24 ม.ค. 2020 เวลา 05:14 • ความคิดเห็น
🍃 วันนี้นึกมุกเก่าได้แล้ว....
.....สำนวนใครนะ...ขอยืมมาใช้บ้าง 😁😂
วันนี้คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย...
ถึงความหลัง เมื่อครั้งเป็นเด็กประถม...
จุดเริ่มต้นการเป็นหนอนหนังสือ....
เริ่มตอนนั้น...ได้อ่านนิทานเรื่อง....
การผจญภัยของผ้าขี้ริ้ว...แล้วชอบ
เรื่องราวเป็นอย่างไร...🌿
ตามแมน Indy man มาเลยครับ 🔥
🍃 การผจญภัยของผ้าขี้ริ้ว..
สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ แหม ! ฉันรู้สึกอาย
จังเลยค่ะ แต่ก็มีความยินดีมาก ที่ได้มาเล่า
เรื่องของดิฉันให้เพื่อน ๆ ฟัง
ไม่ต้องถามหรอกค่ะ ว่าดิฉันเป็นใคร เพราะดิฉันกำลังบอกว่า ฉันคือ "ผ้าขี้ริ้ว" เพราะเพื่อนๆคงรู้จักดีทุกคน และยังคงเคยใช้
้พวกพ้องของฉันเช็ดข้าวของ ต่าง ๆ ด้วย
ใช่ไหมคะ ?
วันนี้ดิฉันนอนอยู่ข้างห้องน้ำ ในคฤหาสน์
์ของนายกเทศมนตรี (ขอใช้คำว่าคฤหาสน์
เถิดนะคะ เพราะมันโก้ดี)
แต่เดิมน่ะ ดิฉันไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกค่ะ ดิฉันเป็นกางเกงของเด็กชายเล็ก ๆ คนหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ ที่หมู่บ้านจัดสรร แห่งหนึ่ง
แถวชานเมืองต่อมาสัก 2 ปีเห็นจะได้
ฉันเก่าลง และเด็กชายคนนั้นใส่ฉันไม่ได้อีกแล้ว รวมทั้งก็ไม่มีน้องเสียด้วย
ฉันต้องเลยแปรสภาพลงมาเป็น "ผ้าขี้ริ้ว"
แหม ! เดิมดิฉันเป็น "คน" รักความสะอาด
เสียด้วยซี
ฉันจึงไม่ค่อยอยากจะเช็ดฝุ่นอันเปรอะเปื้อน
อยู่ตามฝาผนัง หรือเช็ดคราบกาแฟที่หก
ลงบนโต๊ะเสียเลย
แต่..บัดนี้ ฉันรู้สึกยินดีมากทีเดียวที่ฉันได้เป็นผู้รักษา
ความสะอาดที่ต่าง ๆ และสิ่งของภายในบ้าน
ประโยชน์ของดิฉันมิได้ลดน้อยลงไปกว่า
การที่ฉันเป็นกางเกงแต่เดิมเลย แต่ฉันก็ยังเป็น
สิ่ง "สกปรก" ตามความคิดของคนอื่น
อยู่นั่นเอง
ทั้ง ๆ ที่ฉันช่วยให้ บ้านและสิ่งต่าง ๆ
ของสะอาดน่ามองดูแท้ ๆ เขาควรจะชมฉัน
มากกว่าว่าฉันเป็นสิ่ง "สกปรก" เสียอีก
วันหนึ่งคนใช้รื้อตู้เก่า ๆ และนำฉันไปเช็ด
สิ่งต่าง ๆ ที่รื้อออกมา มีทั้งตลับชี้ผึ้งเก่า ๆ กล่องรูป เหรียญสตางค์แดง โอ๊ย ! ยังมีอีก
เยอะแยะ วันนั้นฉันสกปรกมาก คนใช้จึงนำฉัน
ไปซัก และตากใว้ที่ราวผ้า โดยไม่ใช้ไม้หนีบ หนีบฉันใว้
สักครู่ มีลมกรรโชกมาอย่างแรง ฉันจึงปลิวมาติดที่กิ่งไม้ ฉันติดอยู่ที่นั่นทั้งวัน
แล้ววันรุ่งขึ้น มีนกตัวหนึ่งบินมาคาบฉันไป จะเอาฉันไปรองรังของมันกระมัง เฮ้อ !
ค่อยยังชั่วหน่อย นี่ฉันจะได้ " บำเพ็ญ " ประโยชน์อันแปลกประหลาดอีกแบบหนึ่งแล้ว
แต่แล้ว..ว้า ! เรื่องของฉันมี...แต่...อยู่เรื่อยเลย แต่แล้ว... มีนกอีกตัวหนึ่งบินมา แล้วแย่งฉัน
กับนกตัวเก่า ทั้งสองแย่งฉันอยู่ตั้งนานแน่ะ
ในที่สุด...ตัวของฉันขาดเป็น สองส่วน ส่วนหนึ่งของฉัน ซึ่งเป็นส่วนเล็ก ๆ ติดไปกับนกตัวใหม่ อีกส่วนหนึ่งติดไปกับ
นกตัวเก่า
นกตัวเก่าบินคาบฉันผ่าน ทุ่งนา ป่า หมู่บ้าน จนถึงหมู่บ้านในแหล่งเสื่อมโทรมแห่งหนึ่ง
มีเด็กชาย 2 - 3 คน ใช้ก้อนหินปานก นกร้องด้วยเสียงอันดัง การที่นกอ้าปากร้อง
ทำให้ฉันร่วงจากปากของเขา และเขาก็ไม่สามารถแย่งฉันคืน เพราะเด็กเหล่า
นั้นตะครุบฉันใว้ เขาจึงบินหนีไป
ฉันสงสารเขาจังเลย เด็กพวกนี้ใจร้ายจริงหนอ เขาไม่ได้ทำร้ายใครสักนิด ยังใช้ก้อนหินปาเขา
ได้ลงคอ..
เด็กชายเหล่านั้นจึงพูดว่า
"เฮ้ย ! ชัย ขอกางเกงตัวนี้ให้ข้าเถอะ ข้าจะเอาไปให้แม่ข้าซ่อมให้น้องใส่"
เด็กชายคนหนึ่งซึ่งไม่ได้สวมเสื้อ แต่สวมกางเกงสีน้ำเงิน ซึ่งเปื้อนฝุ่นและถ่าน จนสีติดจะดำไปทุกที พูดขึ้น
"มันจะดีเหรอ เดช ข้าก็ช่วยปานกเหมือนกันนา" เด็กชายที่ชื่อชัยพูด "ให้เดชไป เถอะชัย ให้น้องเดชมันใส่"
เด็กชายที่ท่าทางเป็นหัวโจกและอายุมาที่ สุดพูด "ขอบใจมากนะพี่ก้อง" เดช พูด
แล้วเดชก็นำฉันเดินไปตามสะพานไม้เก่า ๆ ใต้สะพานเป็นน้ำเน่าสีดำ ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง และแล้ว....
เดชมาหยุดที่หน้าบ้าน ซึ่งมีลักษณะ เป็นเพิงเล็ก ๆ เขาก้าวเข้าไปในบ้าน เรียกแม่ให้ดูกางเกงอย่างยินดีว่า
"แม่ ดูกางเกงตัวนี้ซี เดชเก็บมาให้ "
"ให้แดงใส่หรือลูก" แม่พูดพรางใช้มือผอม ๆ ลูบศรีษะของเดชเบา ๆ อย่างรักใคร่
แล้วหยิบกางเกงมาดู
"แล้วแม่จะซ่อมตรงที่ขาดให้ ขอบใจเดชมาก" แล้วแม่ของเดชก็ใช้เศษผ้าเก่า ๆ ผืนเล็ก ๆ
มาปะที่ตัวฉัน
ฉัน ไม่ชอบตรงที่ปะนี่เสียเลย ดูไม่ใช่ตัวของตัวเอง มันเป็นผ้าเก่า ๆ สีซีด ๆ แต่ยังดีที่มันช่วยให้ฉันไม่ขาดเป็นรูโหว่อีกแล้ว..
