23 ม.ค. 2020 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #โอกาสที่ไม่เคยได้รับ ]
จิม ลอว์เลอร์ แมวมองของแมนฯยูไนเต็ด แอบซุ่มส่อง ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" มาตั้งแต่ปลายปี 2009
หลังจากดูไปได้ 3 เกม ลอว์เลอร์ กลับมารายงาน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ว่านี่คือกองหน้าฝีเท้าดีจริง ยิงประตูแม่น มีความเร็ว หากขัดเกลาให้ดีรับรองว่ารุ่งโรจน์แน่
เฟอร์กี้ กังวลเรื่องอายุของ ชิชาริโต้ อยู่บ้าง เพราะยังดูน้อยเกินไป แต่ ลอว์เลอร์ เซ้าซี้หนักมาก บอกต้องรีบคว้าตัวมาให้ได้ ก่อนสโมสรใหญ่อื่นๆจะเริ่มเห็นและขยับตัว ตอนนั้นจะลำบากมากขึ้น
แผนของ เฟอร์กี้ คืออยากให้จบบอลโลก 2010 ซะก่อน ซึ่งเชื่อว่า ชิชาริโต้ จะติดทีมชาติเม็กซิโกไปลุยด้วยแน่ เลยอยากขอดูเองกับตาด้วย
ลอว์เลอร์ ย้ำอีกว่าถึงเวลานั้นอาจจะลำบากแล้ว เขาจึงถูกส่งไปยังเม็กซิโกในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมอีก 2 ครั้ง เพื่อสอบถามถึงความเป็นไปได้กับนักเตะและเอเยนต์
หลังจากนั้นจึงเริ่มเดินเรื่องคุยกัลดาลาฮาร่าต้นสังกัดและจัดการเอกสารต่างๆ โดยเฉพาะเวิร์ค เพอร์มิตหรือใบขออนุญาติประกอบอาชีพ ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาจากทางอังกฤษอย่างละเอียด
ชิชาริโต้ เพิ่งติดทีมชาติได้แค่ 2 นัด แต่ด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปี จึงได้รับการยกเว้น
ดีลนี้เสร็จสิ้นราวเดือนเมษายน มีการประกาศล่วงหน้าก่อนจะปิดฤดูกาล ค่าตัวไม่เปิดเผยแต่คาดว่าตกราว 10 ล้านปอนด์
ไม่ใช่ ชิชาริโต้ คนเดียวที่ตื่นเต้น โตมาส บัลกาซาร์ ปู่ของเขาและ ฮาเวียร์ "ชิชาโร่" เอร์นานเดซ ผู้พ่อก็ปลาบปลื้มไม่แพ้กัน
คิดดูเอาแล้วกันว่ามีลูกชายยังตั้งชื่อเหมือนตัวเองทุกอย่างและนิกเนมก็ใกล้เคียงกันมาก ชิชาโร่ แปลว่า "ถั่ว" มีที่มาจากดวงตาสีเขียว ดังนั้น ชิชาริโต้ จึงมีความหมายว่า "ถั่วน้อย" เพราะดวงตาก็ได้รับมาจากพ่อเต็มๆ
ด้วยความที่เป็นนักเตะอาชีพถึงชั้นติดทีมชาติเม็กซิโก มีชื่อทำศึกฟุตบอลโลก 1986 ชิชาโร่ จึงอยากจะให้ลูกชายเดินตามรอย
ชิชาริโต้ จึงถูกจับเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก แค่ 5 ขวบก็เข้าไปอยู่อะคาเดมี่ท้องถิ่น ก่อนย้ายไปยังทีมเยาวชนกัวดาลาฮาร่า สโมสรชั้นนำระดับประเทศตอนอายุ 9 ขวบ
เขาได้เล่นชุดใหญ่ตั้งแต่ 18 ปี กระทั่งฝากผลงานไว้ที่ 21 ประตูจาก 28 นัดก่อนย้ายมาแมนฯยูไนเต็ดในปี 2010
กลายเป็นนักเตะเม็กซิกันคนแรกที่ได้มาค้าแข้งกับปีศาจแดง จึงสร้างความภาคภูมิใจให้ครอบครัวมากๆ
"พ่อยังทำไม่ได้อย่างลูกเลย" -- ชิชาโร่ ผู้พ่อซึ่งเคยเล่นมิดฟิลด์สมัยเป็นนักเตะ เคยบอกกับ ชิชาริโต้ ไว้อย่างนี้
เขาเดินทางมาแมนเชสเตอร์กับลูกชายด้วย อยู่เป็นเพื่อนก่อนในช่วงแรกเพื่อช่วยเหลือในการปรับตัว
