตู่....ตู่ ลูกมากินปลาเร๊ววว จะได้ฉลาดๆ เหมือนเพื่อนเขาเนาะ เอ้า โยนให้ ยังงับไม่ถูกอีก...ต้องป้อนถึงปากเลยไหมเนี่ย... "
" ป้อม...ป้อมเอ๊ย ช่วงนี้กินเยอะนะลูก อ้วนมากไปแล้ว งดๆ กินซักมื้อสองมื้อนะลูกนะ ข้อเข่าจะเสื่อม
จะคลานไม่ไหวแล้ว..."
หรืออะไรเทือกๆประมาณนี้ล่ะนะครับ จระเข้จะได้จำได้ และพอจะรู้ว่า เรากำลังทำปฏิสัมพันธ์กันกับเขา....อย่าไปดุเขามากนะ เพราะมีคำยืนยันจากผู้ที่คลุกคลีกับจระเข้มานานว่า จระเข้ นี่ก็งอนได้ เหมือน กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น น้องหมา หรือน้องแมวที่บ้านเหมือนกันเน่อ
ผู้ดูแลที่คุ้นเคยกับอัลลิเกเตอร์ สามารถอยู่ในดงของอัลลิเกเตอร์ได้อย่าง
ปลอดภัย
สำหรับอัลลิเกเตอร์ที่คุ้นเคยกับคนแล้ว ก็สามารถที่จะลงไปในพื้นที่ๆเขาอาศัยได้อย่างใกล้ชิด
จระเข้ และ อัลลิเกเตอร์ มีความสามารถในการจดจำผู้เลี้ยงได้เป็นอย่างดียิ่ง สามารถเรียกขึ้นมาจากน้ำได้อย่างสบายๆ โดยการร้องเรียก เขาก็จะขึ้นมาจากน้ำมาหาโดยทันที เรียกได้ว่า เรียกมาหาได้ง่าย กว่าแมวบางตัวอีกครับ
ถ้ามีเวลาก็ขอให้ผู้เลี้ยงเก็บปลิงดูดเลือดออกจากตัวเขาบ้างอะไรบ้างเน่อ
ปลิงติดปากก๊าบบบบ....ช่วยเอาออกให้ผมหน่อย....
ควรใช้กิ่งไม้เขี่ยปลิงออกให้เขานะครับ ไม่อย่างนั้น บางทีเกิดโดนงับมาเบาะๆ หรือ ปลิงหันมาดูดเลือดเราแทน เราจะเจ็บตัวเปล่าๆเด้อ
อย่างไรก็ตาม สำหรับจระเข้แล้วคนที่ต้องการดูแล ควรหลีกเลี่ยงการลงไปอยู่บริเวณริมน้ำตื้นๆ ซึ่งเป็นโซนที่จระเข้ จะพุ่งตัวได้ค่อนข้างเร็ว ให้พยายามชวนจระเข้ ขึ้นมาบนบก จะเป็นการปลอดภัยแก่ผู้ฝึกมากขึ้น ( แต่ไม่ว่าจะตรงไหน ก็ต้องมีสติ ไม่ประมาท ทั้งสองพื้นที่นะครับ แต่ถ้าเป็น อัลลิเกเตอร์ ที่มีความก้าวร้าวน้อยกว่า ก็พอจะลงไปอยู่ในน้ำ เพื่อทำภารกิจบางอย่าง เช่น ขัดเนื้อ ขัดตัว ทำความสะอาดเขา หรือ หาปลิงที่มาเกาะตัวดูดเลือดเขาได้สะดวกขึ้นครับ เพราะ อัลลิเกเตอร์ นั้นจะก้าวร้าย ดุร้าย เป็นอันตรายต่อคนน้อยกว่า จระเข้อยู่มากพอสมควร แต่มีบางเวลาคนเลี้ยง ก็ต้องเผ่นเหมือนกัน ถ้าเขาเกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาละนะครับ (ฮา) นอกจากนี้ อาจจะมีบางครั้งที่จระเข้หรือ อัลลิเกเตอร์ ตีกัน อันนี้ก็ต้องขอบอกว่า ไม่ต้องเข้าไปห้ามนะครับ เดี๋ยว คนจะไปห้าม จะสาหัสกว่าซะเอง ปกติก็มักจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ ก็จะไม่ถึงชีวิตล่ะเน่อ และ ถึงจะเอาน้ำสาด ก็ไม่หยุดกัดกันเหมือนน้องหมา น้องแมวเน่อ อันนี้ก็เฝ้าดูอยู่ห่างๆไปก่อน ส่วนใหญ่ สัตว์พวกนี้ จะทะเลาะกันซักพัก แล้วก็จะแยกย้ายกันไปเองครับ ค่อยตามไปใส่ยาที่หลังอีกทีก็พอ หรือ จับออกไปดูแลต่างหาก ถ้ามีแผลมากๆ แต่ส่วนใหญ่ จะไม่
ได้เป็นอะไรกันมากครับ
Referrence :
โฆษณา