แดง น้องของเดชใส่เสมอ ดูจะถูกใจเขายิ่งนัก ส่วนฉันกองอยู่กับกองเสื้อผ้า
วันหนึ่งแดงคงหิวงอแง และแม่ก็ไม่อยู่เสียด้วย ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้ แดงตรงมารื้อกองเสื้อ
อย่างอารมณ์ไม่ดี ไม่มีใครอยู่ ไม่มีใคร
ห้ามแดงเลย
ขณะที่แดงเหมือนช้างที่กำลังตกมันไม่มีใคร
ห้ามได้ ฉันถูกแดงปาออกมาทางหน้าต่าง โดยแรงและตกลงไปในน้ำครำสีดำ
ว้า ! ฉันไม่ชอบน้ำครำเสียเลย ฉันลอยตามน้ำครำไปเรื่อย ๆ แล้วลอดใต้
สะพาน เวลานี้เองที่ฉันสังเกตุเห็นว่า
มีสิ่งต่าง ๆ ลอยอยู่ในน้ำมากมาย มีถุงพลาสติก หลอดกาแฟ รองเท้า ท่อนไม้ กระป๋องลิ้นจี่ และสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย สภาพของฉันตอนนี้ ไม่เป็นกางเกงอีกแล้ว.....
ฉันลอยอยู่ในน้ำครำตั้งเกือบ 1 สัปดาห์ ฉันจึงมาเกยฝั่ง
ที่นั่นมีกองขยะมากมาย กองโตจนเหมือน
ภูเขาขยะ ขนาดย่อม ๆ กลิ่นน้ำเน่าเหม็น ๆ ก็ไม่ค่อยถูกกับฉันอยู่แล้ว ยิ่งมาพบกับกลิ่นขยะ ฉันยิ่งแย่ใหญ่ ตอนนี้ฉันเป็นผ้าสีดำ ๆ ตัวฉันมีกลิ่นเหม็นๆ ฉันไม่ชอบเลย
วันต่อมา ดวงอาทิตย์ทอแสงอ่อน ๆ
ฉันลืมตาขึ้น รู้สึกว่าตัวชุ่มไปด้วยน้ำค้าง
ในยามเช้า แต่ไม่นานนัก...หยาด น้ำค้างเหล่านั้น
ก็ระเหยไปจนหมด และตัวฉันเริ่มแห้ง...จนแห้งสนิท
เที่ยง..แสงแดดร้อนแรง จนตัวฉันแทบสลาย
ลงเป็นจุณ ยามนี้ อากาศร้อนอบอ้าวจริง ๆ
"ถ้ามีลมพัดมาสักวูบหนึ่งก็คงจะดีทีเดียว" ฉันคิด "ฉันจะได้คลายร้อน และถ้าลมพัดแรง ๆ ฉันก็อาจจะได้ไปจากที่นี่"
ยาม เย็น...อากาศเย็นขึ้น ฉันรู้สึกสดชื่น ความร้อนและอบอ้าวในตอนเที่ยงหายไปหมด...
ไม่นานนักมีเด็กหญิงเล็ก ๆ คนหนึ่งเดินมา
ที่กองขยะ เมื่อเธอเห็นฉัน เธอก้มลงเก็บฉันขึ้นมา จากนั้นเธอเดินไปที่กองขยะ ค้นหาถุงพลาสติก และเศษผ้าจนเนื้อตัวสกปรก
ใกล้ค่ำ เธอหยุดเก็บแล้วเดินออกไปจากที่นั่น
เธอพาดิฉันมาบ้านเล็ก ๆ หลังหนึ่ง ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวห่างจากบ้านหลังอื่น ๆ
เมื่อเธอเปิดประตูบ้าน ฉันแลเห็น หญิงสาว
ค่อนข้างสวยคนหนึ่งกำลังรีดผ้าอยู่ ผ้าที่รีดนั้น
เป็นผ้าผืนเล็กที่เย็บริมอย่างเรียบร้อย
ฉันดูก็รู้ว่าเศษผ้านั้น มีค่าขึ้น
เด็กหญิงวางของที่เก็บมาข้างฝาผนัง หญิงสาวหันมามองเด็กหญิงแล้วกล่าวว่า
"ขอบใจมากจ่ะปิ่น ลูกไปอาบน้ำอาบท่าเสียก่อนเถอะ ดูซิมอมแมมจังเลย"
ปิ่นเดินไปข้างในเพื่ออาบน้ำ....