แน่นอนว่านักเตะเม็กซิกันต้องย้ายมาเล่นในอังกฤษ ย่อมเจอแบบทดสอบมากมาย ไม่ว่าจะเรื่องวัฒนธรรม , อาการ , อาหารหรือสไตล์ฟุตบอลที่ล้วนแตกต่างกันทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม เฟอร์กี้ เชื่อว่า ชิชาริโต้ จะรุ่งอย่างแน่นอน เขาบอกกับ ลอว์เลอร์ ว่าดูแค่แววตาของเจ้าหนูคนนี้ก็รู้สึกได้ถึงความมุ่งมั่นจริงจัง นี่แหล่ะจะเป็นคุณสมบัติทำให้ประสบความสำเร็จ
1
ชิชาริโต้ ลงประเดิมในเกมปรีซีซั่นซึ่งแมนฯยูไนเต็ดอยู่ในช่วงทัวร์สหรัฐฯเจอกับออลสตาร์เมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์
เขาลุกมาจากม้าสำรองแทน นานี่ ในนาทีที่ 63 หลังจากนั้นอีก 18 นาทีก็ซัลโวประตูได้เลย ด้วยการชิพบอลจากนอกกรอบเขตโทษข้ามผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างหมดจด โชว์ความเหนือชั้นให้เห็นกันเลย
แล้วในเกมคอมมูนิตี้ชิลด์กับเชลซี เขาก็ยังซัดอีก 1 ประตูช่วยให้แมนฯยูไนเต็ดเข่นนิ่มๆ 3-1
แม้ไม่อาจการันตีตัวจริงได้ เพราะเวลานั้น เฟอร์กี้ มีทั้ง เวย์น รูนี่ย์ และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ สองหัวหอกตัวกลั่น แต่เขาได้รับโอกาสเรื่อยๆ ต่อให้ต้องสำรองก็ไม่เคยเกี่ยง
ซีซั่นแรกเขาลงเล่นทั้งหมด 45 นัดทุกราย ก่อนจะส่องไป 20 ประตู ซึ่งเป็นการกระจายยิงได้ทุกถ้วยอีกต่างหาก ไม่เลวเลยสำหรับกองหน้าตัวเลือกอันดับ 3
เฟอร์กี้ ดูจะพอใจกับกองหน้าแบ็กอัพฝีเท้าดีขนาดนี้มากๆ
อย่างไรก็ตาม ชิชาริโต้ ไม่ค่อยแฮปปี้นัก อยากลงเล่นมากกว่าเดิม มีความกระหายลงตัวจริง หวังจะพิสูจน์ให้เห็นว่าดีพอ
เขาฝังใจว่าอาจเพราะเป็นนักเตะเม็กซิกัน การถูกยอมรับจึงไม่ง่ายนัก เรื่องนี้สร้างความหงุดหงิดให้ไม่น้อย
เพราะตลอดที่ เฟอร์กี้ เป็นผู้จัดการทีม ชิชาริโต้ ยังคงสถานะเดิมคือตัวสำรองเป็นหลัก ก่อนทิ้งทวนผลงานไว้ที่ 18 ประตูจาก 36 นัด เฉลี่ยแล้ว 2 นัด 1 ประตู ไม่เลวเลยทีเดียว
เขาหวังว่าจะได้รับโอกาสจาก เฟอร์กี้ มากขึ้นกว่าเดิม เพราะก่อนหน้านี้ได้เปิดอกคุยความในใจกันแล้ว เจ้านายรับปากว่าสถานการณ์จะดีหรือร้าย ขึ้นอยู่กับตัวเขาเองทั้งสิ้น
ผลงานเท่านั้นจะเป็นเครื่องชี้วัด แล้วเขาก็ทำได้ดีมากๆ เมื่อเทียบกับจำนวนนาทีที่ลงสนาม
ใครจะไปคิดว่าก่อนจบฤดูกาล ฟ้าจะผ่าเปรี้ยงที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เฟอร์กี้ ประกาศรีไทร์แบบไม่ให้ลูกทีมตั้งตัว
เมื่อขาดเจ้านายที่เป็นเหมือนเสาหลักไว้ให้ยึดเกาะ ชิชาริโต้ ก็แทบจะเคว้ง จับต้นชนปลายไม่ถูก อนาคตจะเป็นอย่างไรภายใต้บอสคนใหม่ ซึ่งเป็นใครก็ยังไม่รู้
อย่างไรก็ตามในยุค เดวิด มอยส์ ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่กังวลนัก เขาได้เล่นสม่ำเสมอ พร้อมกับจบซีซั่นที่ 9 ประตู ซึ่งลดลงตามผลงานของทีมที่ทรุดหนักด้วย
ทว่าพอ หลุยส์ ฟานกัล เข้ามาแทน มอยส์ อนาคตของ ชิชาริโต้ กับแมนฯยูไนเต็ดก็ดับวูบลงทันที
