ค่าเหนื่อย ‘นิชิโนะ’ ปีละเกือบ 40 ล้าน...ถูกหรือแพงอยู่ที่ผลงาน
แฟนบอลไทยกด like เลยจ้า ‘บิ๊กอ๊อด’ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ อากีระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่นคนแรกในประวัติศาสตร์ทีมชาติไทยจรดปากกาต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปเรียบร้อยแล้วอีก 2 ปี
สัญญาฉบับใหม่จะทำให้ ‘นิชิโนะ’ ต้องรับหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ และ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีไปจนถึงปี 2022
‘บิ๊กอ๊อด’ เปิดเผยว่า นิชิโนะ ไม่ใช่คิดที่จะพัฒนาแค่ U23 หรือชุดใหญ่เท่านั้น เขาอยากจะวางระบบการฝึกสอน วิธีการเล่นของนักกีฬาตั้งแต่เยาวชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี สมาคมฯเห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่เราจะต้องวางระบบ ทำให้วันนี้ สมาคมฯ และ นิชิโนะ ได้บรรลุข้อตกลงในสัญญาร่วมกันไปอีก 2 ปี
"การเซ็นสัญญาฉบับนี้ ไม่ได้แปลว่าเราจะทำงานร่วมกันอีกแค่ 2 ปี ถ้าเราทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมองถึงประโยชน์ในวันข้างหน้า ทางสมาคมฯก็พร้อมที่จะต่อสัญญาต่อไป"
ขณะที่ ‘นิชิโนะ’ เปิดใจว่า หลังจากที่ทำงานกับทีมชาติไทย มานานกว่า 7 เดือนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก แต่ยอมรับว่ายังมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร และการปรับตัวกับ วัฒนธรรมไทย
"ตลอดการทำงานที่ผ่านมา ผมรับการสนับสนุนที่ดีจากแฟนบอลและสื่อมวลชน เข้าใจดีว่าแฟนบอลคาดหวังค่อนข้างสูง ผมจะพยายามตอบสนองให้ได้ตามที่หวัง ที่ผ่านมาทีมมีการพัฒนาในระดับหนึ่งทำให้ผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก และภูมิใจที่ได้ขยายสัญญาการทำงานออกไป อีก 2 ปี"
กุนซือชาวญี่ปุ่นเผยอีกว่า ทุกอย่างต้องใช้เวลา ไม่ใช่แค่เวลามาทีมชาติ แต่รวมถึงเวลาที่นักเตะอยู่กับสโมสรต้องพยายามพัฒนาต่อเนื่อง จากเกม ยู23 ชิงแชมป์เอเชียทำให้รู้ว่านักเตะไทยมีศักยภาพและอนาคตที่จะพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้ รวมถึงต้องพัฒนาเยาวชน โค้ช ตอนนี้จะพยายามสนับสนุน การ์เลส โรมาโกซา (ผู้อำนวยการเทคนิคทีมชาติไทย) อย่างเต็มที่ เพื่อให้การทำงานเป็นระบบมากกว่าเดิม
"เรื่องการดึงทีมงานโค้ชชาวญี่ปุ่นมาร่วมทำงานนั้น จริงๆแล้วที่ญี่ปุ่นผมมีสตาฟฟ์คู่ใจอยู่ แต่ด้วยจังหวะที่ยังไม่ดีจึงไม่สะดวกมา อีกทั้งเมื่อผมร่วมมือกับสตาฟฟ์โค้ชชาวไทยแล้ว ทุกคนต่างมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทีมชาติไทย และพร้อมที่จะเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเอง ทำให้เราตัดสินใจใช้สตาฟฟ์โค้ชคนไทยต่อไป"
สำหรับค่าเหนื่อยของ ‘นิชิโนะ’ มีรายงานว่าจากเดิมได้รับจากสมาคมฯเดือนละประมาณ 3 ล้านบาท ถือเป็นค่าจ้างที่เป็นสถิติแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยอยู่แล้ว ส่วนสัญญาฉบับใหม่มีข่าวว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 10% ทำให้คาดว่าตกปีละเกือบ 40 ล้านบาทเลยทีเดียว
ตัวเลขตรงนี้เป็นรายงานข่าวและการคาดหมายเท่านั้น เนื่องจากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ส่วนจะถูกหรือแพงคงต้องแล้วแต่มุมมอง อันดับแรกเลยต้องมองว่า ‘นิชิโนะ’ ถือเป็นกุนซือโปรไฟล์หรู ผ่านการคุมทีมไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มาแล้วและเป็นที่ยอมรับระดับแถวหน้าเอเชีย ดังนั้นค่าเหนื่อยย่อมไม่ธรรมดา
แต่ค่าเหนื่อยของ ‘นิชิโนะ’ จะถูกหรือแพงคงวัดกันที่ผลงานมากกว่าว่าจะยกระดับและมาตรฐานฟุตบอลไทยได้มากน้อยแค่ไหน หากทีมชาติไทยผงาดไปอยู่แถวหน้าของเอเชียได้ดั่งที่หลายๆคนคาดหวังก็คงต้องบอกว่า......ไม่แพงเลยสักนิด
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