ฉันสอดสายตาไปรอบ ๆ บ้าน ก็แลเห็นถุงพลาสติกขนาดต่าง ๆ กันตั้งอยู่ ฉันจึงพอเดาได้ว่า ปิ่นมีอาชีพขายถุงพลาสติก
และผ้าที่แม่ปิ่นกำลังรีด ส่วนคนที่ซื้อ
จะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่ ฉันนอนอยู่ข้างฝาผนังนั้นทั้งคืน เพราะปิ่นกับแม่ไม่ได้ย้ายฉันไปใว้ที่อื่น
รุ่งเช้า แม่และปิ่นช่วยกันซักผ้าที่ปิ่นเก็บมาและมีฉัน
รวมอยู่ด้วย ปิ่นกับแม่ซักอย่างสะอาด ทำให้ฉันสะอาดขึ้น แต่ยังไม่สะอาดทีเดียวนัก
แม่จึงบอกปิ่นว่า " ผ้าผืนนี้อย่าขายเลยนะลูก ยังไม่สะอาดดี เอาใว้ ทำผ้าขี้ริ้วในบ้านเราแล้วกัน"
"จ้ะ แม่" ปิ่นตอบ
ตั้งแต่นั้นมา ฉันก็เป็นผ้าขี้ริ้วอยู่ที่บ้าน
ส่วนผ้าอื่น ๆ ปิ่นก็เอาไปขายทุกวัน
แต่ระยะนี้เป็นระยะเศษฐกิจฝืดเคือง ปิ่นจึงขายผ้าไม่ได้ แม้จะขายถุงพลาสติกได้บ้าง แต่เงินที่ได้มาก็พอสำหรับค่าอาหารไปวันหนึ่ง ๆ เท่านั้น
แม่ของปิ่นเห็นไม่ได้การ จึงคิดจะออกไปหางานทำนอกบ้าน
แต่โชคไม่ช่วยแม่เลย
แม่ออกหางาน วันแล้ว..วันเล่า
จนเป็นสัปดาห์ แม่ก็ยังไม่ได้งาน
ฉันจึงได้แต่อวยพรให้แม่ได้งานทุกครั้งที่แม
่ออกจาก บ้าน....
แล้ววันหนึ่ง...แม่กลับมาจนค่ำ
พอเข้ามาในบ้าน แม่แสดงอาการดีใจแทนอาการเซื่องซึม
"แม่คงได้งานจริงๆ" ฉันนึกในใจ และก็เป็นจริง แม่บอกปิ่นให้เก็บของแล้วพูดว่า
"แม่ได้งานเป็นคนใช้ที่บ้านนายกเทศมนตรี ลูก ถึงแม้จะเป็นอาชีพที่ต่ำต้อยแต่ก็สุจริต" ฉันเห็นด้วยกับแม่
จากนั้น...แม่และปิ่นก็ย้ายไปอยู่บ้านนายกเทศมนตรี โดยขนข้าวของทั้งหมดไปใว้ทีบ้าน
นายกเทศมนตรี
ปิ่นเอาฉันไปด้วย นี่แหละ ฉันจึงได้มาอยู่ที่นี่.....
🍃 จบเรื่อง...การผจญภัยของผ้าขี้ริ้ว
🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿
อ่านแล้วจะเห็นได้ว่า...
เนื้อเรื่อง...ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย
เพราะเป็นเรื่องที่เอาไว้ให้เด็กประถมได้อ่าน...
แต่ที่ประทับใจคือ...
เป็นนิทานเรื่องแรก ๆ ในชีวิตการเริ่มเป็น
หนอนหนังสือของแมน เมื่อวัยประถม
จนเติบโตมาเป็นหนุ่ม (เหลือน้อย) ทุกวันนี้
ก็ยังอ่านไม่ยอมเลิกรา 😁😂
🍃 คำถามทิ้งท้าย...
เพื่อน ๆ มีนิทาน หรือหนังสืออะไรบ้าง
ที่เป็นจุดเริ่มต้น ในการเป็นนักอ่านบ้างครับ
🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿🌿
ถ้าชอบ...........กดไลก์...
ถ้าถูกใจ.........ช่วยคอมเมนต์
ไม่พลาดบทความดี ๆ ...... กดติดตาม
ขอได้รับความขอบคุณ....
# แมน # Indy man # Romantic man
24 Jan 2020
โฆษณา