ยังไม่ทันได้ใช้งานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน กุนซือดัตช์กลับแจ้งไปยังบอร์ดเลยว่า หัวหอกเม็กซิกันไม่อยู่ในแผนการสร้างทีม จะปล่อยไปไหนก็ได้ตามสะดวก
เรื่องนี้สร้างความงุนงงให้กับ ชิชาริโต้ ยิ่งนักหรือว่ามันคืออคติส่วนตัว เพราะเคยมีการพูดถึงกันว่า ฟานกัล ไม่ชอบนักเตะจากละติน พวกบราซิลเคยถูกปฏิบัติแย่มากเมื่อครั้งยังคุมบาร์เซโลน่า
กระนั้นเขาถูกเรอัล มาดริดทาบทามยืมตัวไปใช้งาน 1 ฤดูกาล นี่คืออีกสโมสรที่ใฝ่ฝันอยากเล่นมาตั้งแต่ยังเด็กแล้ว โดยมีแรงบันดาลใจคือ ฮูโก้ ซานเชซ อดีตดาวถล่มประตูชาวเม็กซิโก ซึ่งสร้างชื่อกระหึ่มสมัยเล่นกับราชันชุดขาว
มันไม่ได้ดูแย่ไปนักเมื่อฤดูกาล 2014/15 จบลง ชิชาริโต้ ทำไป 9 ประตูกับอีก 9 แอสซิสต์ในทุกรายการที่ลงเล่น
แต่ที่แย่ยิ่งกว่าคือการกลับมาแมนฯยูไนเต็ดแล้วต้องเผชิญหน้ากับ ฟานกัล อีกครั้ง
ลึกลงไป ชิชาริโต้ หวังว่าอาจได้รับโอกาส เพราะความจริงไม่ต้องการย้ายจากที่นี่เลย ไม่ว่าอย่างไรจะขอดิ้นรนสู้เต็มที่เพื่อแย่งตำแหน่งให้ได้
พอเข้าไปคุยกับบอสที่ออฟฟิศ ความหวังพังครืนลงทันที ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
"ผมคุยกับเขาเรียบร้อยแล้ว เขาบอกกลับมาว่า ผมมีโอกาสเพียงแค่ 1 เปอร์เซนต์จะได้เล่นในตำแหน่งตัวเอง"
แม้ 1 เปอร์เซนต์ไม่ใช่เป็นศูนย์ แต่ไม่น่าจะเข้าใจอะไรยากอีกว่า ฟานกัล คิดอย่างไรกับ ชิชาริโต้
นั่นทำให้ ชิชาริโต้ ลืมฝันลมๆแล้งๆง่ายขึ้น ก่อนจะตัดสินใจย้ายไปไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
2 ฤดูกาลที่เยอรมัน เขาลงเล่นทั้งสิ้น 76 นัดซัดไป 39 ประตู นับเป็นผลงานที่น่าพอใจมากๆ ก่อนจะเลือกย้ายมาพรีเมียร์ลีกอีกครั้งเพื่อหวังพิสูจน์ตัวเองกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด
อย่างไรก็ตาม 17 ประตูใน 2 ซีซั่นมันน้อยเกินไป ก่อนขุนค้อนจะขายทอดตลาดไปให้เซบีย่า ซึ่งค่าตัวทั้ง 3 ครั้งนับตั้งแต่ย้ายจากแมนฯยูไนเต็ด รวมแล้วกว่า 30 ล้านปอนด์
ชิชาริโต้ ลงให้เซบีย่าแค่ 9 นัด ล่าสุดไปโผล่เปิดตัวเป็นสมาชิกใหม่แอลเอ แกแล็คซี่ในวัย 31 ปี เพื่อทดแทนการจากไปของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
จนถึงทุกวันนี้ ชิชาริโต้ อาจจะยังไม่เข้าใจว่าทำไม ฟานกัล จึงไม่เคยคิดให้โอกาสเขาเลยสักครั้งเดียว
ต่อให้ไม่ใช่เป็นกองหน้าสไตล์ที่ชื่นชอบ ก็ไม่ควรปฏิบัติกันอย่างนี้ เขามีผลงานที่การันตีได้ มันควรจะได้รับโอกาสบ้าง
ถ้าคุณมีกองหน้าที่ยิงประตูได้ดีและมีเลือดนักสู้ มุ่งมั่นเต็มที่เพื่อพิสูจน์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา คุณจะใจร้ายได้ลงคอหรือ
แต่ ฟานกัล ไม่ใช่อย่างนั้นแน่และเขาอาจให้คำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ด้วยว่าเพราะอะไร
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา