24 ม.ค. 2020 เวลา 06:08 • ปรัชญา
...#เล่าเรื่องพระธุดงค์กลัวผี...😱💀😱
...การเยี่ยมป่าช้า เป็นอุบายอย่างหนึ่งที่หลวงปู่ใช้สอนศิษย์ในการภาวนา ท่านให้พิจารณาทั้งป่าช้านอก คือที่ฝังหรือเผาศพ กับป่าช้าใน ได้แก่การพิจารณาเป็นอสุภะภายในร่างกายตน
หลวงปู่เล่าถึงลูกศิษย์ของท่านองค์หนึ่ง เดินธุดงค์ไปถึงหมู่บ้านตอนเย็นๆ โยมพาไปพักริมป่าช้าโดยที่ท่านไม่รู้ การภาวนาคืนแรกจึงผ่านไปด้วยดี
มาวันที่สอง ตกบ่ายชาวบ้านได้หามคนตายมาเผาใกล้ๆที่ท่านอยู่ ท่านรู้สึกใจไม่ดี นึกเลยไปถึงความกลัวในตอนกลางคืน จะย้ายกลดหนีก็ไม่ได้เพราะอธิษฐานไว้แล้ว ตกกลางคืนยิ่งรู้สึกกลัวจนขนลุกขนพอง ท่านเป็นทุกข์มาก รู้สึกตีบตันไปหมด ใจไม่เป็นอันภาวนาหลับตาทีไรเห็นแต่ภาพเขาหามศพ เผาศพ และเห็นผีมากมายมาหาท่านทุกข์ทนทรมารรายชั่วโมง
ยังพอมีสติอยู่บ้าง นึกละอายที่เป็นพระแต่กลัวผี รู้ไปถึงไหนก็อับอายไปถึงนั่น นึกถึงคำสอนของหลวงปู่ว่า "กลัวที่ไหนให้ไปที่นั่น" ท่านจึงตัดสินใจจะไปนั่งภาวนาข้างกองไฟที่เผาศพ พอลุกขึ้นยืนใจก็สั่นก้าวขาไม่ออก พยายามแข็งใจค่อยๆสืบเท้าเดินเข้าไป เหงื่อท่วมจีวร อุตส่าห์เดินไปถึง ยิ่งกลับกลัวหนัก ฝืนใจนั่งสมาธิโดยหันหน้าไปทางกองไฟ บังคับใจที่กำลังกลัวให้บริกรรมว่า เราก็จะตาย ไม่ต้องกลัว เราก็จะตาย กลัวทำไม ไม่ต้องกลัว
ใจเริ่มสงบลง กำลังจะหายกลัว เกิดมีเสียงย่ำเท้าเหยียบใบไม้กรอบแกรบมาข้างหลัง เดินๆ หยุดๆ เดินตรงมาหาท่าน มันหยุดห่างท่านสัก ๓ วา ได้ยินเคี้ยวของแข็งดังกรุบๆ ยิ่งทำให้ท่านกลัวหนัก นึกว่าท่านคงไม่รอดแน่ ผีร้ายตนนั้นคงจะมากัดกินศรีษะท่านแน่ๆ ด้วยความกลัวสุดขีด ตัดสินใจลืมตาดู เพื่อไม่ให้การวิ่งหนีเอาตัวรอดก่อน
พอลืมตาขึ้นดู ปรากฏว่าเป็นสุนัขบ้าน กำลังขบกินเศษอาหารที่เขานำมาเซ่นผู้ตาย เลยนึกขบขันและรู้สึกสมเพชตัวเองรำพึงว่า "เจ้าหมาตัวนี้มีอำนาจวาสนามากจัง ทำเอาพระธุดงค์กลัวแทบตัวปลิวไปได้"
จากนั้นท่านก็ตั้งใจปฏิบัติภาวนาอย่างกวดขัน จนขจัดความกลัวไปได้ เข้าไปภาวนาในป่าช้าได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ยึดเอาคนตายเทียบกับคนเป็น ว่าเป็นส่วนผสมของธาตุเช่นเดียวกัน เมื่อปราศจากใจครองแล้ว ธาตุทั้งมวลที่ผสมกันอยู่ก็สลายลงไป ที่เรานึกกลัวนั้นแท้จริงแล้วก็เพราะใจหลอกหลอนตัวเราเอง...
ที่มา : หนังสือ อริยสงฆ์แห่งแผ่นดิน ชุดที่ ๑ ชาติภูมิและคำสอน เล่มที่ ๑ [หลวงปู่มั่น ภูริทัตฺโต] พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ
โฆษณา